ครั้งนี้เราจะพาไปดูไอเดียการตกแต่งบ้านในแบบเฉพาะของ คุณปูเป้-ปิยาพร พิสิฐวุฒินันท์ Co-Founder RAN Cosmetics ซึ่งเธอเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์แป้งรัน เป็นผู้หญิงทำงานที่ส่วนใหญ่ใช้เวลาหมดไปกับการทำงาน มีเวลาอยู่บ้านน้อยมาก แต่ด้วยสถานการณ์โควิดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ไลฟ์สไตล์ของเธอคนนี้เปลี่ยนไป ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกซื้อบ้านหลังใหม่ โดยความตั้งใจให้ที่นี่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เป็นได้ทั้งสถานที่สำหรับคุยงาน พบปะเพื่อนฝูง หรือแม้แต่ปลีกตัวจากความเหนื่อยล้าเพื่อมาพักผ่อน
คุณปูเป้เลือกซื้อโครงการจัดสรรซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังแรก นอกจากเดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนแล้ว ยังถูกใจรูปแบบของการออกแบบบ้านภายนอกด้วยเช่นกันที่เน้นความเรียบง่ายสไตล์มินิมอล ใช้สีที่ตัดกันบวกกับแสงเงาทำให้บ้านดูสวยแปลกตาไปจากที่เคยเห็น หรือแม้แต่ตัวบ้านที่ออกแบบยกสูงแล้วยังมีความเป็นส่วนตัวด้วยการเปิดพื้นที่ด้านข้าง ใช้ประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อเผยให้เห็นสวนหย่อมแทนบริเวณหน้าบ้าน เป็นการดึงเอาธรรมชาติจากภายนอกแม้นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็ยังคงมองเห็นพื้นที่สีเขียว
เมื่อเดินเข้ามาเราจะเจอบริเวณหน้าบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว เปิดเข้าไปจะพบกับสเปซสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ แล้วดันพื้นที่ในส่วนของบันไดชิดผนังฝั่งหนึ่ง กลายเป็นคอมมอนแอเรียที่มีตั้งแต่ห้องนั่งเล่น โต๊ะทานข้าว และห้องครัว โดยสมาชิกในครอบครัวสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมด เปิดสเปซเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบจากครัวปิดที่มีผนังกั้น จึงทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งสบายเป็นไปอย่างที่คุณปูเป้ต้องการ
“บ้านหลังนี้เริ่มจากช่วงโควิด เราไม่มีที่สำหรับคุยงาน เพราะบ้านอีกหลังคุณพ่อคุณแม่อยู่ อีกอย่างท่านอายุเยอะแล้วเราเลยไม่อยากให้คนนอกเข้าบ้าน ตัดสินใจซื้อที่นี่เพราะถูกใจตั้งแต่เรื่องการเดินทาง สไตล์การออกแบบ ตอนแรกที่เข้ามาดูยังเป็นพื้นที่โล่ง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ตกแต่ง เริ่มจากทุบผนังครัวก่อน อยากได้บ้านโปร่งๆ อยู่สบาย เพราะเดิมเป็นห้องครัวแบบปิดทำให้รู้สึกอึดอัดและดูคับแคบไปหมด
“เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นของทางโครงการแถมมาให้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ประเภทลอยตัวเรายกออก เพราะไม่ใช่สไตล์ที่ชอบ เหลือแค่ชุดครัวบิลต์อินที่ยังคงไว้ แล้วสั่งทำตั้งแต่โต๊ะทานข้าว เก้าอี้ เนื่องจากของเดิมเป็นดีไซน์แบบเรียบๆ เพื่อให้เป็นแนวเดียวกันทั้งหมด”
จากประสบการณ์ในการทำบ้านที่ผ่านมาทำให้คุณปูเป้ค่อนข้างกังวลกับการทำงานของช่างที่มักจะทิ้งงานบ้าง ทำงานล่าช้าบ้าง เธอจึงคิดว่าทางโครงการมีเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินส่วนไหนมาให้ก็ใช้ไปก่อน ปรับเปลี่ยนแค่เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เหมือนกัน อย่างเช่นตู้สำหรับเก็บจานชามโดยเฉพาะ “หาแบบตู้ในพินเทอเรสให้กับร้านทำเฟอร์นิเจอร์ว่าเราต้องการแบบนี้ มีฟังก์ชันอะไรบ้าง ซึ่งจุดเริ่มต้นของการซื้อจานชามสวยๆ ของเราก็มาจากช่วงโควิดเหมือนกัน เพราะชอบดื่มชา ทานขนม เลยอยากได้จานสวยๆ เอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มอรรถรสและความสุนทรีในการทาน
“เรารู้สึกเหนื่อยเวลาทำงานร่วมกับช่างทั้งๆ ที่เราก็เป็นคนชอบแต่งบ้าน อยากทำอะไรหลายอย่างเพิ่มเติม แต่คิดว่าอยู่ไปสักพักก่อนแล้วจะทำอะไรใหม่หลังจากนี้ก็ค่อยว่ากัน แต่ในบางอย่างที่ต้องมีก็ต้องต่อเติมเพิ่มอย่างห้องครัว ถึงแม้ทางโครงการจะมีบิลต์อินชุดครัวให้ แต่ถ้ามีพื้นที่สำหรับทำอาหารหนักๆ ที่แยกส่วนออกไปน่าจะดีกว่า จึงมีครัวหนักอยู่ด้านนอกแล้วทำหน้าต่างเพื่อเป็นช่องส่งอาหาร สะดวกในการจัดเสิร์ฟมายังโต๊ะทานข้าว
ส่วนดีไซน์ชุดครัวเป็นหน้าบานไม้ สีออกโทนครีมๆ ก็เป็นแนวที่เราชอบอยู่แล้ว แต่กลัวว่าครัวจะดูจืดเกินไปก็เลยใช้สีของเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ เครื่องปิ้งขนมปัง และกาน้ำที่เป็นสีแดงเข้ามาตัด ซึ่งครัวแพนทรีชุดนี้เราตั้งใจไว้สำหรับอุ่นอาหารอย่างเดียว หรือทำเมนูเบาๆ เล็กน้อยเท่านั้น”
อีกหนึ่งจุดเด่นที่สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงคือ คุณปูเป้เลือกปรับเปลี่ยนพื้นจากกระเบื้องแกรนิตโตเป็นกระเบื้องยาง SPC แบบคลิกล็อก ซึ่งใช้เวลาในการทำน้อย ไม่ต้องรื้อ พื้นไม่เสีย ไม่มีฝุ่น ทั้งยังทำให้บ้านอบอุ่นและดูโฮมมี่มากยิ่งขึ้น
นอกจากการตกแต่งพื้นที่ภายในบ้านจะเปลี่ยนไปตามความชอบแล้วก็ยังให้ความสำคัญกับสวน เลือกปลูกพรรณไม้ที่ชอบอย่างสนจักรพรรดิโดยปลูกเป็นแนวรั้ว ต้นซิลเวอร์โอ๊ก และต้นล่ำซำที่ให้ฟอร์มสวยคล้ายกับต้นคริสต์มาส
ถึงแม้จะเป็นบ้านในโครงการจัดสรร แต่บ้านของคุณปูเป้หลังนี้ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ตั้งแต่การเลือกพรรณไม้ ไอเดียตกแต่งภายใน เป็นส่วนผสมในแบบฉบับของเธอเอง ซึ่งไม่ได้มีไว้เพื่อรองรับการพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงการทำงานและพบปะเพื่อนฝูง ครบทุกฟังก์ชันและลงตัวอยู่ในบ้านหลังนี้
