แดดอ่อนๆ ยามเช้าทำให้โลกครึ่งใบอุ่นไออีกครั้ง เหมือนเวลาที่ฝนหยุดทุกคนคงเบิกบานใช่ไหม… (เพลง : เช้า โดย : สครับบ์) เราออกเดินทางไปถึงโกดังบ้านสวนของคุณเล็ก-นภัสรดี อาจณรงค์มงคล และคุณกอล์ฟ-อธิคุณ ปริสุทธิกุล ในช่วงสายของวันหนึ่งที่อากาศดี๊ดี มีลมพัดเย็นและแสงแดดอบอุ่นพาดผ่านเทอร์เรซด้านหน้าของตัวบ้านเกิดเป็นแสงเงาสวยงาม ทั้งยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ระเบียงที่ออกแบบให้ยื่นเข้าไปในส่วนของบ่อน้ำนั้นก็ช่างน่านั่งเล่นนั่งพักผ่อนเสียเหลือเกิน จนเราอดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเช้าของวง Scrubb ในใจ แบบว่าเหมาะเจาะลงตัวเข้ากับบรรยากาศของบ้านมากเลยทีเดียว
หลังจากเดินสำรวจรอบบ้านได้สักพัก เราก็มานั่งพูดคุยกับคุณเล็กและคุณกอล์ฟถึงบ้านสวนหลังนี้ โดยคุณกอล์ฟเริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า “ตรงนี้เป็นที่ดินของที่บ้านปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ทำอะไร มีบ่อน้ำ 2 บ่อ กับกระท่อมหลังเล็กๆ เก่าๆ ความตั้งใจแรกคืออยากทำให้ที่ดินรกร้างนี้เกิดประโยชน์หรือสร้างรายได้ให้กับเรา ใจจริงอยากทำเป็นคาเฟ่ แต่ด้วยเรื่องงบประมาณและยังไม่มีประสบการณ์เรื่องกาแฟกับการทำขนม โจทย์การออกแบบจึงเปลี่ยนเป็นทำบ้านสวนแทน”
“เรามองว่าถ้าทำเป็นที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวจะเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้ครอบครัว เช่น ค่าน้ำค่าไฟต่างๆ เพราะเรามีบ้านอีกหลังที่อยู่อาศัยเป็นหลักแล้ว อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ สามารถเดินไปมาระหว่างกันได้ จึงคิดว่าถ้าออกแบบให้มีพื้นที่ไว้ทำงานอีกหลังก็น่าจะดีเพื่อสร้างรายได้ให้เราด้วย” คุณเล็กอธิบายเพิ่มเติม
กว่าแบบแปลนจะลงตัวสถาปนิกถึงกับตั้งชื่อให้ว่าบ้านลังเล “เราให้สถาปนิก คุณมีชัย เจริญพร ออกแบบให้ โดยส่วนตัวเราสองคนชื่นชอบผลงานของเขาอยู่แล้ว คอนเซ็ปต์ตอนแรกที่เราบอกกับสถาปนิกค่อนข้างกว้าง เพราะยังลังเลว่าจะทำอะไรกันแน่ คาเฟ่ บ้านสวน โกดัง ฟังก์ชันใช้งานจะเป็นบ้านอยู่อาศัยหรือที่ทำงาน ทำให้สถาปนิกไม่รู้ว่าจะออกแบบอย่างไรจากสิ่งที่เราบอกจนเขาเรียกว่าบ้านลังเล (หัวเราะ) แต่หลังจากพูดคุยกันไปมาทั้งทางเราและสถาปนิกก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น จนลงตัวที่ออกแบบเป็นบ้าน 2 หลัง เน้นดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้อยู่ในงบประมาณที่เรากำหนดไว้ คอนเซ็ปต์คือบ้านขาวพักผ่อน บ้านดำทำงาน ซึ่งส่วนนี้เป็นไอเดียที่ทางคุณมีชัยช่วยคิดให้เสมือนเป็นหยินกับหยาง
