ตามเราไปสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยระดับพรีเมียมกันที่โครงการ S’RIN PRANNOK-KANCHANA โดย สิงห์ เอสเตท นิยามใหม่ของบ้านที่ออกแบบอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ผสมผสานแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมเมดิเตอร์เรเนียนและนวัตกรรมการอยู่อาศัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เน้นความโปร่ง โล่ง สบาย เปิดรับแสงและลมจากธรรมชาติ เพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกบ้านไว้อย่างกลมกลืน พร้อมรองรับการใช้ชีวิตของสมาชิกครอบครัวทุกเจเนอเรชัน ภายใต้แนวคิด “CRAFTED TO LAST” เพราะบ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่คือพื้นที่แห่งความสุขในทุกวัน
ในยุคที่บ้านไม่ได้เป็นพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ ความชอบของผู้เป็นเจ้าของ ทั้งยังเป็นศูนย์รวมครอบครัว พื้นที่ที่ทุกคนจะได้ใช้เวลาและสร้างความทรงจำร่วมกันในทุกๆ วัน การเลือกบ้านสักหลังจึงต้องตอบโจทย์ในทุกมิติสำหรับการใช้ชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคต สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและการใช้สอย S’RIN PRANNOK-KANCHANA จึงออกแบบบ้านทุกหลังภายในโครงการให้เสมือนเป็นบ้านที่ดีที่สุดของชีวิต ด้วยคอนเซ็ปต์ Infinite Living – บ้านเพื่อทุกการเติบโตไม่มีที่สิ้นสุด
ภายในพื้นที่ของโครงการกว่า 56 ไร่ 81 ยูนิต ประกอบไปด้วยบ้านทั้งหมด 3 แบบ Residence I Residence II และ Residence III โดยการตกแต่งบ้านได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองดังระดับโลกอย่าง Palermo อิตาลี Palm Springs แคลิฟอร์เนีย และ Nice ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถ่ายทอดผ่านบรรยากาศ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง บ้านแต่ละหลังยังออกแบบเพื่อรองรับครอบครัวใหญ่และการใช้ชีวิตของสมาชิกในทุกช่วงวัยแบบ Multi-Generations ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังก์ชันหรือพื้นที่ใช้สอยก็ตอบโจทย์ลงตัว มีพื้นที่ขนาดเฉลี่ยต่อหลังประมาณ 160 ตารางวา ทุกยูนิตออกแบบให้พื้นที่หลังบ้านมีความลึกถึง 3-4 เมตร
ในส่วนของดีไซน์บ้าน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ Mediterranean Revival สร้างประสบการณ์ให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของศิลปะและวัฒนธรรมแห่งท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เริ่มตั้งแต่ Welcoming Archways ซุ้มโค้งที่มอบความรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ตัวบ้าน ช่วยเพิ่มมิติและแฝงไปด้วยความคลาสสิกเข้ากับสไตล์ของบ้าน นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดซึ่งถูกออกแบบอย่างใส่ใจทุกตารางนิ้ว อย่าง Cornice & Rafter ยกระดับความงามของบ้านให้น่าสนใจด้วยดีไซน์บัวและค้ำยันที่มีดีไซน์ประณีตพิถีพิถัน
ทั้งยังสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงให้กับพื้นที่ภายในและภายนอกด้วย Seamless Indoor-Outdoor Harmony ผ่านช่องแสงขนาดใหญ่ สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง และน่าอยู่ มาพร้อมกับเส้นโค้ง Soft Curves & Flowing Lines ช่วยสร้างความนุ่มนวล ลื่นไหล ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาในทุกมุมมอง ทั้งหมดนี้ยังถูกเติมเต็มด้วยการเลือกใช้ Rustic Materials & Earthy Tones วัสดุธรรมชาติและสีเอิร์ธโทน ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบง่าย ผ่อนคลาย ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความหรูหรา
