เมื่อ Ekkamai Macchiato ที่เคยอยู่ในย่านเอกมัยขอย้ายทำเลร้านใหม่มาอยู่ในซอยอ่อนนุช มาพร้อมกับบรรยากาศอุ่นๆ ที่ดูย้อนสมัยกลับไปในยุค 50-70 ซึ่งคุณโอ-ชุติเตชินท์ โสภณหฤษนฤดม เจ้าของร้าน ชื่นชอบแบบบ้านสไตล์มิดเซนจูรี จึงออกแบบความเป็น Ekkamai Macchiato ให้เป็นโฮมคาเฟ่ ซึ่งเป็นทั้งที่พักอาศัยและคาเฟ่ในที่เดียว
และไม่ว่าอะไรก็ตามที่เหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์หลงใหลในมวลรวมของที่นี่ ทั้งคาแรกเตอร์ของแบรนด์ รสชาติกาแฟ ขนม หรืออาหาร เราอยากชวนคุณมาฮอปที่นี่บ่อยๆ ถึงแม้จะอยู่ในซอยลึก แต่รับรองว่าถ้าได้เข้ามาแล้วอะไรต่อมิอะไรมันกลับรู้สึกทัชใจไปหมด
8 ปีที่เอกมัยสู่โฮมคาเฟ่ใหม่
Ekkamai Macchiato อยู่ตรงเอกมัย 12 มาแล้วประมาณ 8 ปี ด้วยความที่ผมอยากมีบ้านสไตล์มิดเซนจูรี แต่การจะสร้างบ้านสไตล์นี้ต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นในเมืองไม่มีพื้นที่ใหญ่ๆ แบบที่ผมอยากได้ เลยต้องตระเวนหากระทั่งมาเจอที่ผืนนี้ในซอยอ่อนนุช ผมตัดสินใจซื้อแล้วขายที่ตรงเอกมัย ซึ่งเดิมตรงนี้เป็นที่เปล่าก็เริ่มจากการถมที่ ปลูกต้นไม้ บอกโจทย์กับทางสถาปนิกว่าอยากได้บ้านสไตล์มิดเซนจูรี โดยเรามีแบบบ้านเก่าให้เขาดู ซึ่งออกแบบมาเป็นบ้านสีขาวทรงจั่ว ดีไซน์บรรยากาศภายในให้มีความโปร่ง โล่ง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
ภายนอกมิดเซนฯ ภายในร่วมสมัย
หากดูจากโครงสร้างบ้านภายนอกจะเห็นสไตล์ของมิดเซนจูรีที่ค่อนข้างชัดเจน อีกหนึ่งความชอบที่ผมพยายามใส่ลงไปในรายละเอียดของโครงสร้างคือ ทรายล้าง ก็ถูกนำมาใส่อยู่บริเวณด้านหน้า อย่างเช่น ตรงกำแพง ทางเดิน และอีกหนึ่งไอเดียที่ได้มาจากตอนเดินทางไปต่างประเทศก็คือ กำแพงหิน รู้สึกว่าสวยดีก็เลยนำหินมาสร้างเป็นเหมือนแนวรั้วด้านนอก ซึ่งผมว่ามันดูเข้ากันกับทรายล้างได้เป็นอย่างดี และทำให้ดูมีมิติที่แปลกตา
ในขณะที่ภายในพยายามดึงลูกเล่นให้เกิดความคอนทราสต์กับด้านนอก สื่อถึงบรรยากาศคาเฟ่แต่ก็ยังซ่อนความอบอุ่นที่สามารถนั่งสบายไม่ต่างจากบ้าน จึงนำเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ามาตกแต่ง ผมเลือกที่ดีไซน์และชนิดของไม้ซึ่งเป็นไม้โอ๊กที่เป็นไม้คุณภาพดี รวมถึงโทนสีก็ยังไปกันได้กับคอนเซ็ปต์โดยรวมที่เป็นมิดเซนจูรี
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่อยู่กลางร้านก็คือจะเห็นห้องๆ หนึ่งที่ถูกปิดผิวด้วยงานไม้ แล้วตรงกลางออกแบบเป็นเหมือนประตูกระจกทรงโค้งซึ่งก็คือห้องสำหรับทำเค้ก
เล่นกับหลากหลายวัสดุ
