การออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์กับสภาพภูมิอากาศในบ้านเราที่มีทั้งแสงแดดและความร้อนเป็นสิ่งที่เราควรคำนึงถึงไม่เว้นแม้แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบ การนำเอาบ้านพื้นถิ่นแบบยกพื้นเรือน หรือบ้านที่มีใต้ถุนมาผสมผสานกับบ้านสไตล์โมเดิร์นตามแบบที่เจ้าของบ้านชื่นชอบจึงกลายเป็นส่วนผสมลงตัวที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน
หลังจากที่คุณตี๋-กนกพงษ์ ก่ออ้อ และคุณขวัญ-ธันย์ชนก เศวตเวช แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันเริ่มอยากขยับขยายที่อยู่อาศัย เนื่องจากทั้งคู่วางแผนกันไว้ว่าในอนาคตน่าจะมีลูกด้วยกัน เพราะบ้านที่พักอยู่ร่วมกับคุณปู่คุณย่าอาจไม่เพียงพอกับความต้องการ เขาจึงหาแบบเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ โดยปลูกอยู่ในพื้นที่ที่เป็นอาณาบริเวณเดียวกันกับบ้านของญาติๆ
ลงตัวที่บ้านชั้นครึ่งสไตล์โมเดิร์นและมีใต้ถุน
“บ้านที่อยากได้เริ่มต้นจากความคิดของขวัญก่อน เพราะขวัญชอบบ้านที่มีใต้ถุน มีความเป็นชนบท เพราะเราคุ้นเคยและมักเห็นญาติผู้ใหญ่มานั่งเล่น พูดคุยกันบริเวณใต้ถุนบ้าน เลยคิดว่าอยากได้บ้านแนวๆ นี้ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากได้บ้านโมเดิร์นมินิมอลเหมือนกัน เลยมาลงตัวที่บ้านชั้นครึ่งสไตล์โมเดิร์นและมีใต้ถุนด้วย เป็นการเอาแนวคิดจากบ้านสมัยก่อนมาบวกกับบ้านโมเดิร์น”
“เราหา Reference ในแบบที่ต้องการเอามาผสมผสานกัน แล้วให้ช่างเขียนแบบให้ บอกว่าอยากได้บ้านชั้นครึ่งทรงนี้ มีห้องนอนกี่ห้อง ห้องนอนมีขนาดเท่าไหร่ บริเวณห้องนั่งเล่นกับห้องครัวต้องมองเห็นกัน” คุณตี๋พูดเสริม
การออกแบบโครงสร้างภายนอกและพื้นที่ภายในเป็นไปตามโจทย์
การออกแบบโครงสร้างภายนอกและพื้นที่ภายในเป็นไปตามโจทย์ที่คุณขวัญและคุณตี๋ต้องการ บ้านสไตล์โมเดิร์นชั้นครึ่งที่เพิ่มลูกเล่นให้มีใต้ถุนบ้าน มีบันไดทางขึ้นยกสเตปตามแบบเรือนไทย เมื่อเดินเข้าสู่พื้นที่ภายในจะพบกับห้องนั่งเล่นอยู่ทางปีกซ้าย เชื่อมไปยังห้องครัวปิดที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่บรรยากาศภายในกลับไม่อึดอัด เพราะเปลี่ยนจากผนังทึบให้เป็นช่องกระจกบานใหญ่ ช่วยลดความอับทึบแล้วยังได้แสงสว่างจากภายนอกห้องครัวมายังห้องนั่งเล่น ทั้งยังมองเห็นกันและกันแม้จะอยู่คนละพื้นที่ก็ตาม
ส่วนการตกแต่งภายในทั้งคู่เลือกเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เพราะสามารถคุมงบประมาณได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน กำหนดมู้ดแอนด์โทนด้วยการใช้ผนังสีขาวกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีบางจุดที่เพิ่ม DIY แบ่งเขตให้มีลูกเล่นด้วยซุ้มโค้งสีสร้างแพตเทิร์นให้กับห้องนั่งเล่นดูน่าสนใจ และติดชั้นไม้สำหรับวางของตกแต่งกระจุกกระจิกเพิ่มบรรยากาศให้บริเวณนี้มีชีวิตชีวา
