Café Kitchen & Home

The Wood Land คาเฟ่ฟีลกู้ด บรรยากาศเขาใหญ่


อยากมานั่งคาเฟ่ที่ได้บรรยากาศฟีลกู้ดต้องที่นี่ The Wood Land ที่บรรดาคาเฟ่ฮอปปิงยกให้เป็นเขาใหญ่ในเมือง ให้อารมณ์แคมปิงฮีลใจกันเข้าไปอีก ด้วยความโดดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้ที่มองจากภายนอกแทบเดาไม่ออกเลยว่าเป็นคาเฟ่ แต่พอผ่านกำแพงอิฐเข้ามาแล้วต้องร้องว้าว!  

เรื่องราวของคาเฟ่ที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงอิฐสีเทาในชื่อ The Wood Land แห่งนี้เริ่มต้นมาจากครอบครัวของคุณพิณ-พรพิม นาคสวัสดิ์ และหุ้นส่วนที่มาเจอพื้นที่ป่ารกร้างแห่งนี้ จากนั้นจึงพัฒนาปรับภูมิทัศน์สำหรับเป็นคาเฟ่โดยยังคงพื้นที่สีเขียวอย่างต้นไม้ใหญ่ต่างๆ เอาไว้ ในช่วงแรกทำเป็นคาเฟ่เอาต์ดอร์ โอเพนแอร์ทั้งหมด ปัจจุบันมีการพัฒนาพื้นที่บางส่วนต่อเติมให้มีพื้นที่นั่งในส่วนของอินดอร์ ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับการเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย    

คุณพิณ-พรพิม นาคสวัสดิ์

คุณพิณเล่าว่าก่อนหน้านี้ได้เปิดร้านกาแฟ Coffeeology ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซีเป็นที่แรก และมีร้าน Coffee 101 ตามมา “จุดเริ่มต้นคือบ้านพิณทำธุรกิจร้านกาแฟ Coffeeology ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 และยังทำอีกธุรกิจหนึ่งคือ B2B ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับกาแฟเลย โดยการทำร้านกาแฟเริ่มต้นจากน้องสาวและเพื่อนอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นเจ้าของร้านกาแฟ และอีกคนหนึ่งเป็นนักธุรกิจ พอมาเปิดร้านแรกก็เห็นช่องทางในเรื่องของกาแฟที่ไปต่อได้ จึงเปิดอีกร้านในห้างชื่อ Coffee 101 ซึ่ง Coffeeology จะออกแนวจริงจัง มีความพิถีพิถันในการดื่มกาแฟ ส่วน Coffee 101 ถือเป็นปฐมบทของกาแฟ แต่มีไอเดียที่เหมือนกันคือ คุณได้กาแฟที่ดี และดื่มได้ทุกวัน”

Into The Woods

คุณพิณเล่าว่าโปรเจ็กต์ The Wood Land เริ่มต้นจากความต้องการออกมาจากคอมฟอร์ตโซนในห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล หรืออาคารสำนักงาน เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องของดีไซน์ อาหาร ประกอบกับอยากสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม จึงมีความตั้งใจทำสถานที่ที่เป็นตัวเองออกมาให้ได้อย่างเต็มที่ ภายใต้แนวคิด “ป่าในเมือง”

ท่ามกลางความวุ่นวายบนถนนในซอยอ่อนนุช (สุขุมวิท 52) เมื่อเดินผ่านกำแพงอิฐสีเทาเข้ามาจะเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่เงียบสงบ มีพื้นที่สีเขียวที่โอบล้อมด้วยต้นไม้และความเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่สนามหญ้าที่ทอดตัวไปสู่ตัวร้าน จามจุรีต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้าน ตลอดจนต้นไม้ใหญ่อีกหลายต้นที่คอยให้ร่มเงา โดยรอบบริเวณคาเฟ่เป็นพื้นที่ให้นั่งเล่น เดินถ่ายรูปได้ทุกมุม และทุกอย่างยังใช้ไม้มาเป็นองค์ประกอบหลักในงานดีไซน์ด้วย

The Wood Land 

เมื่อเรามาใช้พื้นที่ตรงนี้ความตั้งใจคือจะไม่ตัดต้นไม้ที่มีอยู่เดิม และด้วยความที่น้องสาวพิณเป็นอินทีเรีย บวกกับคอนเซ็ปต์ที่เป็นต้นไม้และไม้ต่างๆ ที่ถูกทิ้ง ทุกอย่างจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการออกแบบดีไซน์ โดยทำเป็นกำแพงไม้ เคาน์เตอร์บาร์ไม้ขนาดใหญ่ รวมถึง Wood Cabin 2 หลังที่เป็นจุดสั่งอาหารกับเครื่องดื่ม ด้านในสุดเป็นอาคารไม้ที่เคยเป็นพื้นที่นั่งแบบโอเพนแอร์ แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงต่อเติมให้มีโซนอินดอร์นั่งชิลในห้องติดแอร์ มีกระจกล้อมรอบ มองเห็นบรรยากาศภายนอก ส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เน้นเป็นไม้กับหวายให้ตรงตามคอนเซ็ปต์