“ส่วนพื้นที่ภายในบ้านสถาปนิกให้เราเขียนแปลนบ้านคร่าวๆ ก่อนว่าอยากให้มีกี่ห้อง ขนาดประมาณเท่าไร ใช้งานอะไร จากนั้นเขาจะนำไปดีไซน์และออกแบบแปลนอีกครั้งเพื่อให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด สำหรับบ้านสีขาวจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือลิฟวิงสำหรับนั่งเล่น ดูหนัง มีมุมทานข้าว และเคาน์เตอร์บาร์ที่เป็นเหมือนแพนทรีไว้เตรียมของ ล้างจานเล็กๆ น้อยๆ เพราะมีครัวหลักอีกบ้านอยู่แล้ว โดยออกแบบเป็น Open Space ใช้งานทุกโซนได้ต่อเนื่องกัน ถัดไปจะเป็นส่วนห้องนอนที่ออกแบบไว้รองรับเวลาคุณพ่อมาปลูกผักทำสวนแล้วอยากนอนพัก หรือเวลาอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานอนเล่นกันที่นี่ ส่วนเทอร์เรซกับระเบียงนั่งเล่นเราเป็นคนบอกเองว่าอยากให้มีส่วนนี้ด้วย”
หลังจากคุณกอล์ฟพูดถึงบ้านสีขาวแล้ว คุณเล็กก็ช่วยเล่าเพิ่มเติมถึงบ้านสีดำว่า “อย่างที่บอกตอนต้นว่าเราไม่อยากทำเป็นบ้านสวนไว้สำหรับพักผ่อนอย่างเดียว แต่อยากให้พื้นที่นี้สร้างรายได้ให้เราด้วย คือครอบครัวเราทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ (บริษัท ปะป๋า ปริ้นติ้ง จำกัด) มีหน้าร้านอยู่ในตัวเมืองนครปฐม บ้านสีดำจึงออกแบบไว้เพื่อรองรับในส่วนของการทำงาน โดยเราสั่งเครื่องพิมพ์มาลงใหม่ และมีน้องพนักงาน 1 คนประจำอยู่ที่นี่” (เพจร้าน Facebook : ฉลาก สติ๊กเกอร์ สิ่งพิมพ์ ออกแบบและผลิต ที่ ปะปา ปรินท์ติ้ง)
และคุณเล็กยังเสริมในเรื่องดีไซน์การตกแต่งด้วยว่า “เราชอบบ้านที่ดูเรียบง่าย อบอุ่นๆ ไม่ได้ออกแบบหรือเลือกใช้วัสดุตามเทรนด์ที่มาเร็วไปเร็ว เน้นวัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติ แข็งแรงทนทานอย่างงานปูน งานเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ก็จะเลือกใช้เป็นงานไม้จริงกับงานหวาย ส่วนดีไซน์ด้านนอกตรงเทอร์เรซที่นำแผ่นปูนมาจัดวางเรียงไว้ทำให้เกิดแพตเทิร์นของแสงและเงาในช่วงเวลาต่างๆ เป็นไอเดียที่สถาปนิกออกแบบแล้วเราชอบมากๆ เขาหยิบจับแผ่นปูนที่คงไม่มีใครนึกถึงมาทำอะไรแบบนี้เหมือนช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุและเพิ่มลูกเล่นให้กับบ้านเราด้วย
