Hey! Coffee คือหนึ่งในลิสต์กาแฟที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเมล็ดกาแฟและรสชาติ จากจุดเริ่มต้นที่เป็นร้านกาแฟเล็กๆ บนทางด่วนที่เริ่มเสิร์ฟความหอมกรุ่นมายาวนานกว่า 14 ปี ปัจจุบัน Hey! Coffee มีสาขามากถึง 19 สาขา และอีก 1 โรงคั่ว ซึ่งครั้งนี้เราจะพาทุกคนเดินสำรวจ HEY! Beanstro สาขาใหม่ล่าสุดที่โดดเด่นในเรื่องของเอกลักษณ์การออกแบบที่อิงไปกับบริบทของพื้นที่ที่แวดล้อมไปด้วย Office Building
จากโปรกอล์ฟสู่โปรคอฟฟี่
คุณก็อต-อภินัย วรรณไพโรจน์ CEO & Founder ของ Hey! Coffee เริ่มสนใจอยากทำธุรกิจควบคู่ไปกับอาชีพหลักซึ่งเป็นโปรกอล์ฟ จากคนที่ไม่ดื่มกาแฟก็เริ่มพัฒนาหาความรู้และได้รับ Certified ด้านการคั่ว เป็นคนที่ให้คะแนนกาแฟได้ เจาะลึกทางด้านนี้โดยเฉพาะเพื่อพัฒนาธุรกิจ ซึ่งต้องเล่าเรื่องได้ คั่วระดับไหน เทสต์โน้ตเป็นอย่างไร ทำให้รู้สึกเปิดโลกของกาแฟมากขึ้น เหมือนสตอรีหลังแก้วที่สามารถเล่าเรื่องราวให้กับนักดื่มกาแฟได้รู้สึกสนุกกับการดื่ม
Everyday Specialty
ร้านเราในปัจจุบันมี 2 โมเดล คือ แบบที่เราเปิดเองและแบบแฟรนไชส์ ส่วนคอนเซ็ปต์หลักๆ เน้น Everyday Specialty เป็นกาแฟที่ใส่ใจตั้งแต่การคั่วกาแฟเอง ติดต่อเกษตรกรเอง หาสารกาแฟมาเอง เป็นกลุ่ม Third Wave Specialty แล้วเราก็ไปพร้อมกับงานดีไซน์ด้วย เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบดีไซน์อยู่แล้ว และร้านเราไม่ได้มีดีไซน์ธีมเดียว แต่การออกแบบจะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามโลเคชันเพื่อทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกเบื่อ
โมเดลแรกในอาคารสำนักงาน
ตรงนี้เป็นโครงการของ S-Oasis ซึ่งเป็น Office Building มีความพรีเมียมและ Elegant ลักษณะเหมือนพาวิลเลียนอยู่ตรงกลาง ด้วยความที่เป็นอาคารสำนักงานใหม่ที่ล้อมรอบไปด้วยตึกออฟฟิศอีกหลายๆ ก้อน ทั้งซันทาวเวอร์ ทีเอ็มบี เราเลยอยากเล่นกับดีไซน์ให้ดูสนุกและน่าสนใจ เนื่องจากโครงสร้างของอาคารมีความโดดเด่น
Flagship Store ระดับพรีเมียม
เนื่องจากรูปแบบของอาคารสำนักงานถูกออกแบบให้มีความสวยทันสมัยภายใต้คอนเซ็ปต์ A New Day and Night Destination เราจึงกำหนดให้ตัวเองเป็นแฟลกชิปพรีเมียม ด้วยการเริ่มต้นจากการเซ็ตอุปกรณ์กาแฟให้เป็นพรีเมียมทั้งหมด ตั้งแต่เครื่องชง เครื่องบด แล้วเสริมด้วยเมล็ดกาแฟที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้า สามารถเลือกเมล็ดกาแฟของตัวเองได้
ส่วนเรื่องการออกแบบและงานดีไซน์ ได้บริษัทตกแต่งภายในจาก Virada Studio เข้ามาช่วยดูแลโปรเจ็กต์นี้ นำเสนอเรื่องราวการออกแบบและตกแต่งให้น่าสนใจ อย่างการนำงาน Arch ที่เป็นองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมแนวคลาสสิกเข้ามาเล่นกับงานตกแต่งภายใน เพื่อช่วยลดทอนความแข็งของตัวอาคารที่ล้อมรอบด้วยกระจก
พื้นที่ผ่อนคลายของชาวออฟฟิศ
นอกจากจะให้ความสำคัญกับเรื่องการตกแต่งภายในที่นำเส้นสายของเรขาคณิตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบแล้ว โทนสีก็เป็นอีกองค์ประกอบที่มาเติมเต็มให้คาเฟ่ดูมีเอกลักษณ์มากขึ้น เพราะเราต้องการให้พื้นที่แห่งนี้สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับคนทำงาน ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร และพนักงานออฟฟิศ ดังนั้นจะเห็นได้ว่านักออกแบบมีการผสมผสานลูกเล่นค่อนข้างหลากหลายตั้งแต่ผนัง โทนสี และเฟอร์นิเจอร์ อย่างบริเวณชั้นล่างโทนสีของผนังจะอ่อนกว่าชั้นบนที่ออกแบบให้เป็นบาร์ค็อกเทล ซึ่งมีความเซ็กซี่เล็กๆ ซ่อนอยู่ในโทนสีชมพูพิงก์นิดๆ โดยเรายังเล่นกับไลต์ติง 2 เฉดที่จะช่วยปรับเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาและอารมณ์ รวมถึงเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ที่เป็นทอปหินสังเคราะห์ก็ใส่สีให้สอดคล้องกันกับผนังโทนชมพู เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์บริเวณชั้น 2 ที่ค่อนข้างสะดุดตาซึ่งรองรับได้ถึง 12 ที่นั่ง โดยตรงกลางมีบาร์เทนเดอร์ยืนอยู่บริเวณหัวโต๊ะ เสมือนกับคอนดักเตอร์ที่คอยปรุงเครื่องดื่มในยามค่ำคืนเพื่อสร้างสีสันสนุกให้กับลูกค้า
ในขณะที่ชั้นล่างเป็นบาร์กาแฟทรงโค้งออกแบบให้สอดรับกับคอนเซ็ปต์โดยรวม ที่ทำให้ทุกๆ พื้นที่ดูกลมมน รวมถึงการออกแบบที่นั่งก็รองรับลูกค้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมุมส่วนตัว หรือมากันเป็นกลุ่มก็สามารถมีพื้นที่ของตัวเองได้
HEY! Beanstro
อาคารเอส โอเอซิส (S-OASIS) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการทุกวัน 07.00-23.00 น. (เฉพาะโซนคาเฟ่ปิด 18.00 น.)
โทร. 08 2297 9288