พูดถึงภาพรวมบ้านของโครงการ S’RIN กันพอสมควรแล้ว ซึ่งเราได้กล่าวไว้ข้างต้นว่ามีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ทว่าครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเยี่ยมชม Residence II ออกแบบตกแต่งสไตล์Palm Springs ประกอบไปด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 แฟมิลีแอเรีย 1 ลิฟวิงรูม 1 เพลย์รูม 2 ห้องเมด และ 1 ห้องรองเท้า สำหรับส่วนลิฟวิงหลักของบ้านจะโดดเด่นด้วยการออกแบบห้องอาหาร และมุมนั่งเล่นให้เชื่อมต่อกับพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่ในลักษณะ Outside-In รายล้อมด้วยสวนสีเขียวหรือสระว่ายน้ำส่วนตัว ทั้งยังมีครัวแพนทรีและครัวไทยไว้รองรับการใช้งาน เพิ่มฟังก์ชันให้สเปซนี้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนและการใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยยังออกแบบเพื่อรองรับการเติบโตของครอบครัวอย่างแท้จริง สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามไลฟ์สไตล์และความต้องการ โครงสร้างบริเวณ Double Volume เตรียมความพร้อมไว้สำหรับการต่อเติมเพิ่มฟังก์ชันบนชั้น 2 ได้ในอนาคต และยังปรับขยายพื้นที่ของแต่ละห้องได้ตามการใช้งาน รวมถึงมีพื้นที่รองรับการติดตั้ง Home Lift เพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังออกแบบโรงจอดรถให้มีเพดานสูง สามารถรองรับ Car Lift โดยจอดรถได้มากถึง 10 คัน
ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลัก Universal Design ชั้น 1 ของบ้านไม่มีพื้นต่างระดับ ไม่มีขอบสะดุด เป็น Wheelchair Friendly รองรับการใช้รถเข็น และมีห้องสำหรับผู้สูงอายุที่เลือกใช้วัสดุปูพื้น Shock Absorption Floor นำเข้าจากฝรั่งเศส ให้สัมผัสนุ่มนวล ซับแรงกระแทก ลดความรุนแรงจากการหกล้ม เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก พื้นที่ภายในห้องออกแบบขนาดใหญ่พิเศษรองรับผู้ดูแลใกล้ชิดให้มีความคล่องตัว อยู่สบาย ทั้งยังสามารถเดินออกสู่สวนส่วนตัว เพิ่มบรรยากาศและเปิดมุมมองให้พื้นที่สีเขียว ปลอดภัยด้วยการติดตั้งไฟฟ้าฉุกเฉินในจุดเสี่ยง ส่องสว่างเมื่อระบบไฟฟ้าดับ
ถัดไปในส่วนของการตกแต่งภายในของบ้านตัวอย่างทั้ง 3 หลัง ยังได้ผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับพรีเมียมอย่าง Quattro Design มาเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์จาก Eichholtz แบรนด์ลักซ์ชัวรีสัญชาติเนเธอร์แลนด์ที่โดดเด่นด้านดีไซน์อันประณีตและวัสดุคุณภาพ นำเข้ามาตกแต่งเสริมบรรยากาศของบ้านให้สวยงามทั้งการมองเห็น ผิวสัมผัส และรองรับการใช้งานได้จริง
นอกจากนี้ยังตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ในเรื่องของ Sustainability & Well-Being มาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ วัน ทั้งระบบหมุนเวียนอากาศ S-Air ช่วยให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดี ลดการสะสมของความร้อน ใช้ไอเดีย Cross Ventilation ออกแบบวางตำแหน่งของหน้าต่างบนผนังห้องเพื่อให้ลมพัดโฟลว์ ลดความอบอ้าว ใส่ใจเรื่องคุณภาพน้ำด้วยการติดตั้งระบบกรองน้ำ Water Purifier ก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน และปั๊มน้ำแรงดันคงที่ Constant Pressure Water Pump ช่วยให้การใช้น้ำราบรื่นไม่มีสะดุด รองรับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ด้วยการติดตั้ง Solar Cell แบรนด์ Solar D ซึ่งเป็นตัวแทนติดตั้ง Tesla Powerwall อย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทยให้บ้านทุกหลัง เพื่อการใช้พลังงานทางเลือกอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีระบบ Water-Reuse ในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อนำทรัพยากรกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผสานกับการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีและสร้างความยั่งยืนให้โลกในระยะยาว
นอกจากการออกแบบบ้านและฟังก์ชันที่ลงตัวแล้ว S’RIN PRANNOK-KANCHANA ตั้งอยู่บนถนนพรานนกตัดใหม่ ทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำ โรงพยาบาลระดับประเทศ และศูนย์การค้าครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ โรงเรียนนานาชาติ SISB มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลศิริราช ทุกองค์ประกอบของ S’RIN PRANNOK-KANCHANA ถูกออกแบบอย่างตั้งใจ เพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ไม่ใช่แค่สวย แต่เรียกว่าเป็นบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งวันนี้และอนาคตได้อย่างแท้จริง
