เพ ลา เพลิน จังหวัดบุรีรัมย์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนเพ ลา เพลิน สร้างมูลค่าเพิ่ม เสริมศักยภาพข้าวจากพื้นถิ่น เปิดตัว AKAYA (เอกายา) RICE WINE ภายใต้แนวคิด “ภูมิปัญญานครชัยบุรินทร์จาก Local สู่ Global” โอสถรสอร่อย จากข้าวพื้นถิ่นเขตนครชัยบุรินทร์ ที่ผสานภูมิปัญญาตะวันออก การหมักบ่มของไทย เข้ากับรสชาติร่วมสมัย โดยได้รับความร่วมมือจาก กรุ๊ป บี เบียร์ และ เกษรอัมรินทร์ โซน RAYNUE (เรณู) แหล่งแฮงค์เอาท์สุดฮิปใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อมอบประสบการณ์ “Taste of Time” ที่จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์การกิน-ดื่มของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมงาน และอาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา ร่วมพูดคุยและจุดประกายการนำ “โอสถรสอร่อย” AKAYA RICE WINE เชื่อมโยงกับมิติทางสุขภาพของไทย และได้รับความสนใจจากผู้บริหารธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจนำเข้าส่งออกร่วมงานในครั้งนี้
AKAYA RICE WINE ถือกำเนิดจากเรื่องเล่าของข้าวพื้นถิ่นจาก 4 จังหวัดในนครชัยบุรินทร์ ได้แก่ ข้าวกล้องทับทิมชุมแพ (ข้าวนกกระเรียน) จากจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นข้าวที่ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยซึ่งเป็นสัตว์สงวนหายาก, ข้าวเหนียว กข6 จากจังหวัดนครราชสีมา เป็นพันธุ์ข้าวเหนียวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย มีรสชาติหวาน นุ่ม และเหนียว, ข้าวเหนียวดำพันธุ์หอมภูเขียว จากจังหวัดชัยภูมิ เป็นที่รู้จักในเรื่องของสีม่วงดำที่เป็นเอกลักษณ์ รสชาติฝาด และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้าวมะลินิลสุรินทร์ จากจังหวัดสุรินทร์ เป็นข้าวเจ้าหอมที่มีสีม่วงอ่อน เป็นพันธุ์ข้าวที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งข้าวแต่ละชนิดล้วนมีเอกลักษณ์และคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยข้าวที่นำมาใช้เป็นข้าวหักที่ถูกคัดออกจากการส่งออก นำมาทำเป็นลูกแป้ง โดยผสมกับสมุนไพรไทยกว่า 32 ชนิด และนำมาเข้าสู่กระบวนการหมักบ่มตามแบบไทย ที่เรียกว่า กระบวนการทำสาโท โดยวิสาหกิจชุมชน เพ ลา เพลิน สู่ผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ถิ่น
นายประณัย สายชมภู กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด กล่าวว่า “เพ ลา เพลิน คิดว่า เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เป็นเรื่องเดียวกัน AKAYA RICE WINE เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพ ลา เพลิน ได้ร่วมสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน เพ ลา เพลิน มาครบ 1 ปีพอดี เพื่อช่วยผลักดันเรื่องข้าวของประเทศไทย จากโจทย์ของเกษตรกรในพื้นที่บุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงที่มีข้าวหักและถูกคัดออก นำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ผ่านการหมักบ่มตามกรรมวิธีในการทำสาโทของไทย ซึ่งถือเป็นวิถีที่ชาวไทยเราทำกันมาเนิ่นนาน ในฤดูเกี่ยวข้าวจะมีการทำสาโทเพื่อฉลองขอบคุณญาติพี่น้อง คนในครอบครัว หรือเพื่อนบ้าน ที่มาช่วยกันเกี่ยวข้าว แต่ AKAYA RICE WINE นี้ เพ ลา เพลิน ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนา พยายามยกระดับคุณภาพมาตรฐานมากขึ้น แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์แบบไทย อีกทั้งเรายังได้ผนวกเอาองค์ความรู้ศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยทีมหมอจากศูนย์สุขภาพ AROKAYA WELLNESS SALA เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ และอยากจะผลักดันผลิตภัณฑ์นี้จาก Local สู่ Global ให้ได้ และต้องขอบคุณพันธมิตรทาง แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม จ.สุรินทร์ ที่เข้ามาช่วยกันถ่ายทอดองค์ความรู้ และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและนอกพื้นที่ รวมถึงภาคการท่องเที่ยว และทางกรุ๊ป บี เบียร์ ที่ร่วมกันผลักดัน AKAYA RICE WINE
นอกจากนั้น AKAYA RICE WINE ยังสามารถต่อยอดเป็นของฝากในพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวได้ เราจึงออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีกลิ่นอายและเรื่องราวของ 4 จังหวัด นครชัยบุรินทร์ อยู่ในบรรจุภัณฑ์ด้วย และ เพ ลา เพลิน เรามีการนำมาบูรณาการกับการท่องเที่ยวภายในโครงการ เช่น การนำมาเป็นเครื่องดื่มเปิดต่อมรับรส ให้นักท่องเที่ยวก่อนทานอาหาร นำมาจัดชุดคู่กับอาหาร หรือแม้กระทั่งเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เข้ามาศึกษาดูงานในพื้นที่ นอกจากเครื่องดื่ม เราก้มีการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนในการทำข้าวหมาก และเอามาต่อยอดบริการภายในห้องอาหาร เช่น ขนมปังข้าวหมาก ข้าวหมากโยเกิร์ต และขนมถ้วยฟูจากข้าวหมากเป็นต้น”
AKAYA RICE WINE ยังมีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาตามตำรับแพทย์แผนไทย เนื่องจากมีพรีไบโอติกส์จากธรรมชาติ และมีจุดเด่นที่รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หอม หวาน และมีความซ่าจากการหมักบ่มตามธรรมชาติ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยอาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา ได้จุดประกายความคิดในการต่อยอด และนำเสนอออกมาตามหลักการแพทย์แผนไทยเช่น การทำน้ำกระสายยาที่มีส่วนผสมของน้ำต้อยข้าวหมาก หรือสูตรเมนู cocktail และ mocktail ที่ดีต่อสุขภาพทั้งสำหรับเพศหญิง เพศชาย และเมนูที่ช่วยเรื่องลำไส้ ระบบขับถ่ายเป็นต้น
AKAYA RICE WINE พร้อมแล้วที่จะนำเสนอคุณค่าและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวพื้นถิ่นไทยสู่สายตาชาวโลก และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับสาโทไทยจาก Local สู่ Global