ห้องอาหารอลาตี้ แห่งโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และเชฟคาร์โล วาเลนเซียโน หัวหน้าพ่อครัวฝ่ายบริหาร นำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนรสชาติต้นตำรับขนานแท้ ที่จะพาทุกท่านเยี่ยมเยือนแคว้นต่างๆ ในประเทศอิตาลีผ่านอาหารยอดนิยมของแต่ละภูมิภาค โดยเมนู ลา ดอลเช่ วิต้า (La Dolce Vita)จะสร้างความรู้สึกราวกับว่าชีวิตทุกท่านได้ถูกเติมเต็มด้วยอาหารจานอร่อยมากมาย นำเสนอโดยทีมมากประสบการณ์ของห้องอาหารอลาตี้
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยขึ้นชื่อจากแคว้นซิซิลี ที่อยู่ใต้สุดของประเทศกับเมนู ‘Carpaccio di gamberi’ (การ์ปัชโช่กุ้งสด เสิร์ฟคู่กับยี่หรา ส้ม และเลมอนครีม) หรือเมนู ‘Polpo e patate’ (ปลาหมึกเมดิเตอร์เรเนียนนึ่ง รับประทานกับมันฝรั่ง ขึ้นฉ่ายฝรั่ง เลมอน มะกอก ผักชีฝรั่ง คลุกกับน้ำมันมะกอกคุณภาพดีจากซิซิลี) สำหรับแฟนโคลด์คัทส์ตัวยง สามารถเลือกรับประทาน ‘Affettati DOP’ ที่รวมถึงเนื้อพาร์ม่าแฮมแกลโลนี (Galloni Parma ham) บ่มนาน 20 เดือน คาโปโคโลแฮม (Capocollo) ซาลามิ (Salami) และเอ็นดูญ่า (‘Nduja) เสิร์ฟคู่กับมะกอกดอง พร้อมกับขนมปัง และอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์จากเมืองพาร์ม่า ได้แก่ ‘Parmigiano-Reggiano’ (ชีสพาร์เมซานชุบแป้งทอด รับประทานคู่กับเห็ดทรัฟเฟิล น้ำผึ้ง องุ่นสด)
เลือกรับประทานเมนูพาสต้ากับตัวเลือกเส้นพาสต้าสดสไตล์โฮมเมดมากมาย อาทิ ‘Gragnano Carbonara’ คาโบนาร่าที่ปรุงจากเส้นสดสไตล์โฮมเมด ไข่แดงออร์กานิก และแก้มหมูหมักพริกไทย หรือ ‘Risotto all’ Amarone’ (เมนูริซอตโตข้าวคาร์นาโรลีจากเมืองเวโรนา) ที่ปรุงรสชาติให้เข้มข้นด้วยไวน์อมาโรเน่ (Amarone Wine) และชีสพาร์เมซานชั้นดี บ่มนาน 30 เดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกคำจะให้ความรู้สึกประทับใจ
เริ่มต้นจานหลักด้วยเมนูที่เชฟคาร์โลภูมิใจนำเสนอ ได้แก่ ‘Costoletta alla Milanese’ เมนูขึ้นชื่อของเมืองมิลาน ปรุงจากเนื้อลูกวัวชุบเกล็ดขนมปังทอด รับประทานคู่กับสลัดใบร็อกเก็ต และเมนู ‘Rombo alla ligure’ เมนูปลาตาเดียวอบไวน์ขาว พร้อมด้วยมะเขือเทศ มะกอก ไธม์ ถั่วไพน์ และมันฝรั่ง
ปิดท้ายการเดินทางด้วยเมนูอาหารหวานหลากชนิด ที่จะมาทำให้การเดินทางของทุกท่านจบลงอย่างน่าจดจำมากกว่าการรับประทานอาหารครั้งใด เลือกรับประทาน ‘Crema Fritta’ อันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเวนิส ทำจากคัสตาร์ด รสเลมอนกับวานิลลา โรยด้วยน้ำตาลไอซิงและราสเบอร์รี่ หรือ ‘Sicilian cannoli’ จากแคว้นซิซิลี ที่ทำจากชีสริคอตต้า (Ricotta) ช็อกโกแล็ต ถั่วพิสตาชิโอ และส้มกงฟี หรือทีรามิสุ ที่ทุกท่านต่างรู้จักกันดี อันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเวเนโต ทำจากชีสมาสคาร์โปน เลดี้ฟิงเกอร์รสกาแฟ โรยด้วยผงโกโก้และดาร์กช็อกโกแล็ต ซึ่งเชฟคาร์โลและทีมห้องอาหารอลาตี้จัดทำขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นนี้ให้กับทุกท่านได้รู้สึกถึงความทรงจำดีๆ จากการเดินทางในครั้งนี้
เมนูลา ดอลเช่ วิต้า (La Dolce Vita) พร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2566 ราคาเริ่มต้นที่ 290++ บาทต่อจาน สำหรับเมนูแบบอะลาคาร์ท และราคาเริ่มต้นที่ 1,250++ บาทต่อท่าน สำหรับเซ็ตเมนูแบบสามคอร์ส เลือกรับประทานคู่กับเมนูไวน์คุณภาพดีที่คัดสรรมาเพื่อให้ได้ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดีที่สุด
ห้องอาหารอลาตี้ (ALATi) ตั้งอยู่บริเวณชั้น G บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน สำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำเวลา 12:00 ถึง 22:30 น. และมื้อเย็นวันอาทิตย์เวลา 18:00 ถึง 22:30 น. สำหรับมื้อสายวันอาทิตย์ให้บริการ ซันเดย์ บรันซ์ เวลา 12:00 ถึง 16:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร. 02 162 9000 อีเมล dining.siambangkok@kempinski.com หรือติดต่อ LINE @SiamKempinskiHotel สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://www.kempinski.com/en/siam-hotel/restaurants-bars/alati
**ราคาอาหารดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%