บ้านจัดสรรขนาดพอดีอยู่หลังนี้เป็นของคุณบิว-ศรัณย์รัชต์ ชื่นคุ้ม และคุณเม่น-ปัญญภฤศ แก่นจันทน์ ไม่เพียงเป็นพื้นที่อยู่อาศัยแต่ยังเป็นที่พักกายพักใจจากความเหนื่อยล้า รวมถึงเป็นสตูดิโอและที่ทำงานของทั้งสองคน ท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่าย มินิมอล ทว่าเต็มไปด้วยรายละเอียดการตกแต่งที่สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวแรงบันดาลใจ ดีไซน์ ความชอบ และไลฟ์สไตล์ซึ่งบ่งบอกความเป็นตัวเองไว้ในทุกมุมของบ้าน


หลังจากติดตามโซเซียลมีเดียของคุณบิวที่มักจะมาแชร์ไอเดียการตกแต่งให้เราได้เห็นมุมต่างๆ ของบ้านอยู่เสมอ จนเป็นที่มาของการนัดสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ชวนทุกคนตามเราไปโฮมทัวร์และพูดคุยกับคุณบิวและคุณเม่นด้วยกันเลย “ก่อนหน้านี้เราอยู่คอนโดฯ แถวกัลปพฤกษ์ แล้วอยากขยับขยายจึงเริ่มมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น เราไปดูมาหลายโครงการประมาณ 3-4 ที่ จนมาเจอโครงการนี้ตรงกับโจทย์ความต้องการของเรา คือเป็นบ้านแฝดแต่ออกแบบให้คานหลังคาโรงจอดรถชนกันแทนผนังบ้าน เวลามองจากด้านนอกหรืออยู่ในบ้านจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านเดี่ยวมากกว่า แล้วบิวก็ชอบบ้านที่มีประตูหน้าต่างเยอะ มีพื้นที่รอบๆ บ้านจะได้ไม่มืด โปร่งโล่ง สบายๆ” คุณบิวเริ่มต้นเล่าให้ฟัง
“แล้วที่นี่ก็เป็นโครงการใหม่ ทำเลอยู่ไม่ไกลจากย่านเดิมที่เราคุ้นเคย ดีไซน์ของบ้านก็เรียบๆ ไม่ได้มีดีเทลอะไรมาก ส่วนขนาดก็กำลังพอดีอยู่สำหรับเราสองคน” คุณเม่นเสริม

นอกจากนี้คุณบิวยังบอกว่าอีกหนึ่งเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกบ้านหลังนี้คือพื้นที่ใช้สอยไม่ได้ถูกแบ่งเป็นห้องเยอะเกินไป “ชั้นล่างจะเป็นสเปซโล่งๆ ส่วนชั้นบนจะมี 2 ห้องนอน ห้องนอนมาสเตอร์ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 1 ห้อง แต่ตอนนี้ใช้งานเป็นสตูดิโอห้องทำงานของคุณเม่น แล้วก็โถงไว้ให้เราเก็บของหรือทำเป็นมุมนั่งเล่นได้ด้วย”


