Design Kitchen & Home

บ้านลุคโมเดิร์นที่รายล้อมด้วยต้นไม้และมีความเป็นส่วนตัวสูง


บ้านลุคโมเดิร์นที่รายล้อมด้วยต้นไม้และมีความเป็นส่วนตัวสูง

บ้านทรงกล่องสไตล์โมเดิร์นที่มีส่วนผสมของตัวอาคารเรียบปนเท่ แต่กลับซ่อนความอบอุ่นและอ่อนโยนไว้ค่อนข้างกลมกลืนกับสวนหย่อมรอบๆ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง รวมถึงพรรณไม้เล็กๆ ปลูกเรียงรายไว้อย่างเหมาะสม และเป็นธรรมชาติมากที่สุด กลายเป็นบ้านอยู่สบายให้ความรู้สึกนุ่มนวลจากกิ่งไม้ที่พลิ้วไหว ร่มเงาที่ทอดลงสู่พื้น และสายลมเย็นๆ สลับกับแดดอ่อนๆ

ตรงนี้เป็นที่ดินเปล่าของคุณฝน เธอปล่อยเช่าให้กับอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ข้างๆ ไว้สำหรับจอดรถ โดยวางแพลนไว้ว่าอยากสร้างบ้านสักหลังหนึ่ง เนื่องจากรู้สึกอิ่มตัวกับการอยู่คอนโดมิเนียม “ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราทำงานและยังสนุกกับการใช้ชีวิตในเมือง แต่พอถึงจุดหนึ่งอยากมีบ้าน เลยคุยกับแฟนว่าจะปลูกบ้าน เราก็เริ่มหาบ้านจัดสรร แต่ด้วยความที่เป็นบ้านจัดสรรมันไม่สามารถตอบโจทย์เราได้ทั้งหมด ยังมีสิ่งที่รู้สึกไม่ตรงกับใจเราเท่าไหร่นัก ถึงแม้จะรู้ว่าการสร้างบ้านเป็นงานที่เหนื่อยก็ตาม แต่ฝนลองคำนวนค่าใช้จ่ายดู จากนั้นจึงตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะสร้างบ้านเอง ด้วยการหา reference และสถาปนิก

แบบบ้านที่เจ้าของบ้านต้องการ

การวางแผนสำหรับการมีบ้านหลังแรกจึงเริ่มต้นขึ้น คุณฝนทำการบ้านด้วยการหาสไตล์และแบบบ้านที่ชอบ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการและเป็นตัวเองได้มากที่สุด “โจทย์ที่ให้กับสถาปนิกค่อนข้างชัดเจน เราต้องการบ้านที่มีกระจก บรรยากาศภายในดูโปร่งๆ ได้รับแสงสว่าง เวลานั่งอยู่ในบ้านแล้วมองออกไปเห็นธรรมชาติ”

นอกจากภาพกว้างๆ ที่คุณฝนให้โจทย์กับทางสถาปนิกแล้ว ในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เธอย้ำกับนักออกแบบ เพราะใช้ชีวิตอยู่กันแค่ 2 คน กับสุนัขอีก 2 ตัว จึงไม่อยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่จนเกินไป “เราบอกชัดเจนเลยว่าขอแค่ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แค่นี้พอแล้ว โดยพื้นที่ที่เหลือเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมด แล้วเรากำหนดฟังก์ชันภายในเอง โดยชั้นบนเป็นฟลอร์ของเรา มีห้องนอน walk in closet ห้องน้ำ his and her ส่วนฟังก์ชันด้านล่างเป็นโอเพ่นแพลน เชื่อมต่อกันระหว่างห้องนั่งเล่น มุมทานข้าว และห้องครัว”

ถึงแม้จะมีอพาร์ทเมนต์อยู่ข้างบ้าน แต่สถาปนิกได้ทลายข้อจำกัดดังกล่าวออกไปด้วยการออกแบบให้บรรยากาศภายในมีความเป็นส่วนตัว ดีไซน์ผนังฝั่งหนึ่งปิดทึบก็จริง แต่ด้านหน้าและผนังอีกฝั่งถูกเปิดโล่งด้วยกระจกบานใหญ่ ปกปิดความวุ่นวายจากบริบทรอบๆ ที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง รถราที่วิ่งเข้าออกในซอยตลอดเวลาด้วยสวน ทำให้ขณะที่ผู้อาศัยใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านเมื่อมองออกไปยังสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวชะอุ่ม ไม่เพียงจะมอบความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังพรางสายตาจากภายนอก กรองเสียง และกรองฝุ่นละออง

