บ้านที่ก่อร่างจากใจ สถาปัตย์ที่สะท้อนชีวิตและธรรมชาติ

ลองนึกภาพตามนะคะ… ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาและไอหมอกจางๆ ยามเช้าที่ปากช่อง ที่ที่ธรรมชาติสวยๆ มาเจอกับความเจริญได้อย่างลงตัว บ้านในฝัน หลังหนึ่งก็ได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่! นี่ไม่ใช่แค่บ้านธรรมดาๆ แต่คือผลงานที่สะท้อนรสนิยมและความหลงใหลในการใช้ชีวิตของคุณ เบียร์-ภูวนาถ เทียมตะขบ เจ้าของบ้านที่เนรมิตความสุขผ่านงานดีไซน์ของเขาเอง

บ้านหลังนี้เลยไม่ใช่แค่ที่พักอาศัย แต่เป็นเหมือน ความฝันที่กลายเป็นจริง บนผืนดินของเขาใหญ่ ดินแดนที่ให้ทั้งความอบอุ่น ความสงบ และความสะดวกสบายที่หาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ

วันที่เราได้คุยกับคุณเบียร์ อากาศกำลังเย็นสบาย หมอกบางๆ ลอยเรี่ยระเบียงหน้าบ้าน กลิ่นดอกไม้หอมๆ คลอไปกับเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว แถมลมเย็นๆ ยังพัดผ่านต้นไม้ใหญ่…บรรยากาศมันชิลล์ซะจนอยากจะนั่งนิ่งๆ ตรงนั้นไปนานๆ

แรงบันดาลใจจากขุนเขา: ทำไมต้อง “เขาใหญ่”

คุณเบียร์บอกเราเลยว่าเขาเป็น “สายภูเขา” ตัวจริง ไม่ชอบทะเลเลยนะ! ประโยคธรรมดาๆ นี้กลับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา เพราะบ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นแค่บ้านพักตากอากาศในฝัน แต่เป็นเหมือนคำตอบของชีวิตที่เขาตั้งใจออกแบบมาให้เข้ากับตัวเองสุดๆ

คุณเบียร์เล่าให้ฟังถึงความผูกพันกับธรรมชาติ โดยเฉพาะ “ภูเขา” ที่ต่างจากกระแสบ้านตากอากาศริมทะเลทั่วๆ ไป เขามองว่าเขาใหญ่นี่แหละคือที่ในฝัน ด้วยเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่าแค่ทิวทัศน์สวยๆ “เขาใหญ่เป็นเมืองที่เจริญ มีโรงพยาบาล ที่สำคัญไม่ไกลจากกรุงเทพฯ” คุณเบียร์เล่าพร้อมแววตาเป็นประกาย เพราะการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยทางด่วน ทำให้เขาใหญ่กลายเป็นบ้านหลังที่สองที่มาง่ายมากๆ ให้ความรู้สึกได้พักผ่อนจริงๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางหรือการดูแลเหมือนบ้านตากอากาศสมัยก่อนเลย

แถมอุณหภูมิที่นี่ก็เย็นสบายกว่ากรุงเทพฯ ถึง 2 องศาเซลเซียสในทุกฤดู ที่สำคัญคือ ไร้ยุงกวนใจ ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ด้วย! นี่แหละคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้คุณเบียร์เชื่อสุดใจว่าที่นี่คือคำตอบของความฝัน

คุณเบียร์ยังจำ First Moment ตอนมาดูบ้านหลังนี้ได้ดี แม้จะยังไม่ได้เข้าไปดูข้างใน แต่แค่เห็นจากข้างนอก ท่ามกลางลมฝนและไอหมอกในเดือนสิงหาคม เขาก็ตัดสินใจซื้อทันที! ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับที่นี่และบรรยากาศในวันนั้น คือคำตอบสุดท้ายที่เขาตามหามานาน

“ยังไม่ทันได้เปิดประตูรถ เราก็บอกทุกคนเลยว่าเราจะซื้อบ้านนี้นะ” จากวันนั้นถึงวันนี้ เขาอยู่กับบ้านหลังนี้มาหลายฤดูแล้ว และไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจในวันนั้นเลยแม้แต่น้อย

บ้านในฝันที่จับต้องได้: จาก English Cottage สู่บ้านแสนโปร่ง

บ้านหลังแรกของคุณเบียร์ที่เขาใหญ่เป็นสไตล์ English Cottage ที่เขาชอบอยู่แล้ว ด้วยความที่เคยสร้างบ้านสไตล์นี้ในกรุงเทพฯ มาก่อน พอมาเห็นหลังนี้เลยรู้สึกเหมือนเป็นบ้านในฝันที่เคยออกแบบไว้เองเลยค่ะ