“ด้วยเราทั้งคู่เรียนจบมาทางด้านนิเทศศิลป์ก็จะชอบอะไรที่ดูเป็นงานศิลปะ วัสดุที่มีเท็กซ์เจอร์ เป็นธรรมชาติ อย่างผนังจะทำเป็นปูนเปลือยขัดมันแล้วใช้น้ำยาเคลือบด้านเพื่อป้องกันเรื่องเชื้อรา คราบสกปรกต่างๆ แต่ถ้าเก่าหรือทรุดโทรมเราก็สามารถขัดใหม่หรือเปลี่ยนอารมณ์ด้วยการทาสีใหม่ได้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้านเรารู้สึกว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ใช้งานได้จริง ชั้นวางของเหนือเคาน์เตอร์บาร์เลือกใช้เป็นไม้โอ๊ก โต๊ะทานข้าวเป็นไม้สักสีโอ๊กที่เราสั่งทำแบบพิเศษ ดีไซน์ขาโต๊ะจะค่อนข้างแน่นและมั่นคง เป็นฮวงจุ้ยเพราะเราใช้เป็นทั้งโต๊ะทานข้าวและนั่งทำงานด้วย ส่วนงานหวายเป็นสิ่งที่เห็นพ่อแม่ใช้มาตั้งแต่เด็กๆ พอโตมาก็รู้สึกว่าอยากให้มีกลิ่นอายอะไรแบบนั้นอยู่ในบ้านเราด้วย อีกทั้งลวดลายของงานหวายยังเป็นแพตเทิร์นแบบ 2 มิติ ที่เราชอบตั้งแต่สมัยเรียน จะมีทั้งหวายจริงและหวายเทียมขึ้นอยู่กับการใช้งาน”
เรียกได้ว่าเป็นบ้านสวนที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย ครบถ้วน ทั้งยังเติมเต็มความสุขให้สมาชิกครอบครัวได้พบปะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นอีกด้วย “ตอนที่ทำบ้านเป็นช่วงที่คุณพ่อเกษียณพอดี ถ้าจะบอกว่าเป็นบ้านสวนสานฝันคุณพ่อก็ได้ เพราะเขาจะมาปลูกผักทำสวน เดินเล่นออกกำลังกาย หรือถ้าใครอยากกินอะไรก็จะมาปลูกกันไว้ กล้วย มะนาว ฝรั่ง ส่วนไฮไลต์ของบ้านคือไผ่ซางหม่นจากเชียงรายที่คุณพ่อปลูกไว้ตรงริมรั้ว
“นอกจากนี้ยังรู้สึกครอบครัวอบอุ่นกลมเกลียว ได้เจอกันบ่อยขึ้นจากเดิมที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ตอนนี้ก็จะนัดกันมากินข้าว ปิ้งย่าง ปาร์ตี้เล็กๆ เสมือนเป็นจุดนัดพบของทุกคน อย่างเด็กๆ น้องกุนซือกับน้องเอ็นดู ลูกชายกับลูกสาวเราในช่วงเย็นๆ เขาก็มาให้อาหารปลา วิ่งเล่น มีกิจกรรมให้ทำแบบที่เราไม่ต้องออกไปเที่ยวไหนก็ได้ ถ้าจะให้จำกัดความบ้านหลังนี้ก็น่าจะเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ทั้งเป็นที่ทำงาน บ้านสวนของคุณปู่ และบ้านพักตากอากาศของครอบครัว” คุณเล็กกล่าวทิ้งท้าย
เดินไปหยิบหนังสือ วันนี้ยังคุ้นเคยเล่มเดิมอีกครั้ง ย้อนมันไปที่หน้าเก่า ย้อนมันไปเรื่องเดิมซ้ำซ้ำ… (เพลง : เช้า โดย : สครับบ์) หลังจากสัมภาษณ์คุณเล็กและคุณกอล์ฟเรียบร้อยแล้ว เรายังคงฮัมเพลงในใจไปเรื่อยๆ บรรยากาศของที่นี่ทำให้เราอยากนั่งฟังเพลงเพลินๆ หรือถ้าได้นอนอ่านหนังสือสักเล่มคงจะดีไม่น้อย คุณกอล์ฟบอกว่านี่เป็นบ้านในฝันที่ทำให้เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว เหลือแต่เราสินะ…อยากมีบ้านแบบนี้สักหลังบ้างจัง