อีกหนึ่งความน่าสนใจสำหรับบ้านหลังนี้คือ Foyer ซึ่งคุณฝนตั้งใจเสมือนเป็นจุดพัก ถอดรองเท้า ถึงแม้เธอจะแอบรู้สึกเสียดายภายหลังว่ามุมนี้เล็กไปหน่อย แต่เรากลับรู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างสองมุมนี้ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากภายในดูโอ่อ่าด้วย Double High Ceiling “ตรงนี้เราต้องการเพดานสูง เป็นแบบมาจากที่เราชอบ เปิดพื้นที่สีเขียวเข้าบ้านด้วย สามารถนั่งตรงนี้ได้ทั้งวัน ซึ่งตอนแรกเรากลัวเหมือนกันว่าด้วยแบบบ้านที่เป็นทรงกล่องแล้วใช้กระจกเยอะขนาดนี้จะทำให้บ้านดูแข็งไปหรือเปล่า แต่ก็พยายามเบรคด้วยโทนสีอย่าง ขาว เทา เลือกสีกลางๆ แล้วเพิ่มความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือแม้แต่การออกแบบสวนภายนอก เพื่อดึงความเป็นธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน”

ด้วยความที่คุณฝนต้องการพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับจำนวนคนในครอบครัว เน้นการดูแลง่าย ดังนั้นสเปซในแต่ละส่วนจึงดูกระทัดรัด แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ มีห้องนอนสำหรับคุณแม่ที่อยู่ทางปีกซ้าย แต่นานๆ จะมีโอกาสได้ใช้ปีละครั้ง เนื่องจากคุณแม่ของคุณฝนอยู่ต่างประเทศ ห้องนอนนี้จึงมีไว้รองรับสำหรับแขกด้วยเช่นกัน

ไฮไลท์หลักของบ้านหลังนี้อยู่ที่ความต่อเนื่องของพื้นที่ใช้สอยระหว่างห้องนั่งเล่น มีขนาดกำลังเหมาะไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป แต่ก็สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลไปยังบริเวณโต๊ะทานข้าว เรียกว่าเป็นมุมเอนกประสงค์หากมีเพื่อนๆ มาปาร์ตี้หรือจัดสังสรรค์ก็จะกลายเป็นสเปซใหญ่ที่เชื่อมโยงจนถึงครัวแพนทรีเลยทีเดียว

“ห้องครัวเราเน้นย้ำกับนักออกแบบว่าขอพื้นที่ที่เก็บของได้เพียงพอ เพราะด้วยความที่เคยอยู่คอนโดมิเนียมมาก่อน ทุกอย่างเล็กไปหมด พอมีบ้านเลยอยากให้ครัวมีที่เก็บของเยอะหน่อย ถึงแม้เราใช้งานครัวไม่หนักแต่ทุกอย่างถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันครบ มีไอส์แลนด์สำหรับเตรียมอาหาร มีตู้แขวนสำหรับเก็บอุปกรณ์ เพราะชอบความเรียบโล่ง ส่วนสีหน้าบานตู้ครัวเราก็เลือกเป็น 2 เฉดสีเพื่อให้ครัวดูมีมิติ กำหนดฟังก์ชันในแต่ละจุดเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนล้างซึ่งเราขอไว้ว่าต้องมีหน้าต่างเพื่อมองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียว ถัดจากห้องครัวเป็นห้องเก็บของและห้องลอนดรี้ที่อยู่ด้านใน เพื่อทำให้ดูเป็นสัดส่วนและใช้งานสะดวก”

ทุกวันนี้คุณฝนบอกกับเราว่าเธอยังคงแต่งบ้านอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้จบ แต่ความหมายของการแต่งบ้านสำหรับเธอก็คือ พยายามไม่เอาอะไรเข้ามาเพิ่มเพื่อให้ดูรก แต่เป็นการปรับเปลี่ยนมากกว่า หากมีสิ่งของเข้าก็ต้องมีสิ่งของออก และเน้นไปที่การบำรุงรักษาและคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภายในหรือภายนอก

นี่จึงกลายเป็นบ้านในฝันที่ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปตามความชอบ โดยสะท้อนจากประสบการณ์ชีวิตที่พบเจอแล้วหล่อหลอมให้กลายเป็นบ้านหลังนี้ คุณฝนจึงมีความสุขกับโลกเล็กๆ ของเธอและทำทุกอย่างด้วยความรักและมีเวลาให้กับบ้านหลังแรกได้อย่างเต็มที่ “เพราะบ้านเป็น My safe zone สำหรับเรา”

เจ้าของ:
คุณน้ำฝน แก้วมีชัย และคุณภาสกร แก้วบริสุทธิ์


You Might Also Like...