พื้นที่ชั้น 1 เป็นสเปซใช้งานหลัก ส่วนลิฟวิงเปิดโล่งต่อเนื่องกับโต๊ะกินข้าวและครัวขนาดเล็ก ตกแต่งเรียบง่าย แต่มีดีไซน์ อบอุ่น สบายตา ด้วยโทนสีขาวกับสีน้ำตาล “พอเข้ามาอยู่เราก็เริ่มตกแต่ง เปลี่ยนประตูบ้านจากบานทึบเป็นประตูกระจกลอนแก้วให้แสงส่องเข้ามาได้มากขึ้น ส่วนประตูห้องน้ำเราไม่อยากให้บ้านดูแข็งเกินไปเลยทำเป็นช่องกระจกด้วยเหมือนกัน”
“แล้วเราก็เปลี่ยนพื้นจากกระเบื้องแกรนิโตเป็นลามิเนตลายไม้ให้บ้านดูอบอุ่นๆ ส่วนมู้ดโทนบิวชอบสไตล์มูจิเลยจะเลือกใช้สีขาวกับสีน้ำตาลเป็นหลัก ไม่ได้เน้นงานบิลต์อิน จะใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ถ้าเราเบื่อหรืออยากเปลี่ยนมุมก็สามารถย้ายได้ ปรับได้ตามต้องการ ของตกแต่งบ้านส่วนใหญ่จะเป็นของที่เจอแล้วชอบเลยซื้อมามากกว่า บิวชอบพวกแจกันเรียบๆ แต่มีดีไซน์ ชอบงานของมารีเมกโกะ (Marimekko) แล้วก็ทำงานประจำที่บริษัทญี่ปุ่นเกี่ยวกับแลนด์สเคปและนำเข้าดอกไม้ เลยมีดอกไม้กลับมาแต่งบ้านเกือบทุกสัปดาห์ คือจะบอกว่าเป็นสไตล์มูจิก็คงไม่เชิง มันผสมผสานกันมากกว่า เพราะโซฟาก็สีค่อนข้างป๊อป (หัวเราะ) ตอนแรกเป็นสีครีมแล้วเรารู้สึกว่าบ้านดูเรียบเกินไป เลยเปลี่ยนผ้าคลุมโซฟาใหม่เป็นสีเขียวซึ่งเป็นสีที่เราทั้งคู่ชอบ แล้วก็กลายมาเป็นเบสในการแต่งบ้านไปด้วย” คุณเม่นกับคุณบิวช่วยกันเล่าเพิ่มเติม

ถัดมาโซนครัว “ตอนแรกยังไม่มีอะไรเลยเป็นพื้นที่โล่งๆ ทางโครงการทำไว้แค่ช่องสำหรับเครื่องดูดควันอยู่ตรงผนังครัวด้านซ้ายมือ แต่เรารู้สึกว่าตำแหน่งนี้ใกล้กับโซนนั่งเล่นไปหน่อยเลยย้ายตำแหน่งไปผนังด้านหลังแทน ส่วนดีไซน์ครัวผมกับบิวช่วยกันออกแบบเองแล้วให้เพื่อนที่เป็นอินทีเรียมาช่วยทำบิลต์อิน”
เคาน์เตอร์ครัวออกแบบเป็นรูปตัวแอล (L) พื้นที่ส่วนปรุงกับส่วนล้างด้านบนเลือกใช้เป็นหินแกรนิตสีขาว ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาด ส่วนฟังก์ชันคุณบิวบอกว่าไว้รองรับการใช้งานครัวง่ายๆ ทั้งคู่ไม่ค่อยได้ทำอาหารจริงจังเท่าไรนัก “เราทำเป็นเคาน์เตอร์บิลต์อินเข้ามุม ไปเลือกวัสดุหน้าบานกับทอปเคาน์เตอร์กันเองว่าอยากได้โทนสีแบบนี้ ตาไม้ประมาณนี้ ส่วนบาร์ด้านหน้าเป็นโต๊ะแคมปิงของ Snow Peak รุ่น Stainless Kitchen Table สามารถถอดเปลี่ยน เติมชิ้นส่วน หรือปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามการใช้งาน เคลื่อนย้ายได้ ส่วนฟังก์ชันครัวเราอยากให้หยิบจับอะไรได้ง่าย มีพื้นที่เก็บของให้ครัวไม่รกดูเป็นระเบียบ ไม่อึดอัด เน้นทำอาหารง่ายๆ”