“ประตูหน้าต่างฟิตติงดี หลังคาดี วัสดุดี ชอบการที่สร้างบ้านแบบยุโรป ก่ออิฐเบิ้ลหนา ถูกใจตรงนี้ คอนเซ็ปต์มันมาในทิศทางที่เราชอบ” คุณเบียร์เล่าถึงความประทับใจในโครงสร้างที่แข็งแรงและสไตล์ที่ลงตัว

หลังจากอยู่ได้สักพักและซึมซับบรรยากาศธรรมชาติรอบๆ คุณเบียร์ก็ตัดสินใจสร้าง สระว่ายน้ำเล็กๆ เพิ่มเติม เพราะเชื่อว่า “บ้านที่มีสระมักมีเสน่ห์” และพอมีแขกมาเยอะขึ้น บ้านหลังแรกก็เริ่มไม่พอ เลยขยายมาสร้างบ้านหลังที่สอง ซึ่งก็คือหลังที่ใช้อยู่ปัจจุบัน

บ้านหลังที่สองนี้ถูกออกแบบมาอย่างเข้าใจโครงสร้างและฟังก์ชันสุดๆ “ไอเดียของหลังนี้ มันมาจากพื้นที่ที่ถูกบังคับด้วยขนาดที่มีเท่านี้ แต่ด้วยความรู้ในการก่อสร้างที่เราพอมี ถ้างั้นทำไงให้ดูโปร่ง ก็เลยทำเพดานสูงให้ได้ 3 เมตรกว่า จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด” คุณเบียร์อธิบายถึงเทคนิคการออกแบบที่แก้ปัญหาพื้นที่จำกัดได้อย่างชาญฉลาด ทำให้แม้จะเป็นบ้านขนาดกะทัดรัด แต่ก็ให้ความรู้สึกโอ่โถงและโปร่งสบายมากๆ

การออกแบบยังคงเน้นไปที่ การสังสรรค์ “เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับลิฟวิงรูม เรามองว่าเวลาทุกคนมาบ้านหรือมาเที่ยวคือมากิน” ดังนั้นการจัดวาง Long Table ขนาดใหญ่ และพื้นที่ครัวจึงเป็นหัวใจหลักของบ้านหลังนี้เลย เพื่อให้ทุกคนได้มาใช้เวลาแห่งความสุขกับการกินข้าวร่วมกัน

ห้องครัว หัวใจของบ้านที่คุณเบียร์ใช้เวลามากที่สุด

ห้องครัวสำหรับคุณเบียร์ไม่ใช่แค่ที่ทำอาหารแต่มันคือ พื้นที่แห่งจังหวะชีวิต ที่เขาใช้เวลามากที่สุดในบ้าน ไม่ว่าจะเตรียมอาหาร ต้อนรับแขก หรือแม้แต่นั่งชิลล์คนเดียวในวันสบายๆ ทุกรายละเอียดเลยถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันสุดๆ โดยคำนึงถึงทั้งการใช้งานและปัญหาที่อาจเจอในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปลวกหรือความชื้น เพราะความใส่ใจและประสบการณ์จากบ้านหลังอื่นๆ ทำให้ครัวหลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจล้วนๆ

วัสดุที่เลือกใช้ก็ตอบโจทย์การใช้งานจริง คุณเบียร์เลือกใช้ครัวสำเร็จรูปจากแบรนด์ King ที่ทำจากวัสดุพลาสติก ทนทานต่อปัญหาเหล่านี้ได้ดีมากๆ

ถ้าจะมีพื้นที่ไหนในบ้านที่สะท้อนตัวตนของคุณเบียร์ได้ชัดที่สุด ก็ต้องยกให้ ห้องครัว นี่แหละค่ะ! ห้องนี้ถูกเนรมิตด้วยโทนสี เขียวมะกอกเฉดพิเศษ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างและโดดเด่นในทุกมุมมอง ไม่ใช่แค่สีไม่ซ้ำใครนะ แต่ทุกตารางเมตรคือการแสดงออกถึงความรักในการทำครัว รวมถึงเรื่องสีที่คุณเบียร์มองว่าสำคัญไม่แพ้ฟังก์ชันเลย

“เพราะเรามีบ้านหลายหลัง ครัวแต่ละที่ก็จะมีคาแรกเตอร์ที่ต่างกัน ทั้งครัวสีฟ้า สีขาว ครัวไม้ แต่ยังไม่เคยมีครัวสีเขียวเลย คราวนี้ก็เลยเลือกเฉดเขียวที่ชอบ และสั่งทำขึ้นมาเฉพาะ” คุณเบียร์เล่าอย่างออกรส

