Design Kitchen & Home

ส่องเบื้องลึกที่ไม่ใช่เบื้องหลังของผู้กำกับ Long Live Love มุก-ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ


ถ้าใครเคยหลังรักซิตคอมอย่างเรื่อง เนื้อคู่ประตูถัดไป และเนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร คุณจะต้องรู้จักผู้กำกับและคนเขียนบท “มุก ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ ครั้งนี้เธอกลับมาในฐานะผู้กำกับ Long Live Love ผู้หญิงที่มีฝันอยากทำหนังไทยมาตลอด และวันนี้หนังรักรสชาติใหม่สายเลือดไทยกำลังทำรายได้พุ่งสู่ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นกระแสที่คนบอกกันปากต่อปากไม่ว่าจะพลอตเรื่องหรือการคัดเลือกนักแสดง

เราเลยขอเกาะกระแสเบื้องลึกที่ไม่ใช่เบื้องหลังการทำงาน แต่เป็นไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของผู้กำกับหญิงคนเก่งว่า ถ้าเธอมีบ้านล่ะ ไอเดียการตกแต่งจะว้าว หรือจะเรียบง่ายกันนะ?

คอนโดมิเนียมดูเพล็กซ์ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ คือคำตอบสุดท้าย

คุณมุกเริ่มปรับเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องใหม่ทั้งหมด ผลลัพธ์ของการกล้าตัดสินใจจึงเป็นอย่างที่เห็น ถึงแม้จะไม่สามารถจำกัดคำนิยามได้ชัดว่าตกแต่งสไตล์อะไร แต่ที่แน่ๆ ในทุกๆ ตารางนิ้วคุณมุกทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจในแบบที่เธออยากให้มันเป็น

“ก่อนหน้านี้บ้านมุกอยู่สุขุมวิท 101 ไกลออกไปจากตรงนี้ เราคุ้นชินและใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้อยู่แล้ว แต่นี่ขยับตำแหน่งให้ใกล้ขึ้นมาหน่อย เลือกทำเลเป็นหลัก ใกล้ที่ทำงาน รู้สึกว่าการอาศัยในคอนโดมันค่อนข้าง Practical กับเรา ใช้เวลาอยู่บ้านไม่เยอะ เพราะทำงานหนักและการอยู่คอนโดก็สะดวกสบายกว่าต่างจากการอยู่บ้านที่ต้องดูแลเรื่องการดูแลรักษา และโจทย์ที่เราอยากได้อีกอย่างก็คือคอนโดมิเนียมดูเพล็กซ์ อยากได้สเปซแบบ 2 ชั้น”

“ก่อนหน้านี้ไปดูคอนโดมิเนียมหลายที่มาก แต่ที่นี่สามารถทุบได้ จริงๆ แปลนไม่เหมือนอย่างที่เห็นในตอนนี้แบบค่อนข้างเรียบ เราทำการบ้านก่อนซื้อให้สถาปนิกทำแปลนด้วย ตอนแรกที่เข้ามาเราจินตนาการได้เลยรู้แล้วว่าจะทุบอะไรทิ้งบ้าง จริงๆ ตอนยื่นแบบที่สถาปนิกเขียนเสร็จแล้วถ้าเกิดทุบไม่ได้เราก็ไม่ซื้อ แต่สุดท้ายทุบได้เพราะไม่ตรงกับเสาหลักของคอนโด เลยตัดสินใจฟังก์ชันใช้สอยภายในใหม่หมด”

“แปลนเดิมชั้นล่างเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เราทุบผนังออก อีกอย่างที่ชอบที่นี่เพราะว่าเพดานสูงส่วนผนังห้องนอนของเดิมมีหน้าต่างบานเล็กอยู่แล้ว แต่มุกรู้สึกว่ามันตัน เพราะเราชอบให้มีช่องแสงเยอะๆ เลยเจาะหน้าต่างแล้วกรุกระจกเพิ่ม ห้องน้ำชั้นบนที่ตรงกับห้องครัวชั้นล่างก็ทำเป็น Walk in closet เป็นห้องแต่งตัวไปเลย เพราะว่าเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยถ้าห้องน้ำตรงกับครัวมันจะไม่ดี เราก็เหลือห้องน้ำแค่ชั้นล่างห้องเดียว”

