Avani Farm เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่อยากปลูกพืชผักสวนครัวและเฮิร์บปลอดสารเคมี เพื่อใช้ปรุงอาหาร ทำขนม ตลอดจนตกแต่งจานให้สวยงาม โดยเน้นความเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่การทำปุ๋ยชีวภาพจากเปลือกผักผลไม้และเศษอาหารในครัว ไปจนถึงการใช้น้ำส้มควันไม้ในการไล่แมลง นอกจากนี้ยังปลูกผักสลัดแบบไฮโดรโปนิกส์ไว้ใช้เองส่วนหนึ่ง โดยเชฟเส็ง-พงษ์พิสิษฐ์ อังศุชัยกิจ Executive Chef ของโรงแรมอวานี พัทยา รีสอร์ท บอกว่าไม่เพียงช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ แต่ยังได้วัตถุดิบที่ปลอดภัยจาก Farm to Table อีกด้วย


Avani Farm ปลูกผักที่เราใช้
เริ่มต้นจากความคิดที่ว่าอยากปลูกผัก ดอกไม้กินได้ และเฮิร์บต่างๆ ไว้ใช้ในครัวของโรงแรมเอง โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เน้นการใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ได้จากการนำเปลือกผลไม้และเศษอาหารที่เหลือจากครัวมาหมักทำเป็นน้ำ EM ซึ่งมีจุลินทรีย์ช่วยปรับสภาพดิน ป้องกันโรคและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผักที่ปลูก ใช้น้ำส้มควันไม้ไล่แมลงแทนการใช้ยาฆ่าแมลง ส่วนใหญ่จะเน้นปลูกผักสวนครัวที่เราต้องใช้ อาทิ กะเพรา มะกรูด ชะพลู โหระพา โรสแมรี่ อัญชัน พวงชมพู ทองอุไร


ความสุขที่แบ่งปันจากฟาร์มสู่ลูกค้า
ไม่เพียงเป็นแนวทางที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่มาเข้าพักและได้ร่วมกิจกรรม Cooking Class โดยเฉพาะการทำอาหารไทยที่สามารถเดินชมสวน ทำความรู้จักกับพืชผักสมุนไพรต่างๆ ว่ามีหน้าตาแบบไหน แล้วนำมาใช้ทำอะไรได้บ้าง เช่น ต้นตะไคร้หน้าตาเป็นอย่างนี้ ข่านอกจากรากจะใช้ทำอาหารได้แล้ว ถ้าลองขยี้ใบก็จะมีกลิ่นหอมด้วยเหมือนกัน สามารถนำมาห่อปลาหรือซีฟู้ดเพื่อดับคาวได้ ต้นมะกรูดที่ต่างประเทศบ้านเขาไม่มีปลูกเราก็พาไปดูว่าเป็นยังไง ใบมะกรูดที่นำมาใส่ในต้มยำกลิ่นจริงๆ ของมันคือแบบนี้นะ หรือแม้กระทั่งใบชะพลูที่ใช้ทำเมี่ยงเสิร์ฟให้ลูกค้ากินขณะนั่งรออาหารเราก็พาเขาไปดูว่าเราปลูกเอง นอกจากนี้ก็จะมีพูดคุยถึงวิธีการปลูก ต้องเริ่มต้นจากตรงไหน และบริเวณทางเดินตรงห้องอาหารจะมีแปลงโรสแมรี่ปลูกอยู่ เราจะชวนลูกค้าสัมผัสและดมกลิ่นโรสแมรี่ในตอนเช้าเพื่อสร้างความรู้สึกสดชื่น ก็ถือเป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่สามารถแบ่งปันให้กับลูกค้าได้ด้วยเช่นกัน


เรียนรู้และทดลองปลูก
การปลูกสมุนไพรบางชนิดอย่างโรสแมรี่ เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เราต้องลองผิดลองถูกหลายครั้งจึงจะปลูกได้สำเร็จ จากการปลูกประมาณ 4-5 รอบถึงได้รู้ว่าหัวใจสำคัญของการปลูกโรสแมรี่อยู่ที่ดิน เนื่องจากเวลาซื้อมาจากร้านส่วนใหญ่จะเป็นดินผสมแกลบทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย ส่งผลให้รากเน่า หลังจากนั้นเมื่อซื้อมาเราจะเปลี่ยนดินใหม่ทั้งหมดเป็นดินร่วนไม่อมน้ำผสมกับขุยมะพร้าว เพราะโรสแมรี่ต้องการแดดและน้ำ แต่ดินต้องมีการระบายน้ำที่ดีเพื่อป้องกันรากเน่า ซึ่งหลังจากปรับเปลี่ยนวิธีปลูกแล้ว ก็ทำให้สามารถปลูกโรสแมรี่ได้ประสบความสำเร็จ และไม่ต้องสั่งซื้อจากที่อื่นอีกเลย


ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ด้วยผักไฮโดรโปนิกส์
นอกจากนี้ Avani Farm ยังปลูกผักสลัดแบบไฮโดรโปนิกส์ เพื่อช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ เพราะเวลาเราสั่งผักสลัดส่วนใหญ่ต้องส่งมาจากต่างจังหวัด การปลูกเองจึงช่วยลดการขนส่งและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ แม้จะไม่ได้ปลูกในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้งานทุกวัน แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ และเรายังได้ร่วมมือกับฟาร์มใกล้เคียงในเขาชีจรรย์ ซึ่งเป็นฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่สนใจ โดยฟาร์มแห่งนี้ยังเน้นการใช้ปุ๋ยชีวภาพและวิธีการปลูกที่ปลอดภัยจากสารเคมีด้วยเช่นกัน


ส่วนการปลูกผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ของเราจะไม่ได้เร่งการเจริญเติบโต ปล่อยให้ผักโตตามธรรมชาติ ขนาดของต้นจึงไม่ใหญ่มาก โดยทั่วไปจะเก็บหลังปลูกประมาณ 40-45 วัน แต่ผักสลัดในฟาร์มเราจะเก็บช่วง 30-35 วันเพื่อให้ได้ผักที่ไม่แก่และรสชาติไม่ขมมาก การใส่ปุ๋ยของเราจะใช้ในปริมาณน้อยถ้าเทียบกับระยะเวลาการปลูก 30 กว่าวัน เราจะใส่ปุ๋ยประมาณ 2 ครั้ง
ส่วนยาฆ่าแมลงเราไม่ได้ใช้เลย ถ้าบางฤดูมีเพลี้ยลงหนักจริงๆ เราจะเก็บผักล็อตนั้นทิ้งทั้งหมดแล้วปลูกใหม่ ถ้าเป็นพวกผักสวนครัวเราสามารถใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดไล่แมลงได้ แต่ผักไฮโดรโปนิกส์ไม่สามารถใช้ได้ เพราะอาจทำให้มีกลิ่นตกค้าง วิธีเดียวคือเก็บทิ้งทั้งหมด แต่โชคดีที่ฟาร์มของโรงแรมฯ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแมลงเท่าไร