จุดเด่นสำคัญอีกอย่างคือ ไอส์แลนด์ขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้เป็นแค่องค์ประกอบการออกแบบ แต่มันกลายเป็น ศูนย์กลางของทุกกิจกรรม ในชีวิตประจำวันเลยค่ะ “ทุกอย่างในการทำครัวเราใช้ไอส์แลนด์ 70%” ไอส์แลนด์นี้เลยไม่ใช่แค่ที่เตรียมอาหาร แต่คือหัวใจที่เชื่อมโยงการใช้งานทั้งหมดไว้ด้วยกัน

เพื่อให้การทำงานในครัวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คุณเบียร์ยังออกแบบ ราวแขวนอุปกรณ์ ที่ทำจากสเตนเลส ซึ่งเป็นงานถนัดมือจากธุรกิจโรงงานผลิตเหล็กและสเตนเลสของเขาเอง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละที่ทำให้ครัวนี้ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชัน ความสะดวก และการจัดเก็บได้อย่างชาญฉลาด

“ครัวที่ดีคือครัวที่ใช้คนเดียว” เขาเล่าพร้อมรอยยิ้ม “เราเป็นคนทำอาหาร เราต้องการพื้นที่ที่หมุนตัวได้ เตรียมของได้จริง เราจะรู้ว่าเรามีอะไรอยู่บ้าง แล้ววางอยู่ตรงไหน” แนวคิดนี้คือหัวใจของการออกแบบพื้นที่ครัวให้ใช้งานได้จริง เพราะไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องสอดคล้องกับจังหวะการใช้ชีวิตจริงๆ ในทุกวัน

นอกจากครัวแพนทรีที่เน้นฟังก์ชันและดีไซน์แล้ว “ครัวไทย” ก็เป็นอีกหนึ่งความฝันที่คุณเบียร์ตั้งใจเติมเต็ม เขาออกแบบครัวไทยที่รองรับการทำอาหารแบบจัดเต็ม พร้อมพื้นที่จัดเก็บอย่างเป็นระบบ โดยเชื่อมโยงกับครัวแพนทรี เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกในชีวิตประจำวัน

บ้านที่สะท้อนความชอบและเต็มไปด้วยชีวิต

การตกแต่งภายในบ้านหลังนี้เหมือนบทสนทนาระหว่างสไตล์ที่หลากหลายที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว แม้จะบอกยากว่าเป็นสไตล์ไหนเป๊ะๆ แต่ทุกมุมกลับให้ความรู้สึก อบอุ่น มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยเรื่องราว ของเจ้าของบ้าน “ชอบอะไรก็ใส่” คุณเบียร์บอกอย่างไม่ลังเล พร้อมเล่าว่าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลายชิ้นก็ย้ายมาจากบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วนำมารวมกับสไตล์ Farmhouse, Cottage, English Cottage, Australian Cottage และของเก่าสไตล์ยุโรป ทุกชิ้นล้วนสะท้อนความชอบเฉพาะตัวของเขา

ความหลงใหลในการตกแต่งยังเห็นได้ชัดจากการเลือกใช้ วอลเปเปอร์ ซึ่งคุณเบียร์ยกให้เป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้าน “การเปลี่ยนวอลปุ๊บ อิโมชันเปลี่ยน หนึ่งวันเสร็จ ไม่มีกลิ่น ไม่มีความวุ่นวาย” เขาเล่าด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน เพราะวอลเปเปอร์ไม่เพียงเพิ่มมิติให้ผนัง แต่ยังเปลี่ยนบรรยากาศของบ้านได้ง่ายๆ จะเปลี่ยนตามฤดูกาลหรืออารมณ์ในแต่ละช่วงชีวิตก็ได้หมดเลย

นอกจากความสวยงามแล้ว ความสะอาด คืออีกสิ่งที่คุณเบียร์ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน “บ้านถ้าไม่สะอาดจะหงุดหงิด” ประโยคสั้นๆ นี้สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนและความใส่ใจในทุกรายละเอียดของพื้นที่อยู่อาศัย ไม่เว้นแม้แต่การเลือกภาชนะในครัว ที่ต้องทั้งสวยและใช้ได้จริง ข้าวของเครื่องใช้ในครัวแบรนด์ Smeg และ Le Creuset เลยกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ แต่คือการลงทุนในคุณภาพ ที่สะท้อนความรักในงานครัวและความตั้งใจในทุกการใช้งาน