รายละเอียดการตกแต่งภายในร้านนอกจากการนำเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ามาตกแต่งเพิ่มความอบอุ่นแล้ว เรายังเล่นกับแสงธรรมชาติด้วยการออกแบบผนังให้เป็นช่องหน้าต่างกระจกบานใหญ่ นอกจากจะช่วยในเรื่องแสงสว่างแล้ว ยังเปิดมุมมองให้เห็นสวนภายนอกที่เราตั้งใจทำให้เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับผ่อนคลายสายตา ต้นไม้ที่นำมาปลูกตรงสวนผมเลือกเองโดยดูจากทรงและฟอร์มของต้นไม้ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ซื้อมาปลูกใหม่ทั้งหมด มีทั้งต้นพะยอม ต้นแม่น้ำโขง ต้นล่ำซำ และต้นมั่งมี ด้านนอกก็ยังมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งอีกนิดหน่อยบริเวณเทอร์เรซ
ส่วนผนังภายในก็มีทั้งคอนกรีตทาสี ทรายล้าง เสาปูนเปลือย รวมถึงข้อจำกัดของเพดานที่เราไม่สามารถใส่ฝ้าได้ก็เลยโชว์เป็นฝ้าเปลือยให้เห็นงานระบบไปเลย ในขณะที่บริเวณเคาน์เตอร์บาร์เลือกใช้วัสดุสเตนเลส ส่วนผนังด้านหลังออกแบบเป็นชั้นไม้ในสเกลที่เท่าๆ กันไว้วางของตกแต่งที่สามารถสลับสับเปลี่ยนได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ และให้พื้นที่ตรงนี้ดูมีเลเยอร์
เพิ่มเติมเมนูใหม่และอาหารจริงจังในมื้อเย็น
สไตล์อาหารจานเดียวคอมฟอร์ตฟู้ด คนไทยชอบกิน หรือเป็นอาหารจานเดียวที่เราชอบและนำมาพัฒนาสูตรกันเอง ส่วนสไตล์ขนมเป็นแนวญี่ปุ่นรสชาติเบาๆ สำหรับเมนูอาหารไม่แตกต่างจากที่เก่า หลักๆ ที่เหมือนเดิมก็คือ กะเพราหมูกรอบไข่ออนเซ็น กะเพราหมูไข่ข้น
เราเพิ่มเติมเมนูใหม่อย่าง ข้าวผัดอเมริกัน เข้ามา นอกนั้นก็จะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เครื่องดื่มตัวท็อปก็คือกาแฟ ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ คั่วเข้มเป็นของลาวบราซิล คั่วกลางคือไทยโคลอมเบียกัวเตมาลา รวมถึงเมล็ดกาแฟซิงเกิล
นอกจากนี้ยังมีชาผลไม้ น้ำโซดา มัตฉะ เบียร์ คราฟต์เบียร์ รองรับสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ เราพยายามดีไซน์ให้ที่นี่เป็นพื้นที่สำหรับผ่อนคลาย มีอาหาร ขนม และเครื่องดื่มให้บริการแบบครบจบในที่เดียว ซึ่งในช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 3 ทุ่ม เรามีเมนูเพิ่มเติมที่ต่างจากมื้อทั่วไป เป็นกับข้าวอาหารไทย เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนและครอบครัวที่ทุกคนสามารถมาเอนจอยในช่วงมื้อเย็นได้
Ekkamai Macchiato
ซอยอ่อนนุช 35 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการ ทุกวัน 09.00-17.00 น. และ 18.00-21.00 น. (ปิดวันอังคาร)
โทร. 06 1369 4166