ทำการบ้านจาก Pinterest

ส่วนเรื่องดีไซน์และพื้นที่ใช้งาน คุณมุกบอกว่าทำการบ้านจาก Pinterest แต่ด้วยความที่ชอบความยูนีค สไตล์การตกแต่งจึงผสมผสาน พยายามนำสิ่งที่ชอบมาแมทช์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเธอเองมากที่สุด “สังเกตจากกำแพงจะเห็นว่ามี 3 แบบ มุกเลือกจากสิ่งที่ชอบและจับคู่สีจากสีที่ชอบอย่างสีดำ และสีชมพู เพราะรู้สึกว่ามันแสบดี เลยเอามาเล่นตรงผนัง บวกกับเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย อีกอย่างมุกเป็นคนธาตุไฟเหมือนกับว่าถ้าอยู่กับไม้แล้วจะแอคทีฟ แต่เราก็ชอบอะไรที่เป็นไม้อยู่แล้ว เลยตัดสินใจทำพื้นใหม่ด้วยไม้สักเลยดีกว่า”

เป็นคนจู้จี้มาก

“มุกแทบจะออกแบบและตกแต่งภายในเองทั้งหมด เป็นคนจู้จี้มากด้วยสายงานเราด้วยที่เป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์มี Reference ในการทำงาน ทีนี้พอเราต้องตกแต่งภายใน สถาปนิกเขาจะเป็นคนคำนวนว่าสเปซควรจะเท่าไหร่ อย่างไร แล้วเรามี reference ให้เขาแน่นมาก แก้แบบกันเยอะมากด้วย เพราะงานเราเป็นผู้กำกับเท่านี้คือเท่านี้ ต่างกัน 3 มิลฯ เราก็รู้ เพราะเราชินกับอาชีพเราด้วย อย่างเวลาดูเฟรมมอนิเตอร์เราขยับกันเป็นมิลฯ พอทำงานตกแต่งจริงๆ เราก็จะขยับเป็นมิลฯ เหมือนกัน อย่างชั้นหนังสือตรงนี้รื้อไปรอบหนึ่งเพราะว่ามันถี่เกินไป ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าขนาดหนังสือที่เรามีมันมีเล่มใหญ่เยอะมาก”

ห้องครัวคือมุมโปรด

มุมโปรดของคุณมุกดูเหมือนจะเป็นส่วนของห้องครัว เนื่องจากชอบทำอาหารมาก หากมีเวลาว่าจะใช้เป็นมุมฝึกมือในการทำ ซึ่งนอกจากจะทำทานเองแล้วยังแบ่งปันส่งต่อให้เพื่อนๆ อีกด้วย “สนใจเรื่องการทำอาหารเพราะว่าคุณพ่อทำอาหารอร่อยมาก มุกเริ่มทำเพราะรู้สึกเหมือนเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง พอได้ลงมือทำอาหารแล้วคิดว่าชีวิตเราก็เท่านี้ โฟกัสแค่อาหาร จดจ่อกับสิ่งนี้ ทุกครั้งที่ได้ทำอาหารเหมือนเราได้เจริญสติ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เคยฟังสัมภาษณ์ของเชฟแวน-เฉลิมพล โรหิตรัตนะ เขาพูดเรื่องพุทธกับการทำอาหารซึ่งตอบโจทย์เรามาก เพราะปกติเป็นคนโฟกัสแบบสุดๆ ไปเลยจนที่เหลือพังหมดก็เลยชอบทำครัวเป็นพิเศษ รู้สึกว่าพอทำอาหารแล้วมันได้รีแลกซ์ เวลาเราทำอย่างอื่นแล้วไม่สามารถหยุดคิดเรื่องงานได้ แต่พอทำอาหารแล้วมันทำให้เราหยุด ไม่อย่างนั้นอาหารคือกินไม่ได้เลยนะ”

“มุกเรียนรู้การทำอาหารเอง แต่เชื่อว่าการทำอาหารมันอร่อยได้เพราะลิ้น ถ้าลิ้นเคยเผชิญกับรสชาติแล้วเกิด Experience ดีจะทำให้เราทำอาหารได้ดี คือสามารถแยกรสแยกกลิ่นออกมา อีกอย่างการทำอาหารได้ดีเพราะว่าได้ทานอะไรที่อร่อยจากรสมือพ่อมาหรือเปล่า ตรงนี้ก็ทำให้ได้ถอดสูตรหรือเวลาชิมอะไรก็จะแยกได้ว่าอร่อยไม่อร่อยเป็นอย่างไร มุกเป็นคนชอบทานอาหารไทยอยู่แล้วแต่ทำให้อร่อยน่ะทำยาก อย่างแกงแคที่เป็นอาหารเหนือทำยากมาก โดยเฉพาะน้ำใบย่านาง แต่เราจะพยายามทำให้ได้รสชาติแบบที่เราเคยทาน ต้องมีมุมานะในการทำให้ได้”

