“ห้าดาว” (Five Star) และ “ไฮพอร์ค” (Hi Pork) ธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชส์ ภายใต้การดำเนินงาน บริษัท ซีพีเอฟเรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด ในเครือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ คว้ารางวัลจากเว็บไซต์ Thai Franchise Center โดย ห้าดาว ได้รับรางวัล “Most Popular Investment Franchise In Thailand 2022” ธุรกิจแฟรนไชส์นิยมลงทุนอันดับ 1 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และ ไฮพอร์ค รับรางวัล “New Arrival Hot Franchise in Thailand 2022” ธุรกิจแฟรนไชส์น้องใหม่มาแรงอันดับ 1 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจแฟรนไชส์อาหารที่พร้อมสนับสนุนให้คนไทยมีกิจการที่มั่นคงเป็นของตนเอง
สำหรับ ‘ห้าดาว’ คว้ารางวัล “Most Popular Investment Franchise In Thailand 2022” ธุรกิจแฟรนไชส์นิยมลงทุนอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พิจารณาจากจำนวนผู้สนใจติดต่อขอลงทุนกับธุรกิจห้าดาวผ่านเว็บไซต์ สะท้อนถึงความไว้วางใจของผู้ประกอบการสนับสนุนการเติบโตอย่างมีระบบ กุญแจสำเร็จของธุรกิจเริ่มจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟรนไชส์ให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน ตั้งแต่วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งและรูปแบบร้านให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ มีทั้ง Five Star Glass House และ Five Star Shop การบริหารจัดการง่าย พร้อมสำหรับเปิดกิจการได้ทันที ตลอดจนกิจกรรมทางการตลาดทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการบริหารร้านได้สะดวก รวดเร็ว เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ขณะที่ ‘ไฮพอร์ค’ คว้ารางวัล “New Arrival Hot Franchise in Thailand 2022” ในฐานะธุรกิจแฟรนไชส์น้องใหม่มาแรงอันดับ 1 ที่ได้รับความนิยมจากผู้สนใจติดต่อขอลงทุนผ่านเว็บไซต์ Thai Franchise Center อย่างรวดเร็ว หลังเปิดตัวได้เพียง 2 ปีเท่านั้น การันตีคุณภาพ ด้วยทีมงานธุรกิจห้าดาว พร้อมทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ผู้ประกอบการและลูกค้า ได้เข้าถึงอาหารคุณภาพที่หลากหลาย ทั้งเมนูข้าว เมนูทานเล่น และกับข้าว โดยใช้วัตถุดิบหลัก คือ เนื้อหมูคุณภาพดี สด สะอาด ปลอดภัย จากซีพีเอฟ สำหรับการเลือกทำเลที่ตั้งร้าน เน้นแหล่งชุมชนเป็นหลัก เช่น หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และร้านสะดวกซื้อ โดดเด่นด้วยรูปแบบร้านที่มีความทันสมัย
นายสุนทร จักษุกรรฐ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจห้าดาวและร้านอาหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 37 ปี ของห้าดาว พิสูจน์ถึงการเป็นผู้นำธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการ ทำให้ธุรกิจเติบโตและขยายตัวขึ้นทุกปี ไปพร้อมๆ กับสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพแก่ผู้ประกอบการไทยให้มีรายได้ที่แน่นอน ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ที่ให้ความสนใจกับธุรกิจห้าดาวและไฮพอร์ค จนเชื่อมั่นเข้ามาร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการแฟรนไชส์ รวมถึงเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 พฤติกรรมและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เป็นจุดสำคัญให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว บริษัทฯ จับมือกับพาร์ทเนอร์ผ่าน แพลตฟอร์ม Food Delivery ต่างๆ อย่าง Grab, Food Panda, Gojek, Lineman, Robinhood และ True Food ตลอดจนพัฒนาช่องทางบริการส่งอาหารของตัวเองภายใต้ชื่อ Star Delivery เพื่อเป็นทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น” นายสุนทร กล่าว
ปัจจุบัน ธุรกิจห้าดาว มีทั้งหมด 9,000 สาขา ใน 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย บังคลาเทศ และเมียนมา โดยตั้งเป้าขยายสาขาภายในสิ้นปี 2022 มากกว่า 10,000 สาขา ส่วนแฟรนไชส์ไฮพอร์ค มีมากกว่า 80 สาขาภายใน 1 ปี และปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 250 แห่งทั่วประเทศ ห้าดาว ดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ตั้งแต่ปี 2543 ชูหัวใจหลัก คือ การสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง ด้วยมาตรฐานอาหารที่ดีมีคุณภาพและขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน สามารถเชื่อมต่อทุกเจเนอเรชั่น และยืนหยัดการเป็นผู้นำธุรกิจแฟรนไชส์อาหารพร้อมรับประทานที่อยู่ในใจของทุกคน
โดยให้องค์ความรู้ในการบริหารจัดการ ตลอดจนการสนับสนุนในด้านต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ เช่น การพัฒนาสินค้าใหม่ ระบบบัญชีและจัดการสินค้าคงคลัง การส่งเสริมการขาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดการขนส่ง ให้ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มธุรกิจได้แบบเทิร์นคีย์ (Turn Key) คือดูแลร้านของตนเองต่อไปได้อย่างมืออาชีพในระยะเวลาอันสั้น ลดความเสี่ยงของผู้ลงทุนในเบื้องต้น ราคาไม่สูง ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแค่หลักหมื่น และสามารถคืนทุนได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ ธุรกิจห้าดาวยังมีแฟรนไชส์อื่นๆ ให้ผู้ที่สนใจร่วมเป็นเถ้าแก่ ทั้ง STAR Coffee กระทะเหล็ก เป็ดเจ้าสัว และข้าวมันไก่ไห่หนาน โทร. 0 2800 8000
