จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ จัดงาน “2025 The Real Korea, Gyeonggi” ส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม MICE พร้อมเปิดสำนักงานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกีอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี (Gyeonggi Tourism Organization – GTO) ได้เปิดสำนักงานประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ อาคาร Interchange 21 ย่านอโศก กรุงเทพฯ นับเป็นหน่วยงานท่องเที่ยวท้องถิ่นเกาหลีแห่งแรกที่มีสำนักงานในต่างประเทศ มุ่งขยายกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและการตลาดระดับสากลอย่างมีประสิทธิภาพ
ในวันเดียวกัน ได้มีการจัดงาน “2025 The Real Korea, Gyeonggi” สร้างเครือข่ายการทำธุรกิจระหว่างคู่ค้าธุรกิจด้วยกันเอง หรือ B2B Networking ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯโดยมีหน่วยงานภาครัฐ สื่อมวลชน และผู้นำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเข้าร่วม พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตัวแทนจากภาคการท่องเที่ยวของเกาหลี เพื่อร่วมกันพัฒนาสินค้าและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศอย่างยั่งยืน

ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเกาหลีในไทย
จังหวัดคยองกีมีทั้งหมด 31 เมือง และเป็นพื้นที่ที่มีประชากรมากที่สุดในเกาหลีใต้ ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย จึงเปรียบจังหวัดคยองกี เสมือนเกาหลีใต้ย่อส่วน ที่ผู้ไปเยือนจะได้สัมผัสทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเกาหลี พร้อมกับประสบการณ์อันหลากหลายทั้งในเมืองและท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามได้ในที่เดียว
นาย โจ วอนยง ประธานบริหารองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและ MICE ในประเทศไทยเป็นประเทศแรก งานนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเกาหลีและไทย รวมถึงเปิดโอกาสให้จังหวัดคยองกีเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของจังหวัดคยองกี มีสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมแน่นแฟ้นกับเกาหลีใต้ โดยเฉพาะกระแส K-POP, K-Drama และ K-Food ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย นอกจากนี้ กระแสการเดินทางแบบอิสระ (FIT) กำลังเติบโตขึ้น ทางองค์การฯ จึงมุ่งเน้นพัฒนาเนื้อหาการท่องเที่ยวที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มนักเดินทางรุ่นใหม่
อีกทั้งได้จัดให้มี “ประกันความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้ มอบความคุ้มครองฟรีให้กับนักท่องเที่ยวครอบคลุมเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างการเดินทางในจังหวัดคยองกีโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างความมั่นใจและสภาพแวดล้อมการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย

ศูนย์กลางใหม่ของอุตสาหกรรม MICE
จังหวัดคยองกียังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentives, Conferences, and Exhibitions) ด้วยทำเลที่ตั้งใกล้กรุงโซลและสนามบินนานาชาติอินชอน ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง และยังมีศูนย์ประชุมและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการจัดแสดงและการประชุมขนาดใหญ่ เช่น KINTEX (Korea International Exhibition Center) รวมถึงยังมีโรงแรมและห้องประชุมที่รองรับการจัดงาน MICE ทุกขนาดได้อย่างครบวงจร
นอกจากนี้ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกียังมีโครงการสนับสนุนบริษัทและองค์กรจากประเทศไทยที่ต้องการจัดงาน MICE ในจังหวัด โดยให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ ค่าเช่าสถานที่ การตลาด และโปรแกรมเสริม เพื่อส่งเสริมให้คยองกีกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับสากลสำหรับงานประชุมและอีเวนต์สำคัญ
จุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไทย
นางสาวอี ฮโยจิน ผู้อำนวยการสำนักงานประเทศไทย องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี กล่าวว่า จากสถิติการท่องเที่ยวพบว่านักเดินทางชาวไทยให้ความสนใจสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในคยองกี โดยเฉพาะ “เอเวอร์แลนด์”สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี พร้อมโซน Safari World และเทศกาลที่จัดขึ้นตามฤดูกาล ขณะที่ “ป้อมฮวาซองซูวอน” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก และ “หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี” ก็ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ คยองกีมีจุดชมวิวที่สวยงาม เช่น Garden of Morning Calm ที่มีความน่าสนใจตลอดทั้งสี่ฤดู และ Yangpyeong Dumulmeori สถานที่ยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับวิวริมแม่น้ำที่เงียบสงบ รวมถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง “เขตปลอดทหาร DMZ” ที่พาจู ซึ่งให้ประสบการณ์การเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์และสันติภาพ
ด้าน นาย อี ดงรยอล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี กล่าวว่า ในปีนี้ จังหวัดคยองกีมุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ 4 ธีมหลัก ได้แก่
1. การท่องเที่ยวตามรอยสถานที่ถ่ายทำละครดัง(K-Content) เช่น Lovely Runner, Queen of Tears และ Crash Landing on You ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟนละครทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย
2. การท่องเที่ยวเพื่อการฟื้นฟูและผ่อนคลาย (Wellness & Healing) ประสบการณ์ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและการพักผ่อน เช่น บ่อน้ำพุร้อน, Forest Healing และการเข้าพักแบบ Temple Stay
3. การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและสันทนาการ (Nature & Leisure) กิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า เล่นสกี และกีฬาทางน้ำ ที่สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี
4. การท่องเที่ยวเชิงอาหารและช้อปปิ้ง (Gastronomy & Shopping) สัมผัสวัฒนธรรมอาหารเกาหลีดั้งเดิมและแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่นักท่องเที่ยวไทยชื่นชอบ


จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง
ในปี 2024 จังหวัดคยองกีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.17 ล้านคน เพิ่มขึ้น 48.3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ที่ผ่านมา และฟื้นตัวถึง 83.2% เทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 คาดว่าในปี 2025 จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีกจากกระแส K-Culture และแพ็กเกจท่องเที่ยวใหม่ๆ
ด้านนักท่องเที่ยวชาวไทย เมื่อปี 2019 ก่อนเกิดโควิด มีนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเยือนเกาหลีประมาณ 570,000 คน ล่าสุดปี 2024 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยลดลงเหลือประมาณ 330,000 คน ซึ่งในปี2025 นี้คาดหวังว่า นักท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นตัวเลขเดิม ที่ประมาณ 570,000 คน
“องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกีมีเป้าหมายที่จะขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับประเทศไทยในระยะยาว หากนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาเกาหลี อย่าลืมแวะเยือนจังหวัดคยองกี เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของธรรมชาติ วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ และความบันเทิงหลากหลาย ซึ่งจะทำให้ทุกการเดินทางเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ” นายโจ วอนยงประธานบริหารองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี กล่าว