เนื่องในโอกาส วันไข่โลก ที่ทั่วโลกจัดขึ้นทุกเดือนตุลาคมเป็นประจำทุกปี สำหรับในปี 2564 วันไข่โลก จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “กินไข่วันนี้ และทุกวัน” (Eat your Egg today and every day) เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนเห็นความสำคัญถึงประโยชน์ของไข่และรับประทานไข่มากขึ้น แพทย์และนักวิชาการ ชวนคนไทยบริโภคไข่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้า 300 ฟองต่อคนต่อปี เพราะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีโปรตีนสูง มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เสริมสร้างระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เหมาะกับสุขภาพของผู้คนทุกช่วงวัย และที่สำคัญช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลตัวดีให้ร่างกาย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ไข่ไก่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูง แต่อัตราการบริโภคไข่ไก่ของคนไทยในปี 2563 เฉลี่ยอยู่เพียง 223 ฟองต่อคนต่อปีเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าประชากรในประเทศ อย่างชาวจีนบริโภค 399 ฟองต่อคนต่อปี ชาวญี่ปุ่น 345 ฟองต่อคนต่อปี ชาวมาเลเซีย 314 ฟองต่อคนต่อปี สหรัฐอเมริกา บริโภค 300 ฟองต่อคนต่อปี ซึ่งการบริโภคไข่เพิ่มขึ้นจะช่วยส่งเสริมพัฒนาภาวะโภชนาการของคนไทยทุกช่วงวัย
ในปีนี้ กรมอนามัย กรมปศุสัตว์ และคณะกรรมการรณรงค์บริโภคไข่ไก่ร่วมกันส่งเสริมคนไทยบริโภคไข่ อาหารโปรตีนสูงสู่เป้าหมาย อัตราเฉลี่ย 300 ฟองต่อคนต่อปีให้ได้ภายในปี 2566 ที่จะถึงนี้ นายแพทย์สุวรรณชัย แนะนำเพิ่มเติมว่าการบริโภคไข่ให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย กลุ่มเด็กอายุ 1 – 5 ปี เด็กวัยเรียน หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร กลุ่มวัยทำงาน และผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี สามารถบริโภคไข่ได้เฉลี่ยวันละ 1 ฟอง สำหรับเด็กทารกตั้งแต่อายุ 6 เดือน ควรเริ่มที่ไข่แดงต้มสุก 1/2 ฟอง ถึง 1 ฟอง ผสมกับข้าวบด ในครั้งแรกควรให้ปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้น ส่วนเด็กอายุ 7-12 เดือน ให้รับประทานไข่ต้มสุกวันละครึ่งหรือ 1 ฟอง สำหรับกลุ่มเด็กวัยก่อนเรียน 1 – 5 ปี เด็กวัยเรียน หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร กลุ่มวัยทำงาน และผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี สามารถบริโภคไข่ไก่ได้เฉลี่ยวันละ 1 ฟอง
สำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไม่ควรรับประทาน 3 ฟองต่อสัปดาห์ หรือรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนผู้ป่วยโรคอื่นๆ สามารถรับประทานไข่ได้วันละ 1 ฟอง หรือตามแพทย์สั่ง โดยต้องดูแลการบริโภคอาหารอย่างอื่นร่วมด้วย เลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง และที่สำคัญต้องบริโภคอาหารให้หลากหลายถูกหลักโภชนาการ
ด้าน ผศ.ดร.ศศิธร ใบผ่อง หัวหน้าศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยว่า ไข่ไก่แต่ละฟองจะให้โปรตีนประมาณ 6 กรัม (เทียบน้ำหนัก 50 กรัมต่อฟอง) ให้พลังงานเพียง 80 กิโลแคลอรี่ ซึ่งไข่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และยังมีวิตามิน แร่ธาตุ โดยเฉพาะเลซิตินซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อระบบประสาท นอกจากนี้ ไข่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน เกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่สำคัญไข่ไก่ยังมีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบสมอง ช่วยให้มีสมาธิ และป้องกันอัลไซเมอร์ได้ด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มเข้าใจว่าการรับประทานไข่มีผลต่อระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีผลการศึกษาวิจัยมากมายที่ชี้ว่า การรับประทานไข่มีผลต่อระดับคอเลสเตอรอลในเลือดน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผลของไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอลจะไม่ได้ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารที่มีประโยชน์อื่นๆ เช่น ฮอร์โมนเพศ วิตามินดี และน้ำดีสำหรับย่อยไขมันในอาหาร คอเลสเตอรอลแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ โคเลสเตอรอลที่ร่างกายสร้างขึ้นเองจากตับจากพลังงานส่วนเรับประทานที่ร่างกายต้องการ เช่น การรับประทานคาร์โบไฮเดรตที่มากเรับประทานไป โดยคอเลสเตอรอลส่วนนี้มีมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย อีกเพียง 25 เปอร์เซ็นต์เป็นคอเลสเตอรอลที่ได้รับจากการรับประทานอาหารโดยตรง
“การลดการรับประทานไข่ ไม่มีผลต่อระดับคอเลสเตอรอล แต่จะทำให้ขาดสารอาหารโปรตีนที่มีคุณค่า ดังนั้น คนทั่วไปที่มีสุขภาพปกติสามารถบริโภคไข่วันละ 1 ฟอง ได้อย่างมั่นใจ” ผศ.ดร.ศศิธร กล่าว
นอกจากนี้ สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute : WRI) เป็นสถาบันวิจัยระดับโลกที่ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้เผยการศึกษาว่า ไข่ไก่ เป็นแหล่งโปรตีนที่มาจากกระบวนการผลิตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำเมื่อเทียบต่อกรัมโปรตีน เนื่องจากไข่ไก่แต่ละฟองให้ปริมาณโปรตีนสูง อุดมด้วยสารอาหาร จึงแนะนำให้บริโภคไข่ไก่ นอกจากจะได้สารอาหารที่มีคุณค่า ยังมีส่วนช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย