ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ปัญหาน้ำท่วมบ้าน และน้ำรอการระบายกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแทบทุกปี ทำให้การ “ออกแบบบ้านรับมือน้ำท่วม” กลายเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ว่าคุณกำลังสร้างบ้านใหม่ วางแผนรีโนเวต หรือเตรียมตัวป้องกันน้ำเข้าบ้านช่วงฤดูฝน และนี่คือแนวคิดและเทคนิคสำหรับการสร้างบ้านกันน้ำท่วม ที่ช่วยลดความเสียหายและเพิ่มความปลอดภัยให้คนในครอบครัว
1. ยกระดับพื้นบ้านและโครงสร้าง เทคนิคกันน้ำเข้าบ้านที่ได้ผลที่สุด
หนึ่งในวิธีรับมือที่ดีที่สุดคือการ ยกพื้นบ้านให้สูง 1–1.5 เมตร หรือสร้างบ้านใต้ถุนสูงในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก นอกจากช่วยป้องกันน้ำเข้าบ้านโดยตรงแล้ว ยังทำให้โครงสร้างปลอดภัยในระยะยาว หากพื้นที่จำกัด สามารถใช้ กำแพงกันน้ำ”หรือ Barrier กันน้ำรอบบ้านเพื่อชะลอน้ำได้เช่นกัน

2. เลือกวัสดุกันน้ำท่วม ลดค่าใช้จ่ายหลังน้ำลด
วัสดุที่ใช้ระหว่างการก่อสร้างมีผลอย่างมากต่อความเสียหายภายหลังน้ำท่วม ควรเลือกวัสดุที่กันชื้น ไม่บวม และไม่เกิดเชื้อรา เช่น พื้นกระเบื้อง เซรามิก หิน ผนังคอนกรีตหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ วงกบประตู-หน้าต่างแบบ UPVC (Unplasticized Polyvinyl Chloride) ซึ่งเป็นวัสดุพลาสติกชนิดแข็งที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศป้องกันความร้อนและเสียงได้ดีดูแลรักษาง่ายและปลอดภัยควรเลี่ยงการใช้ไม้และยิปซัมบริเวณชั้นล่างเพราะซ่อมยากและกักความชื้นสูง

3. ออกแบบระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัยเมื่อเกิดน้ำท่วม
ระบบไฟฟ้าเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงน้ำท่วมบ้าน เพื่อความปลอดภัยควร ยกตำแหน่งปลั๊กและสวิตช์ให้สูงกว่าระดับที่คาดว่าจะท่วม ย้ายตู้ควบคุมไฟขึ้นชั้นบน ยกแท่นปั๊มน้ำและอุปกรณ์สำคัญ สิ่งเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า
4. ออกแบบระบบระบายน้ำรอบบ้าน ให้ไหลได้เร็วไม่ท่วมขัง
การมีระบบระบายน้ำที่ดีเป็นหัวใจของการออกแบบบ้านกันน้ำท่วม เช่น ปรับความลาดเอียงพื้นให้ไหลไปสู่ท่อระบายน้ำ เพิ่มบ่อดักน้ำหรือบ่อพักก่อนเข้าสู่ระบบท่อ ติดตั้งวาล์วกันน้ำท่อย้อนกลับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดปัญหาน้ำเอ่อล้นเข้าบ้านและลดความเสียหายของสวนรอบบ้าน

5. วางผังบ้านให้พร้อมย้ายหนีน้ำได้ทัน
บ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับภัยพิบัติควรมีความยืดหยุ่น เช่น ใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวแทนบิลต์อินย้ายห้องสำคัญ เช่น ห้องนอน ครัวหลัก ไปอยู่ชั้นบน ทำ “มุมเก็บของยกสูง” สำหรับเก็บของสำคัญ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดที่ช่วยให้กู้คืนสภาพบ้านได้เร็วหลังน้ำลด
6. เตรียมอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมที่ควรมีติดบ้าน
แม้จะออกแบบดีเพียงใด ก็ยังควรมีอุปกรณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือน้ำท่วมบ้าน เช่น กระสอบทรายหรือแผ่นกันน้ำ Flood Board ปั๊มน้ำพกพา ไฟฉาย แบตสำรอง เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยเพิ่มเวลารับมือก่อนที่น้ำจะเข้าบ้านจริง

7. จัดสวนให้ช่วยซึมน้ำ ลดน้ำท่วมรอบบ้าน
การทำสวนซึมน้ำ (Rain Garden) กำลังเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยม ซึ่งเป็นการปลูกหญ้าและพืชทนน้ำทำแอ่งรับน้ำตามมุมสวน และเพิ่มต้นไม้ใหญ่เพื่อช่วยชะลอน้ำ ช่วยลดน้ำขังและทำให้พื้นที่รอบบ้านแห้งเร็วขึ้นหลังฝนหยุด
ในยุคต่อจากนี้ บ้านที่ดี ต้องมีความพร้อมรับมือน้ำท่วมทุกปี ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่เรื่องไกลตัว การ ออกแบบบ้านรับมือน้ำท่วมตั้งแต่วันนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคต ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และเพิ่มความปลอดภัยให้คนในครอบครัว ไม่ว่าคุณจะกำลังสร้างบ้านใหม่หรือรีโนเวตบ้านเดิม เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้บ้านแข็งแรง ปลอดภัย และพร้อมรับมือทุกฤดูฝนต่อไป