ดึงกลิ่นอายความเป็นไทยสอดแทรกในการออกแบบห้องครัว
พื้นที่ถัดมาคือห้องครัวเลือกแนวทางการตกแต่งให้เป็นคอนเซ็ปต์เดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวม ดึงเอากลิ่นอายความเป็นไทยเข้ามาสอดแทรกอยู่ภายในครัว “เลือกใช้ครัวปูนของบุญถาวร Smart Kitchen สามารถทำครัวหนักได้สบาย เพราะเราทำอาหารกินเอง เป็นเมนูที่ทำกันง่ายๆ แต่ใช้ครัวค่อนข้างบ่อยเลยให้เขาออกแบบเต็มพื้นที่ มีฟังก์ชันใช้งานครบ ส่วนลวดลายของกระเบื้องผนังเลือกเป็นแพตเทิร์นสับหว่างแบบลายผนังก่ออิฐ กระเบื้องพื้นเป็นลายจุดทำให้ครัวดูมีลูกเล่นขึ้น มีตู้สำหรับเก็บจานชามที่ขวัญชอบซื้อมาวางไว้ตรงผนังอีกฝั่งหนึ่ง”
แต่งห้องนอนให้เป็นมู้ดแอนด์โทนเดียวกัน
ห้องนอนใหญ่ถูกกำหนดตำแหน่งไว้ด้านในสุด ตกแต่งให้เป็นโทนเดียวกัน มีสีชมพูจากของตกแต่งอย่างพรมเช็ดเท้า เก้าอี้ และต้นไม้เพิ่มเติมเข้ามาให้บรรยากาศดูน่ารักและละมุนมากขึ้น “พยายามทำให้มู้ดมันเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เลือกโทนสีและเฟอร์นิเจอร์แบบเดียวกัน แล้วเราก็แยกห้องนอนกับห้องแต่งตัวออกจากกัน เพื่อความเป็นสัดส่วนและดูเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงห้องน้ำ 2 ห้องที่ตกแต่งให้แตกต่างกัน ห้องหนึ่งสำหรับแขกดีไซน์ให้เป็นโทนขาวดำ ส่วนอีกห้องตกแต่งให้ดูขาวคลีน”
ใต้ถุนบ้านที่ได้แรงบันดาลใจจากคาเฟ่
อีกหนึ่งไฮไลต์ของบ้านหลังนี้อยู่บริเวณใต้ถุนที่ได้ไอเดียมาจากคาเฟ่แห่งหนึ่ง กระเบื้องพื้นมีลักษณะเหมือนหินขัด คุณขวัญจึงรู้สึกถูกใจและอยากนำสไตล์นี้มาตกแต่ง ซึ่งเข้ากันกับเก้าอี้หวาย เก้าอี้ไม้ กลายเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัวที่สามารถนั่งเล่นรับลมธรรมชาติและชมสวนได้ตลอดทั้งวัน
คุณตี๋และคุณขวัญบอกว่าบ้านเพิ่งสร้างเสร็จได้ประมาณปีกว่าๆ ทั้งคู่รู้สึกรักบ้านหลังนี้มาก เหมือนทั้งคู่เริ่มต้นจากศูนย์และเติบโตไปพร้อมกัน จากไม่มีความรู้ก็ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างบ้านด้วยตัวเองตั้งแต่วัสดุ การคุมงบประมาณ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ จนกระทั่งสมบูรณ์เป็นรูปเป็นร่าง ดังนั้นพวกเขาจึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ในการทำบ้านผ่านเพจบ้านหมูกับหมี (https://www.facebook.com/baanmoogubmee) โดยทั้งคู่ทิ้งท้ายว่า “ทุกคนสามารถมีบ้านอย่างที่ฝันได้ เหมือนเราที่ไม่มีความรู้และไม่มีประสบการณ์ในการทำบ้านมาก่อน แต่สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นบ้านในฝันเช่นเดียวกับที่เราถ่ายทอดความเป็นบ้านหมูกับหมีที่สะท้อนถึงตัวเราทั้งคู่ออกมาได้อย่างภาคภูมิใจ”
เจ้าของ
คุณตี๋-กนกพงษ์ ก่ออ้อ และคุณขวัญ-ธันย์ชนก เศวตเวช