“ส่วนที่เป็นไม้เราจะเลือกแบบที่มีตาไม้ค่อนข้างใหญ่ และพยายามเลือกสีให้ใกล้เคียงกับชั้นวางของในมุมนั่งเล่นจะได้ดูลิงก์กัน กระเบื้องผนังเราอยากได้ขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เรียบๆ สีขาว นอกจากเคาน์เตอร์แล้วเราก็ออกแบบเว้นช่องไว้สำหรับตู้เย็นด้วย ดูเป็นสัดส่วน ใช้งานครัวได้คล่องตัว แล้วเราก็ติดโคมไฟเพิ่มเติม เลือกดีไซน์กับวัสดุที่เป็นสเตนเลสให้เข้ากันกับโต๊ะบาร์” คุณเม่นเล่าเสริมถึงดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ในการออกแบบครัว

ใกล้กันกับโซนครัวมีโต๊ะกลาง 1 ตัว ไว้นั่งเล่น นั่งกินข้าว หรือถ้าวันไหนมีเพื่อนๆ ญาติๆ แวะเวียนมาหาพื้นที่ตรงนี้ก็ยังสามารถรองรับแขกและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ “เราเลือกขนาดโต๊ะให้พอดีกับสเปซ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เพื่อนไม่ได้เยอะด้วยครับ (หัวเราะ) จริงๆ เราเสริมเก้าอี้ได้ถ้าเพื่อนๆ มากันหลายคน”

พื้นที่ชั้น 2 เป็นไพรเวตโซน ประกอบไปด้วยห้องนอนมาสเตอร์ ห้องทำงาน และโถงโล่งที่ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นมุมแคมปิง โดยได้ Reference มาจากนิตยสาร Go Out ที่ทั้งสองคนชอบอ่าน คุณบิวเล่าต่อว่า “ด้วยความที่เราชอบไปแคมปิงกันอยู่แล้ว ชอบดูนิตยสารเกี่ยวกับบ้าน บวกกับชอบซื้อของกระจุกกระจิกโดยเฉพาะพวกอุปกรณ์แคมปิง เราซื้อเก็บไว้เยอะมากตั้งแต่อยู่คอนโดฯ พอย้ายมาอยู่บ้านเลยอยากนำของแคมปิงที่มีมาใช้ตกแต่งมุมต่างๆ ของบ้านด้วยอย่างโต๊ะบาร์ตรงห้องครัว โถงชั้น 2 ตรงนี้เราเลยทำเป็นเหมือนโซนแคมปิง มีโต๊ะ เก้าอี้ไว้นั่งเล่น เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งนอกจากลิฟวิงด้านล่าง อีกอย่างคือบิวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็อยากให้ทุกมุมของบ้านสามารถถ่ายรูปได้ ส่วนคุณเม่นก็ใช้พื้นที่ในบ้านทำงานเหมือนกัน บ้านหลังนี้เลยเป็นเหมือนสตูดิโอของเราด้วย”



“เราอยากให้ทุกมุมของบ้านมันพรีเซนต์ตัวเรา เวลามีใครมาบ้านก็จะได้รู้จักตัวตนของเราผ่านมุมต่างๆ อย่างสีเขียวนอกจากเป็นสีที่เราชอบ ถ้าใครเคยเห็นงานของผม Marenwork ก็จะพอรู้ว่าผมใช้สีเขียวกับสีเบสเป็นคู่สีหลักในการวาดงานอยู่แล้ว สองสีนี้เลยสะท้อนความเป็นตัวเราในการแต่งบ้านด้วยเหมือนกัน” คุณเม่นบอกทิ้งท้าย เป็นจังหวะพอดีกับที่อีกหนึ่งสมาชิกของบ้าน “น้องจริงจัง” เจ้าแมวส้มออกมาทักทายแขกผู้มาเยือน พร้อมเป็นแบบให้เราเก็บภาพความน่ารักมาฝากทุกคนกันด้วย
เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้สะท้อนไลฟ์สไตล์และความชอบของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างชัดเจน เรียบง่าย มีดีไซน์ อบอุ่น และน่าอยู่มากเลยทีเดียว