ปี 2026 ถือเป็นปีแห่งการหวนคืนสู่ความสงบและรากฐานที่มั่นคง เทรนด์สีทาภายในจึงมุ่งเน้นไปที่โทนสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เชื่อมโยงกับธรรมชาติ และมอบความสุขุมหรูหราแบบไม่ฉูดฉาด (Quiet Luxury) ซึ่งเราได้รวบรวม 5 โทนสีหลักที่ได้รับการคาดการณ์และประกาศจากสำนักสีชั้นนำ เพื่อให้คุณนำไปใช้ในการรีโนเวทและตกแต่งบ้านได้อย่างมั่นใจ
1. Universal Khaki (โทนสีกากีอมเทา)
Color of the Year 2026 โดย Sherwin-Williams
เป็นโทนสีกลาง (Neutral) ที่มาแทนที่สีเทาและขาวจัดจ้าน สีกากีอมเทาคือเฉดสีเอิร์ธโทนที่ให้ความรู้สึก “มั่นคงและเหนือกาลเวลา” (Timeless) มีความลึกกว่าสีเบจทั่วไป ทำให้ไม่ดูจืดชืด และยังสะท้อนแนวคิด Essentialism ที่เน้นความเรียบง่ายและตั้งใจใช้ชีวิต
- ความรู้สึก: อบอุ่น สงบ คลาสสิก
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับเป็นสีหลักของผนังทั้งบ้าน ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนถึงห้องนอน ช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ หนัง หรือผ้าลินินโดดเด่นขึ้น
2. The Rhythm of Blues (ตระกูลสีคราม/น้ำเงินหม่น)
Color Family of the Year 2026 โดย Dulux
Dulux เลือกกลุ่มสีน้ำเงินครามถึง 3 เฉด เพื่อสะท้อนจังหวะชีวิตที่หลากหลายของคนยุคใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้เน้นพลังของการ “ผ่อนคลายและสร้างสมาธิ” สีน้ำเงินหม่นเป็นสีที่เชื่อมโยงกับท้องฟ้าและมหาสมุทร ช่วยลดความเครียดทางสายตา
- เฉดสีสำคัญในตระกูล:
- Slow Swing: สีน้ำเงินเข้มหม่น (Dark Blue) ที่ให้ความรู้สึกสงบและหนักแน่น เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องทำงานที่ต้องการสมาธิ
- Mellow Flow: สีฟ้าอ่อนโปร่ง (Light Airy Blue) คล้ายท้องฟ้ายามเช้า ให้ความรู้สึกสดชื่นและปลอดโปร่ง เหมาะกับพื้นที่เล็กๆ หรือโถงทางเดิน
- การใช้งาน: ใช้สีอ่อนเป็นสีหลัก และใช้สีเข้มเป็น Accent Wall หรือทาบริเวณตู้บิลต์อินเพื่อสร้างมิติ
3. Silhouette (สีน้ำตาลไหม้/ดำอมแดง)
Color of the Year 2026 โดย Benjamin Moore
เป็นสีเข้มที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและมีความสุขุมหรูหรา (Refined Elegance) Silhouette เป็นสีน้ำตาลไหม้ที่เจือด้วยสีของถ่านและสีแดงเข้ม (Burnt Umber) ให้ความลุ่มลึกที่แตกต่างจากสีดำหรือเทาเข้มแบบเดิม
- ความรู้สึก: สุขุม ลึกลับ มีรสนิยม
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับสร้างความ Drama ในพื้นที่เฉพาะ เช่น ผนังเน้น (Feature Wall) ในห้องอาหาร หรือใช้กับตู้และตู้เก็บของในห้องสมุด เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในแกลเลอรีส่วนตัว ควรจับคู่กับสีขาวครีมหรือสีทองเหลืองเพื่อสร้างความโดดเด่น
4. Warm Eucalyptus (สีเขียวหม่น/เขียวพฤกษา)
Color of the Year 2026 โดย Valspar
สีเขียวอ่อนหม่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากใบยูคาลิปตัส เป็นการต่อยอดของเทรนด์ Biophilic Design ที่ยังคงมาแรงในปี 2026 สีนี้มอบความรู้สึกผ่อนคลายในแบบธรรมชาติ เหมือนการนำความสงบของสวนเข้ามาไว้ในบ้าน
- ความรู้สึก: สมดุล เย็นตา และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
- การใช้งาน: เป็นสีที่ยอดเยี่ยมสำหรับทาห้องครัวหรือห้องน้ำ เพราะให้ความรู้สึกสะอาดตาแต่ไม่เย็นชา สามารถจับคู่กับวัสดุไม้ธรรมชาติ และโลหะสีทองเหลือง (Aged Brass) เพื่อเพิ่มความหรูหราแบบอบอุ่น
5. Deep Plum & Moody Berry (โทนสีพลัม/เบอร์รีเข้ม)
Color of the Year 2026 โดย Graham & Brown (Divine Damson)
เป็นโทนสีที่กล้าหาญและเย้ายวน (Courageous and Seductive) แสดงให้เห็นว่าบ้านที่เน้นความสงบก็สามารถมีมุมที่เต็มไปด้วยพลังและอารมณ์ได้ โทนสีม่วงพลัมเข้ม หรือแดงอ็อกซ์บลัด (Oxblood) เป็นสีที่สื่อถึงความมั่งคั่ง หรูหรา และความอิ่มเอม
- ความรู้สึก: โรแมนติก หรูหรา และอบอุ่น
- การใช้งาน: ใช้กับห้องที่ต้องการบรรยากาศเฉพาะ เช่น ห้องทานอาหาร (Dining Room) หรือผนังด้านหลังหัวเตียง โดยใช้ในรูปแบบของ Velvet Upholstery (เบาะกำมะหยี่) หรือ Drapery (ผ้าม่าน) เพื่อให้เกิดมิติของพื้นผิว (Texture)
หากคุณกำลังรีโนเวทในปี 2026 การเลือกใช้โทนสีเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นสี Universal Khaki ที่เป็นกลางอย่างมีชั้นเชิง หรือสี Deep Blue ที่ให้ความสงบ จะช่วยให้บ้านของคุณไม่เพียงแต่ดูทันสมัยเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่ “ชาร์จพลัง” ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.sherwin-williams.com
https://www.dulux.co.uk/
https://www.benjaminmoore.com/
https://www.valspar.com/
https://www.grahambrown.com/
