เมื่อผลลัพธ์ทางความคิดตกผลึกกลายเป็นชิ้นงานที่สร้างสีสันสนุกๆ ให้กับโลกของการดีไซน์ ซึ่งถูกผสมผสานจากทั้งความชอบและความรัก เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีรูปร่างสะท้อนมุมมองรวมถึงสไตล์ของดีไซเนอร์ได้อย่างชัดเจนและลงตัว ของแต่งบ้านแบรนด์ Moreover ออกแบบโดย “คุณปุ้ม – นวัต ศักดิ์ศิริศิลป์ (Founder & Design Director) ร่วมกับคุณตี้ – กรวุฒิ กาญจนาบุญมาเลิศ (Co-founder & Creative Marketing) ภายใต้แนวความคิดในการออกแบบ Creative Function โดยสามารถนำโปรดักต์ไปใช้ได้อย่างสร้างสรรค์และหลากหลาย
ก่อนจะเป็นแบรนด์ Moreover
ผมเคยเป็นดีไซเนอร์ให้กับที่อื่นมาก่อน แต่รู้สึกว่าเวลาออกแบบงานไม่ใช่เราร้อยเปอร์เซ็นต์ เลยอยากทำงานสักชิ้นที่เป็นตัวเองจริงๆ แล้วทดลองขายดู ช่วงแรกที่ออกแบบผมอ้างอิงจากตัวเองอย่างเดียว ดึงเอาความชอบมาใส่ในงานออกแบบล้วนๆ งานชิ้นแรกที่ทำแล้วได้ผลตอบรับดีเกินคาดคือ Early Bird หลังจากนั้นเลยชวนคุณตี้ซึ่งมีความถนัดเรื่องมาร์เก็ตติงมาจอยกัน แล้วก็เริ่มวางคอนเซ็ปต์คร่าวๆ สร้างแบรนด์ออกมาให้ชัดเจน
คอนเซ็ปต์ในการออกแบบ
ผมนำเอาความรู้จาก 2 แขนงระหว่างแพคเก็จจิงมารวมเข้ากับการออกแบบโปรดักต์มาใช้ในการสร้างแบรนด์ พยายามทำชิ้นงานให้มีเสปซ คือ เราออกแบบครึ่งหนึ่งแต่เราไม่ได้คิดให้เขาหมด แต่เราปล่อยสเปซให้คนที่เป็นลูกค้าได้คิดต่อเองว่าจะนำโปรดักต์ที่อยู่ในมือพวกเขาไปทำอะไรได้บ้าง เป็น Creative Function หรือเรียกว่าดีไซน์ปลายเปิด เป็นมัลติฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย
เอกลักษณ์ของ Moreover
ถ้าในเรื่องของแนวความคิด Moreover มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ส่วนเรื่องของวัสดุเราไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นเหล็กเพียงอย่างเดียว สามารถปรับเปลี่ยนไปตามชิ้นงาน อาจจะนำไม้ สเตนเลสมาบวกเข้ากับวัสดุเหล็ก แต่ผมนำความถนัดในเรื่องของการพับมาเป็นเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ โดยยึดคอนเซ็ปต์แบรนด์เป็นหลักแล้วค่อยๆ แตกแยกย่อยออกมา พยายามหาสตอรีใส่เรื่องราวเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ในปัจจุบัน ความต้องการของลูกค้า เราพยายามหาจุดลงตัวให้บาลานซ์กันแต่ให้ทุกอย่างอยู่ในธีม
ใช้เหล็กเป็นวัสดุหลัก
ลูกค้าติดภาพเหมือนกันว่าใช้เหล็กเป็นหลัก แต่เราไม่อยากเจาะจงว่าต้องเป็นเหล็กอย่างเดียว เพราะมันเป็นการมัดตัวเอง เราพยายามจะเปลี่ยนฟอร์มไม่ว่าจะเป็นไม้ในบางส่วน เช่น ฐานของตัวต้นไม้ หรือคอลเลคชันใหม่อาจจะเป็นไม้มากขึ้น ไม่ก็นำสเตนเลสที่มีลักษณะคล้ายกระจกมาใช้แทน หรือในอนาคตนำเหล็กที่เป็นฟอร์มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเส้น เหล็กหล่อ โดยเราจะค่อยๆ ปรับความเข้าใจว่าเราทำได้มากกว่านั้น แต่ตอนนี้ยังมีเหล็กเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ เพราะว่ามันคือซิกเนเจอร์ของเรา
ชิ้นงานหลากหลาย
เราจะนำสตอรีมาเล่าเป็นกรุ๊ป แล้วทำให้เป็นคอลเลคชันเดียวกัน อย่างเช่น Season Collection ประกอบด้วย Summer Sunset , Winter Forest, Come rain come shine ซึ่งจะเชื่อมโยงการออกแบบ เป็นแนวคิดเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี Origami Collection ประกอบด้วย Early Bird สามารถห้อยของได้อเนกประสงค์หรือใช้ในห้องครัว เช่น ผ้าเช็ดมือ ผ้ากันเปื้อน หรือตกแต่งร้านอาหารและคาเฟ่ นอกเหนือจาก Early Bird มี Welcome Home ที่เป็น new product มีฟังก์ชันการใช้งานมันเหมือนกัน แต่ต่างมีนนิ่ง คอนเซ็ปต์ของ Early Bird เหมือนกับการรีบออกจากบ้าน แต่ Welcome Home หมายถึงการต้อนรับกลับบ้าน
บางทีในต่างประเทศมีเทรนด์ลดใช้ถุงพลาสติก ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ต้องใช้ Tote bag ไปจ่ายตลาดกลับมาก็แขวนบนนี้ได้ หรือในคอนโดมิเนียมสามารถติดเพื่อไว้เสียบจดหมาย วางกุญแจ เป็น 3 in 1 ที่ใช้งานได้หลากหลาย เป็นต้น
บทสรุปของ Moreover
ผมเชื่อว่าเมนไอเดียของเรา คือ ให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถเติมเต็มตัวตนของเขาลงไปในของได้ ซึ่ง Moreover นำไปสร้างสรรค์ได้ตามต้องการ ส่วนวัสดุเหล็กก็มีความพิเศษ คือ แข็งแรง แม้ว่าลุคจะดูไม่อีโคแต่มีความเป็นอีโค่สูงหลอมได้เลย ไม่เหมือนต้นไม้ที่ต้องปลูกทดแทน หรือพลาสติกที่ต้องหลอมอัตราส่วน 20-80 ไม่ได้หลอมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเหล็ก ผมว่าของแต่งบ้านแนวนี้เป็นทางเลือกที่หลากหลายมากและก็ไม่ได้รู้สึกเคอะเขินที่งานเหล็กจะไปอยู่ร่วมกันกับของแต่งบ้านอื่นๆ
http://www.moreoverdesign.com
โทร. 08 4971 5924, 08 4641 4170
เรื่อง วาสสุคนธ์ เอกประดิษฐ์
ภาพ @kitchen/Moreover