เมื่อธรรมชาติหลอมรวมกับการอยู่อาศัย

พื้นที่ภายนอกบ้านก็ไม่ได้ปล่อยให้ว่าง แต่ถูกออกแบบอย่างใส่ใจให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลย ตั้งแต่บริเวณด้านหน้าที่เคยเป็นแค่โรงรถ ก็ถูกแปลงโฉมใหม่ให้กลายเป็น เทอร์เรซเปิดกว้าง เหมาะสำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้า ชมวิวขุนเขา หรือสังสรรค์ยามเย็น พร้อมทั้งต่อเติมห้องน้ำและแพนทรีเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่อิสระไร้ขีดจำกัด

ขยับไปที่ริมสระว่ายน้ำ ศาลาพักผ่อนขนาดย่อม ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับแดดแรงๆ ของเขาใหญ่ พื้นที่นี้ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง ด้วยโต๊ะม้าหินที่ให้ความรู้สึกคลาสสิก ชวนให้นึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก ความเรียบง่ายที่อยู่ได้นานและไม่ต้องดูแลมากนัก คือหัวใจของการออกแบบในพื้นที่กลางแจ้งนี้

ไม่เพียงเท่านั้น ด้านหลังบ้านยังมี “สวนครัว” ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งมุมสำคัญของชีวิตในชนบทอย่างแท้จริง คุณเบียร์เล่าว่าความฝันนี้เกิดจากความรักในการทำอาหาร และได้รับการเติมเต็มด้วยลูกน้องที่เก่งๆ มาช่วยดูแลสวนครัวให้เป็นจริงและกลมกลืนกับธรรมชาติสุดๆ “มันไม่ใช่แฟชั่นของการปลูกผัก แต่มันคือสิ่งที่เราใช้จริงในชีวิตประจำวัน”

สวนผักแห่งนี้ปลูกตามฤดูกาล ไม่เร่งรีบ ไม่ฝืนธรรมชาติ ปล่อยให้ดินและอากาศเป็นตัวกำหนดผลผลิต เช่น ช่วงหลังฤดูเกี่ยวข้าว มะเขือเทศสีดาจะขึ้นง่าย โรยเมล็ดลงตรงไหนก็งอกตรงนั้น เพราะดินและอากาศที่นี่ดีมากๆ เลยเอื้อต่อการเจริญเติบโต เรามีผักให้เลือกเก็บหลากหลายเลยค่ะ ตั้งแต่กะเพรา โหระพา แมงลัก ยี่หร่า โรสแมรี่ มะนาว ผักแพว ผักชีฝรั่ง มะตูมแขก ไปจนถึงผักบุ้ง กวางตุ้ง และในหน้าหนาวก็ปลูกกะหล่ำได้ด้วยนะ!

“ปีแรกที่ซื้อบ้านนี้เราปลูกกะหล่ำแล้วเก็บกินได้ช่วงต้นปี ผลกะหล่ำคือ ‘first cabbage in my life’ เป็นกะหล่ำต้นแรกในชีวิตเลยนะ เรามีความสุขมาก มันสวย กรอบ ฟู เหมือนได้ของขวัญจากธรรมชาติ” คุณเบียร์เล่าอย่างตื่นเต้น ราวกับรสชาติแห่งความสุขนั้นยังคงสดใหม่ในความทรงจำ

บ้านนี้แหละ… “บ้านเรา”

สุดท้ายคุณเบียร์นิยามบ้านหลังนี้ว่า “นี่คือบ้านเรา” ที่มีดอกไม้ มีตุ๊กตา มีความเย็นสบาย มีกลิ่นหอม และความสะอาด ที่สำคัญคือ “บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังสุดท้ายแล้ว เราจะไม่สร้างแล้ว พอแล้ว” สิ่งเหล่านี้เองคือเครื่องสะท้อนถึงความพึงพอใจสูงสุด และความสมบูรณ์แบบที่เขาได้ค้นพบที่นี่

บ้านหลังนี้จึงเป็นมากกว่าแค่สถาปัตยกรรมที่สวยงาม แต่มันคือ ผลงานการออกแบบที่เต็มไปด้วยเรื่องราว แรงบันดาลใจ และความเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง เป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งในแง่ของฟังก์ชัน สุนทรียภาพ และความสุขที่ยั่งยืน เป็นบ้านที่พร้อมต้อนรับทุกคน และเป็นสถานที่ที่คุณเบียร์ได้สัมผัสกับความสุขที่แท้จริงในทุกวันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

wassukon

wassukon

ไม่ได้จบโดยตรงด้านออกแบบ แต่ฝันอยากเป็นสถาปนิกแล้วโลกก็เหวี่ยงให้มาเขียนงานด้านออกแบบเป็นสิบปี ตอนนี้เลยมีโลกส่วนครัวมากกว่าโลกส่วนตัวไปแล้ว