บ้านลูกครึ่งไทย-สแกนฯ 1 นอน 1 น้ำ ที่มีวิวเป็นทุ่งนาสีเขียว
บ้านเล็กๆ หลังนี้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสุข ความทรงจำเกี่ยวกับเจ้าของบ้านที่พวกเขาได้ไปพบเจอ ไม่ว่าจะมาจากการเดินทางหรือได้จากประสบการณ์ ผ่านการคิดและลงมือทำบ้านในแบบที่พวกเขารักและชอบอย่างเป็นตัวของตัวเองที่สุด
นิยามสั้นๆ “บ้านเรา” เป็นคำง่ายๆ ที่เข้าถึงได้แบบไม่ซ้ำซ้อน ไม่หรูหรา แต่ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจ นี่จึงเป็นที่มาของแฟนเพจเฟสบุ๊ก บ้านเรา ซึ่งคุณโดม ประทุมทอง ผู้เป็นสามีของคุณแวนด้า-เกศินี ประทุมทอง เป็นคนคิดคำนี้ขึ้น
คุณแวนด้าเล่าให้เราฟังว่าบ้านหลังนี้สร้างมาแล้ว 2 ปี ก่อนหน้านี้เธอและสามีใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ อยากกลับมาใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด จึงสร้างบ้านหลังเล็กๆ ขึ้นใหม่ให้อยู่ในพื้นที่เดียวกับบ้านของคุณพ่อคุณแม่ บวกกับมีลูกชาย (น้องกวี) จะได้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดคุณตาคุณยาย “แวนย้ายกลับมาอยู่เชียงราย ส่วนแฟนมีโอกาสกลับมาหาลูกเดือนละครั้งสองครั้งก็เลยอยากสร้างบ้านหลังเล็กๆ แยกออกมาให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ตอนนั้นแฟนกับแวนคิดกันว่าน่าจะดีถ้าทำบ้านหลังเล็กไว้อยู่ให้เป็นสัดส่วน มีที่ทำงาน ห้องนอน ห้องน้ำ ครัวแพนทรี ส่วนครัวหนักที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็มีอยู่แล้ว
ในตอนแรกเราวางคอนเซ็ปต์ไว้ว่าจะทำเป็นบ้านน็อกดาวน์ มีแค่ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แต่แผนการสร้างบ้านก็เปลี่ยนไปทุกวัน เราคุยรายละเอียดกับผู้รับเหมาท้องถิ่น ซึ่งถ้าลองเปรียบเทียบราคาแล้ว ราคาสำหรับการสร้างบ้านน็อคดาวน์สามารถสร้างบ้านแบบวางฐานรากดีๆ ได้เลย เราจึงตัดสินใจทำบ้านแบบนี้ดีกว่า โดยเราออกแบบบ้านและคุมงานเอง ในบางส่วนเราไม่ได้จ้างช่างทั้งหมด ก็ช่วยลดต้นทุนไปได้เยอะ อย่างเช่น ให้น้าๆ มาช่วย ก่อฉาบ ทาสี หรือตรงพื้นแวนก็ติดกระเบื้องยาง SPC เอง”
รูปแบบของบ้านเป็นแนวสแกนดิเนเวียนผสมผสานกับความเป็นไทย ซึ่งคุณแวนด้าดัดแปลงและประยุกต์ให้เข้ากับความเป็นท้องถิ่น เนื่องจากที่ดินของบ้านหลังนี้อยู่บนเชิงเขาลาดชัน จึงออกแบบให้บ้านสูงได้ระดับกับถนนฝั่งหลังบ้าน โดยให้ส่วนหน้าบ้านหันไปทางทุ่งนา “เรายกเป็นใต้ถุนสูง ซึ่งเป็นข้อดีตรงที่สามารถต่อเติมชั้นล่างได้อีก ด้วยความที่ยุคสมัยนี้นิยมสไตล์มินิมอลก็เลยชอบสีขาว ชอบสไตล์นอร์ดิก ก่อนจะเกิดโรคโควิดแฟนกับแวนไปเที่ยวแถบยุโรป ชอบสไตล์บ้านเขามาก เลยได้แรงบันดาลใจจากตรงนั้นมาออกแบบบ้านหลังนี้ผสมกับบ้านแบบไทยๆ ที่สามารถมองวิวได้แตกต่างกัน ถ้าเรามองวิวจากระเบียงชั้นบนจะเห็นวิวทุ่งนาแบบ Bird eye view พอลงมาใต้ถุนก็จะได้วิวสีเขียวจากทุ่งนาในระดับสายตา”
ส่วนการตกแต่งภายในเป็นสไตล์มินิมอลในแบบที่คุณแวนด้าชอบ คุมโทนด้วยสีขาวผสมกับงานไม้และงานหวาย เพื่อเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น นอกจากนี้ยังเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เนื่องจากคุณแวนด้าชอบแต่งบ้านจึงมีการปรับเปลี่ยนมุมบ้านอยู่บ่อยครั้ง “เฟอร์นิเจอร์มีทั้งใหม่ และมือสองแนววินเทจ เพราะแวนรู้สึกว่ามันมีความยูนีคไม่เหมือนใคร หลักๆ จะเลือกแบบที่ชอบผสมผสานกันไป แต่ที่สำคัญต้องคุมธีม รวมถึงของตกแต่งกระจุกกระจิกชิ้นเล็กชิ้นน้อยเราก็ซื้อมาแต่งเพิ่ม ให้บ้านดูมีบรรยากาศน่ารักๆ เพราะเราไม่ได้ชอบมินิมอลที่เรียบโล่ง แต่ชอบให้บ้านดูมีชีวิตชีวา แล้วเราก็เติมความสดชื่นภายในบ้านด้วยต้นไม้ให้ดูสดชื่นสบายตา
ส่วนที่พิเศษสำหรับบ้านเราก็คือ พื้นที่ตรงระเบียงด้านนอกขอกว้างหน่อย เรายอมสละพื้นที่ภายในบ้านให้แคบลง เพราะกลางคืนจะได้ออกมานอนดูดาว หรือเวลาเพื่อนมาเที่ยวก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้กางเตนท์นอนได้ ให้อารมณ์เหมือนไปแคมป์ปิ้ง”
พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านวางรูปแบบให้คล้ายคลึงกับฟังก์ชันในคอนโดมิเนียม เหมือนห้องชุดห้องหนึ่ง เมื่อเข้าไปจะเจอกับห้องโถง มีเคาน์เตอร์ครัวสำหรับทำอะไรรับประทานเบาๆ ในมื้อเช้า มีมุมทำงาน โซฟาสำหรับนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียง ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบให้เป็นไปตามความต้องการ เรียกว่าเป็นการย้ายกลับภูมิลำเนาที่เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของคุณแวนด้าไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากจะได้สัมผัสอากาศดีๆ และคุ้นเคยกับสถานที่เดิมๆ แล้ว ยังมีเวลามากพอที่จะทำกิจกรรมร่วมกับลูก มีงานอดิเรก ทั้งยังทำเพจเพื่อแบ่งปันไอเดียแต่งบ้าน เป็นการส่งต่อสิ่งที่ชอบและสร้างแรงบันดาลใจให้ให้กับคนอื่นๆ ได้มีนิยาม “บ้านเรา” ในแบบที่เป็นตัวของเขาเอง