เมื่อคุณมุกเกิดความหลงใหลในการทำอาหาร อีกด้านหนึ่งของการตกแต่งห้องครัวเธอก็ให้ความสำคัญกับการออกแบบครัวด้วยเช่นกัน ถึงแม้ทางคอนโดมิเนียมจะไม่ให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของพื้นที่ครัวใหม่แต่เธอก็ขอดีไซน์รายละเอียดในบางจุดเพื่อให้ตรงกับความชอบของตัวเอง “เปลี่ยนวัสดุปิดผิวตรงหน้าบานชุดครัวใหม่ เลือกปิดผิวด้วยงานไม้ลามิเนตกันน้ำ แต่ที่เป็นเคาน์เตอร์ครัวด้านหน้าเป็นไม้จริง แล้วก็เปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาเลือกดีไซน์ของอิตาลี เครื่องดูดควัน และก๊อกน้ำเลือกสีทองที่ดูมันวาว มุกว่าระหว่างสีทองกับไม้มันเป็นคู่สีที่สวยไม่อยากให้มันแพ้กัน ถ้าเลือกเลือกไม้กับเงินก็จะดูจ๋อยๆ ไปหน่อย”

นอกจากดีไซน์ชุดครัวแล้วในเรื่องของฟังก์ชันก็ออกแบบและเลือกให้ตรงกับการใช้งาน เน้นทำอาหารได้จริงแล้วยังต้องเก็บของได้ด้วย “มุกชอบให้ครัวเรียบๆ ก็เลยออกแบบตู้ให้มีขนาดใหญ่ เก็บอุปกรณ์ทำอาหารและเครื่องปรุงไว้ด้านในทั้งหมด”

ตำแหน่งของห้องครัวเชื่อมต่อกับโซนนั่งเล่นมีเพียงเก้าอี้ที่เป็นเอาท์ดอร์ตัวเดียวและโคมไฟตั้งพื้น designed by Severin Hansen ก็ดูเท่แล้ว เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้ที่มีฟอร์มแปลกๆ อย่างต้น ยางอินเดีย กวักมรกต และเสน่ห์จันทร์แดง ถัดไปด้านในเป็นมุมทำงานประกอบด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่โดยทำเป็นชั้นไม้ตรงผนัง ตกแต่งด้วยโต๊ะไม้ที่เป็นของเก่าสไตล์วินเทจสามารถปรับยืดขนาดได้หากมีเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ ซึ่งการเปิดโล่งพื้นที่ทั้งสามส่วนนี้ช่วยทำให้เกิดสเปซที่กว้างขึ้นทั้งยังสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณมุกบอกว่าพยายามบริหารพื้นที่ด้านล่างให้ดูสบายมากที่สุด

เป็นคนชอบทำงาน แต่ถึงเวลานอนก็นอน

“มุมนั่งเล่นไม่ได้มองโซฟาเลยเพราะเป็นคนชอบทำงาน นอนก็คือนอน แต่งโดยยึดจากไลฟ์สไตล์เป็นหลักเลยไม่คิดว่าในห้องนั่งเล่นจะต้องมีโซฟา แต่เลือกเก้าอี้ลอยตัวที่เป็นเอาท์ดอร์เพราะพอไปวางอยู่กับต้นไม้มันก็ดูตลกดี ส่วนมุมทำงานเราใช้พื้นที่ผนังโดยออกแบบให้เป็นชั้นหนังสือ อยากมีมุมแบบนี้เพราะเคยไปประเทศเบลเยียมแล้วไปเจอร้านอาหารร้านหนึ่งที่ชอบมากชื่อว่า Amadeus Amadeo Brussel เป็นร้านอาหารที่อยู่ในห้องสมุด เลยได้ไอเดียมาจากร้านนั้นเอามาแต่งคอนโดเรา ไม่ต้องมีโต๊ะกินข้าวในครัวก็ได้นี่ ทานที่โต๊ะทำงานตรงนี้นี่แหละความรู้สึกก็เหมือนเราได้กินอาหารในห้องสมุดแล้วก็ใช้โต๊ะตัวนี้นั่งทำงานไปด้วย”

เรียกว่าที่นี่เป็นการหลอมรวมระหว่างไลฟ์สไตล์เข้ากับสเปซอยู่อาศัยจนกลายเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจสำหรับคนคิดนอกกรอบที่เปลี่ยนคอนโดมิเนียมธรรมดาๆ ให้กลายเป็นเรื่องราวใหม่ในแบบที่เธอเลือกเอง


You Might Also Like...