ผ่านไปประมาณ 2 ปี สวนดอกไม้กินได้ Papin Garden ของคุณพัชผิน-ภิญญาพัชญ์ ปรีดาบุญ ไม่เพียงขยับขยายพื้นที่และปลูกดอกไม้ ต้นไม้หลายพันธุ์หลายชนิดมากขึ้น แต่ยังมีส่วนของ Jungfood คาเฟ่เล็กๆ ที่คุณสันติสุข ธิติโรจนกุล พาร์ตเนอร์อีกคนบอกกับเราว่าตั้งใจอยากให้เป็นเหมือนห้องรับแขกไว้ต้อนรับทุกคน โดยมีดอกไม้ ใบไม้กินได้ในสวนเป็นตัวชูโรงในการครีเอตเมนูทั้งเครื่องดื่ม ขนม และอาหารต่างๆ
จากวันนั้นถึงวันนี้…
คุณพัชผิน : ก่อนหน้านี้เราใช้พื้นที่ในการปลูกกันไม่ถึง 1 ไร่ แล้วค่อยๆ ขยับขยายเพิ่มเติมส่วนอื่นไปเรื่อยๆ พอพื้นที่เพิ่มขึ้น ดอกไม้ ต้นไม้ที่เราปลูกก็เยอะตามไปด้วย ตอนนี้น่าจะมีประมาณ 30 กว่าชนิด แค่เฉพาะกุหลาบอย่างเดียวก็หลายสายพันธุ์แล้ว ดอกไม้ที่เราปลูกหลักๆ มีดอกผีเสื้อ เข็มอินเดีย บานชื่น เดซี่ มาร์กาเร็ต หน้าแมว พวงชมพู นอกจากนี้ยังปลูกพวกโหระพา มินต์ สะระแหน่ ไทม์ เรดซอร์เรล มีผักสวนครัวบ้างนิดหน่อย โดยยังคงคอนเซ็ปต์นำไปใช้เป็นพร็อปตกแต่ง ในขณะเดียวกันก็สามารถกินได้ด้วย
ยังต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ
คุณสันติสุข : ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเราจะเริ่มคุ้นเคยกับการปลูกดอกไม้ ต้นไม้ชนิดต่างๆ มากขึ้น แต่ยังมีสิ่งที่เราต้องทดลอง เรียนรู้ และแก้ไขหน้างานอยู่ตลอดเวลา สวนเราอยู่ในกรุงเทพฯ อากาศเลยค่อนข้างแปรปรวน อย่างเข้าหน้าฝนแล้วยังร้อนอยู่เลย ฝนก็ตกน้อยกว่าช่วงเดียวกันในปีก่อนๆ ปัญหาหลักที่เราต้องรับมือเลยเป็นเรื่องสภาพอากาศ ศัตรูพืช โรคภัย แมลงรบกวน พอเปลี่ยนฤดูโรคก็เปลี่ยนแมลงก็เปลี่ยน หน้าฝนมีพวกหอย หน้าร้อนมีเพลี้ย แล้วเราปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี ต้องเลือกใช้อะไรที่เป็นออร์แกนิก เป็นปุ๋ยอินทรีย์ สู้แมลงไม่ค่อยได้หรอกครับ เพราะแมลงแข็งแรงกว่า (หัวเราะ) ต่อให้เราพยายามเตรียมตัวรับมือแล้วก็ตาม ยังเกิดเรื่องเซอร์ไพรส์ได้ตลอด ต้องคอยสังเกต ดูแลเอาใจใส่ เมื่อเจอปัญหาจะได้แก้ไขทันเวลา
เพิ่มเติมส่วนของ Jungfood
คุณพัชผิน : นอกจากปลูกดอกไม้ ต้นไม้แล้ว เราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนคอมมูนิตีเล็กๆ ด้วย เลยทำส่วนที่เป็นคาเฟ่เพิ่มเติม ในตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะทำเป็นคาเฟ่จริงจัง เพียงแต่อยากมีพื้นที่ไว้ให้ลูกค้าหรือคนที่สนใจเรื่องการปลูกดอกไม้ต้นไม้กินได้มานั่งคุยนั่งเล่นกัน เหมือนเป็นห้องรับแขกง่ายๆ