The Wood Land ตั้งต้นจากกาแฟที่ดี ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับ Coffeeology มีเครื่องดื่มที่เป็น Non-Coffee มากขึ้น และการมองเห็นในเรื่องของความร่มรื่น จึงตั้งคอนเซ็ปต์มา 3 แนวคิดคือ Comfort Food, Friendly Drink และ Sharing Moment แต่ย่อให้สั้นลงเป็น Comfort, Friendly และ Sharing Moment โดยมาคิดว่าทำอย่างไรให้ 3 คำนี้มีชีวิตขึ้นมา อย่างคำว่า Comfort คือต้องครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่อาหาร ขนม สถานที่ แต่คำว่า Comfort ที่เป็นอาหารก็ไม่ใช่ขนมอย่างเดียว ยังมองถึงการเป็น Comfort Food อีกด้วย ซึ่งพิณจะเป็นคนดูรีวิวเองทั้งหมด

เมนู Egg Benedict & Becon และ Spaghetti Bolognese
Salted Caramel Macadamia Banana Bundt Cake บันท์เค้กชิ้นกำลังดี และ Wood Land Bread ขนมปังลายไม้กินคู่กับนูเทลล่า
Hong Kong Waffle เนื้อหนึบ ความพิเศษอยู่ตรงที่ใช้แป้งโมจิ ราดด้วยเมเปิ้ลไซรัป
กาแฟซิกเนเจอร์ White Cloud ทอปด้านบนด้วยเมอแรง และเมนู Elder Flower Greentea กรีนทีรสเปรี้ยวนำสดชื่นและได้กลิ่นหอมของดอกไม้ป่า

บางคนก็จะบอกว่าที่นี่เป็นเขาใหญ่ในเมือง หรือเป็นคาเฟ่อารมณ์แคมปิง เราก็นำกลับมาคิดว่าเวลาไปงานแฟร์หรือไปแคมปิงเรานึกถึงอาหารอะไรที่เข้าใจง่าย ดังนั้นในเรื่องอาหารก็จะเปลี่ยนหน้าตาไปให้ดูเข้าใจง่าย หรืออย่าง Friendly ทั้งพนักงานและบรรยากาศ เราเป็นโมเมนต์ครีเอเตอร์ ไม่ใช่แค่กาแฟ ส่วนคำว่า Sharing Moment คือการแชร์ได้ทั้งมากับเพื่อน มาคนเดียว หรือเรื่องของ Pet Friendly ที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ ซึ่งเราไปถึงจุดถึงที่คุณสามารถนำน้องหมาน้องแมวเข้าไปในห้องแอร์ได้

โดยเรามีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ซึ่งเราเป็นมากกว่าคาเฟ่ และตัวพิณเองก็มาจาก Corporate ก่อนหน้านี้ทำงานมูลนิธิมาก่อน จึงมีความคิดว่าทำตรงนี้เป็นเรื่องของพื้นที่ อีเวนต์ เวิร์กชอป และพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ด้วย ซึ่งพิณชอบเวลาที่เห็นภาพคนเข้ามาแล้วได้มานั่งหย่อนใจ บางคนก็กลับมาอีกด้วยบรรยากาศของที่นี่ สุดท้ายก็คือ Customer Focus ที่ทุกคนมารีแลกซ์ ได้มีที่ฮีลใจ ซึ่งเราเชื่อว่าดินแดนแห่ง (ป่า) ไม้นี้จะเป็นพื้นที่ที่ดีต่อใจสำหรับทุกคนที่มาเยือน  

The Wood Land
สุขุมวิท ซอย 52 (อ่อนนุช) กรุงเทพฯ
เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์ 09.00-18.30 น. (ปิดวันอังคาร) วันเสาร์-อาทิตย์ 08.30-19.30 น.

เครื่องดื่มราคาเริ่มต้น 59 บาท
เบเกอรีราคาเริ่มต้น 60-100 บาท
ราคาอาหารเริ่มต้น 180-220 บาท
โทร. 06 1391 1754
https://www.facebook.com/thewoodlandofficial/

 


You Might Also Like...