เมื่อประเทศกำลังก้าวสู่ยุคที่ “คุณภาพชีวิต” และ “สิ่งแวดล้อม” กลายเป็นหัวใจของการพัฒนา ภาครัฐเองก็ต้องก้าวให้ทันโลกใหม่ ล่าสุด บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ประกาศความสำเร็จของ โครงการพัฒนาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C บนถนนแจ้งวัฒนะ พร้อมนิยามบทใหม่ของ “เมืองราชการศตวรรษที่ 21” ผ่านแนวคิด “A Low-Carbon City Working with Nature” — เมืองคาร์บอนต่ำที่ทำงานร่วมกับธรรมชาติ นี่ไม่ใช่เพียงอาคารราชการหลังใหม่ แต่คือโมเดลเมืองแห่งอนาคตที่ผสานพลังงานสะอาด ธรรมชาติ และผู้คนให้ขับเคลื่อนไปพร้อมกัน

จากผู้ใช้พลังงาน… สู่ผู้ผลิตพลังงานสะอาดของภาครัฐ
หัวใจสำคัญของการออกแบบอาคาร C เริ่มต้นจากโจทย์ใหญ่ “ทำอย่างไรให้อาคารราชการผลิตพลังงานสะอาดได้ด้วยตัวเอง”
ด้วยเหตุนี้ โครงการจึงถูกออกแบบภายใต้กลยุทธ์ “จากผู้บริโภคพลังงานสู่ผู้ผลิตพลังงานสะอาด” ผ่านระบบโซลาร์เซลล์และเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานที่ทันสมัย ช่วยให้ศูนย์ราชการฯ ก้าวสู่การเป็นเมืองต้นแบบพลังงานสะอาดของภาครัฐอย่างแท้จริง

ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ ธพส. อธิบายว่า “ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ คือแบบจำลองเมืองราชการยุคใหม่ ที่พิสูจน์ว่าโครงสร้างภาครัฐสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ แต่กลับเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน” นี่จึงเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับพื้นที่ราชการให้ทันโลก และตอบโจทย์อนาคตอย่างแท้จริง

อาคารพดด้วง: สถาปัตยกรรมที่สร้างจากภูมิปัญญาไทย + พลังงานสะอาด
หนึ่งในไฮไลต์ของโครงการอาคาร C คือ “อาคารพดด้วง” แรงบันดาลใจของรูปทรงมาจาก เงินพดด้วง สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและความมั่นคง สะท้อนทั้งเศรษฐกิจและการอยู่ร่วมกับสังคมไทยได้อย่างงดงาม
อาคารพดด้วงถูกออกแบบให้เป็น สถาปัตยกรรมที่พึ่งพาตนเองด้านพลังงาน ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยควบคู่กับภูมิปัญญาไทย พร้อมแนวคิด อารยสถาปัตย์ (Universal Design) เพื่อให้ทุกกลุ่มประชาชนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ตั้งแต่พื้นที่ทำงาน พื้นที่พักผ่อน ไปจนถึงโซนกิจกรรมสร้างสรรค์


ดีไซน์อัจฉริยะด้านพลังงานและสุขภาวะ: เมื่ออาคารช่วยลดมลพิษและกักเก็บคาร์บอน
สถาปัตยกรรมของอาคารพดด้วงออกแบบให้ “ทำงานร่วมกับธรรมชาติ” ตั้งแต่เปลือกอาคารจนถึงระบบภายใน ได้แก่
1. เปลือกอาคาร Solar Shield ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ มากถึง 37%
2. ระบบทำความเย็นยุคใหม่
- Passive Cooling
- District Cooling
- ระบบพื้นเปล่งรังสี (Radiant Floor)
ช่วยลดการใช้พลังงาน และกระจายความเย็นอย่างสม่ำเสมอ

3. คุณภาพอากาศระดับสูงด้วย MERV-13 กรองฝุ่น PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ และอนุภาคขนาดเล็ก 0.3–1 ไมครอน ได้มากกว่า 85%
4. พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ผลิตไฟฟ้าได้กว่า 2,200 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/วัน
5. สวนลอยฟ้าและพื้นที่สีเขียว 19,900 ตร.ม. หลังคาเขียว + พืชพรรณรอบอาคาร ทำหน้าที่เป็นฉนวนธรรมชาติ ช่วยลดอุณหภูมิ ดูดซับคาร์บอน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น
6. วัสดุก่อสร้างกว่า 60% ผลิตในประเทศ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งและสนับสนุนเศรษฐกิจไทย ผลลัพธ์คือ สถาปัตยกรรมที่ช่วยดูดซับมลพิษ กักเก็บคาร์บอน และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้นแบบของ “อาคารอัจฉริยะด้านคาร์บอน” แห่งศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง

มากกว่าโครงสร้าง… แต่คือระบบนิเวศเมืองราชการแห่งอนาคต
อาคาร C ไม่ได้เป็นเพียงอาคารใหม่ในศูนย์ราชการฯ แต่คือ “การทดลองเมืองยุคใหม่” ที่รวมคน เทคโนโลยี เมือง และธรรมชาติให้ทำงานร่วมกันอย่างสมดุล
ดร.นาฬิกอติภัคกล่าวทิ้งท้ายว่า “นี่คือสัญลักษณ์ของเมืองราชการที่หายใจได้ และเป็นตัวอย่างพื้นที่ราชการที่ตอบโจทย์ทั้งวันนี้และอนาคต เพื่อคุณภาพชีวิตของคนรุ่นต่อไปอย่างแท้จริง” อาคาร C จึงไม่ใช่แค่หมุดหมายของสถาปัตยกรรมภาครัฐ แต่คือก้าวยาวของประเทศสู่อนาคตที่ยั่งยืน อนาคตที่เมืองและธรรมชาติยืนอยู่ข้างกันอย่างแท้จริง