คุณสันติสุข : ช่วงหนึ่งเราปลูกกุหลาบเยอะมาก หลังจากส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอร์แล้วก็ไม่รู้จะนำไปทำอะไร เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นนำไปแปรรูปดีไหม ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ไม่ต้องเหลือทิ้ง ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ดอกไม้ ต้นไม้ที่เราปลูกได้ด้วย ทำเป็นแยม นำกลีบมาอบแห้งไว้ทำชา ส่วนพัชเองเขาเป็นคนชอบทำเครื่องดื่มนู่นนี่นั่นอยู่แล้ว ใช้ดอกไม้ในสวนมาครีเอตเป็นเมนูต่างๆ
คุณพัชผิน : Jungfood เลยกลายเป็นคาเฟ่เต็มตัวไปแล้วค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าคอนเซ็ปต์ยังเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับดอกไม้กินได้ และใช้วัตถุดิบจากสวนของเรามาเป็นส่วนผสมในเมนูจริงๆ ไม่ได้ใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่ละต้น แต่ละดอกเขาจะให้รส กลิ่น สี ต่างกันไป ช่วยสร้างประสบการณ์ให้คนที่มารู้สึกเข้าถึงง่ายขึ้นว่าดอกไม้พวกนี้มันกินได้นะ ทั้งยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้ดอกไม้ของเราได้ด้วย ส่วนชื่อ Jungfood มาจาก Jungle เหมือนกับว่าสวนเราเป็นป่าที่ซ่อนตัวอยู่ในเมือง
อยากปลูกดอกไม้กินได้ที่บ้านบ้าง
คุณพัชผิน : แนะนำเป็นมาร์กาเร็ตค่ะ ดูแลง่าย ดินเหนียวก็โตได้ รดน้ำทุกวัน อาจจะรดช่วงเช้าให้ฉ่ำแล้วปล่อยเลย ใส่ปุ๋ยอินทรีย์บ้างเพื่อบำรุงไม่ให้โทรม มาร์กาเร็ตค่อนข้างทน ออกดอกทุกวันตลอดทั้งปี ฝนตกก็ออก ถ้ามีแดดก็ยิ่งออกดอก ถ้าปลูกมาร์กาเร็ตจะช่วยเติมสีสันให้บ้านได้ทั้งปี ความน่ารักคือตอนอยู่บนต้นดอกจะสีขาว พอตัดออกมาแล้วจะออกสีม่วงนิดๆ แต่จริงๆ อยากให้ทุกคนเลือกปลูกดอกไม้ ต้นไม้ที่ตัวเองชอบ อย่างในสวนพัชก็ปลูกจากความชอบเหมือนกัน พอเราชอบเราก็อยากให้เวลา อยากดูแลให้เขาเติบโตออกดอกสวยงาม
คุณสันติสุข : ดอกผีเสื้อก็ออกดอกเกือบทุกวัน สีสันสดใส คล้ายๆ ผีเสื้อ แต่อาจจะต้องระวังเรื่องความร้อนและแสงแดด เป็นดอกไม้ชนิดที่แมลงชอบ สิ่งสำคัญไม่ว่าจะปลูกต้นอะไร เราจะต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการเจริญเติบโต และความชอบของดอกไม้ชนิดนั้นๆ บางครั้งแค่แสงแดดหรือลมเปลี่ยนทิศก็มีผล พวกเราก็ไม่ได้เรียนจบด้านเกษตรฯ มาโดยตรง 2 ปีที่ผ่านมายังเหมือนทำการทดลองทุกวัน ยังเรียนรู้ไม่ครบทุกอย่าง แต่ถ้าเรารักที่จะปลูกก็ต้องปรับตัวและเข้าใจความเป็นธรรมชาติของต้นไม้ ดอกไม้
สำหรับใครสนใจหรือต้องการดอกไม้ ใบไม้กินได้ไปทำอาหารหรือเป็นพร็อปสวยๆ สามารถสั่งดอกไม้กินได้จากสวนของคุณพัชได้นะติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ Facebook : Papin-garden/ดอกไม้กินได้ หรือจะแวะมานั่งเล่นจิบเครื่องดื่ม กินขนมและอาหารอร่อยๆ แนะนำให้พุ่งตัวมาที่ Jungfood แล้วจะรู้ว่าดอกไม้กินได้สามารถครีเอตเป็นเมนูได้มากมาย *ในโซนสวนไม่อนุญาตให้เข้าชมนะคะ
