คามุ คามุ (KAMU KAMU) แบรนด์เครื่องดื่มชานมและกาแฟสัญชาติไทย ประกาศรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 14 ปี ภายใต้แนวคิด “Spark Joy Everyday เสิร์ฟความฟินทุกวันได้ที่คามุ” ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย สดใสและเข้าถึงง่าย ตอกย้ำจุดแข็งในฐานะแบรนด์เครื่องดื่มคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในทุกวัน โดยมีการปรับโฉมแบรนด์และดีไซน์ร้านให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ควบคู่กับการเปิดตัวไลน์อัปเมนูใหม่ มุ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ Gen Z – Alpha พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชานม–กาแฟ ในสมรภูมิการแข่งขันที่ร้อนแรง ตั้งเป้าเพิ่มร้านสาขาครบ 300 แห่ง ภายในปี 2571

การรีแบรนด์ครั้งใหญ่นี้เกิดจากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในตลาดเครื่องดื่มที่มีการเติบโตสูง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงเปิดรับสิ่งใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัว[1] ขณะเดียวกัน ตลาดชานมในประเทศไทยยังคงมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และขยายตัวเฉลี่ย 7% ต่อปีแม้จะเป็นตลาดที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้น แต่ คามุ คามุ ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นกว่า 18% และยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและคุณภาพที่แบรนด์ยึดมั่นมาตลอด

นายทินกฤต สินทัตตโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คามุ คามุ จำกัด
นายทินกฤต สินทัตตโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คามุ คามุ จำกัด เผยว่า “ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา คามุ คามุ ยึดมั่นในการส่งมอบเครื่องดื่มคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ที่ทั้งอร่อย สดใหม่ และมีคุณภาพในทุกวัน เราให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน ผลิตสดแบบวันต่อวัน และปราศจากวัตถุกันเสียในทุกขั้นตอน เพราะเราเชื่อว่านี่คือหัวใจสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ความมุ่งมั่นเหล่านี้สะท้อนอยู่ใน DNA ของแบรนด์คามุ คามุ ที่ยึดถือคุณภาพและความใส่ใจในทุกรายละเอียด จึงสามารถยืนหยัดเติบโตได้อย่างมั่นคงท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น และครองใจผู้บริโภคได้เสมอมา”
Brand DNA ของคามุ คามุ คือการผสานความเป็นญี่ปุ่นเข้ากับความเข้าใจในผู้บริโภคไทย ประกอบด้วย 4 แก่นสำคัญ ได้แก่ Genuine — ใส่ใจคุณภาพและคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน, Passionate — สะท้อนความหลงใหลในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ลูกค้า, Lively — ถ่ายทอดความสนุกและสร้างความประทับใจผ่านการบริการ, และ Dynamic — พร้อมปรับตัวให้ทันกับเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้คือหัวใจที่หล่อหลอมให้คามุ คามุ เติบโตอย่างมั่นคง และเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่อยู่ในใจผู้บริโภคมาทุกยุค แม้จะมีผู้เล่นใหม่ๆ เข้ามาท้าทายอยู่ตลอดเวลา
จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคของคามุ คามุ พบว่า คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Early Working Adults มีแนวโน้มบริโภคเครื่องดื่มแบบ Made-to-Order มากขึ้น เฉลี่ย 3–4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อเติมพลังและสร้าง “โมเมนต์แห่งความสุขเล็ก ๆ” ระหว่างวัน พวกเขามองหาเครื่องดื่มที่มอบประสบการณ์ใหม่ ทั้งในรสชาติ กลิ่น และสัมผัส รวมถึงชื่นชอบเมนูที่มีความแปลกใหม่ ถ่ายรูปสวย และสะท้อนตัวตนของตนเอง ขณะเดียวกันเทรนด์ตลาดยังสะท้อนถึงความนิยมในเมนู ผลไม้ ชาชีส และเครื่องดื่มหลายเลเยอร์ ซึ่งให้ทั้งความสดชื่นและความหรูหราในเวลาเดียวกัน แนวคิด “Spark Joy Everyday” จึงถูกต่อยอดเป็นแรงบันดาลใจให้คามุ คามุ พัฒนาเมนูใหม่ ๆ ที่สะท้อนรสนิยมของผู้บริโภครุ่นใหม่ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แสวงหาความสุขในทุกแก้วที่ดื่ม
ภายใต้แนวคิดในการมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้ผู้บริโภค คามุ คามุ ได้พัฒนาและสร้างสรรค์เมนูใหม่กว่า 10 รายการ เพื่อตอบโจทย์ทั้งลูกค้าเดิมและกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แสวงหาความแปลกใหม่และคุณภาพในเวลาเดียวกัน อาทิ Flora Tea ชาดอกไม้อย่าง คามิเลีย และ ออสมันตัส (ชาหอมหมื่นลี้) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก, มัทฉะชาโดะ เมนูชาเขียวพรีเมียมท็อปด้วยครีมชีสหอมมัน รับเทรนด์มัทฉะฟีเวอร์ และ Chizu Brûlée หอมกลิ่นครีมชีสเบิร์นไฟ กลมกล่อมลงตัว

พร้อมเปิดตัว วาราบิโมจิ ท็อปปิ้งใหม่ล่าสุด ทำสดใหม่ทุกวัน มอบประสบการณ์การดื่มรูปแบบใหม่ด้วยสัมผัสนุ่มหนึบ เสริมทัพความหลากหลายของท็อปปิ้งในแบบฉบับของแบรนด์ โดยชื่อ “คามุ” ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “การเคี้ยว” หรือ ชาที่เคี้ยวได้ สะท้อนเอกลักษณ์ของ คามุ คามุ ที่ไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่เครื่องดื่มคุณภาพเท่านั้น แต่ยังมอบความสนุกในการเคี้ยวผ่านท็อปปิ้งที่หลากหลาย ให้ลูกค้าได้เลือกจับคู่ตามสไตล์ของตนเอง เติมเต็มทั้งรสชาติและประสบการณ์ความอร่อยในทุกแก้ว

“การรีแบรนด์เนื่องในโอกาสครบรอบ 14 ปีนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตระยะยาว โดยมุ่งยกระดับแบรนด์ให้มีความสดใหม่ ทันสมัย และใกล้ชิดผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อขยายฐานสู่กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่อย่าง Gen Z และ Gen Alpha ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงและมีอิทธิพลต่อเทรนด์การบริโภคในอนาคต ขณะเดียวกัน เรายังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าเดิมที่เติบโตมากับเรา โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายสาขาเดิมอย่างน้อย 10% ต่อปี และเดินหน้าขยายสาขาจากกว่า 190 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มเฉลี่ยปีละ 30 สาขา เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 300 แห่งภายใน 3 ปี พร้อมตั้งงบลงทุน 8 หลัก เพื่อขยายสาขาและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ คามุ คามุ เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมตอกย้ำความตั้งใจของเราในการเป็นแบรนด์เครื่องดื่มคุณภาพที่อยู่เคียงข้างผู้บริโภคในทุกวันและอยู่ในใจผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน” นายทินกฤต กล่าวเสริม
การปรับโฉมแบรนด์ คามุ คามุ ครั้งใหญ่นี้ ได้มีการเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์ 2 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์การออกแบบเรียบหรู ใช้โทนสีทองเพิ่มความพรีเมียม แต่ยังคงเอกลักษณ์ความอบอุ่นและเข้าถึงง่ายในแบบของคามุ คามุ ภายในร้านยังมีเมนูเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสาขา เช่น ไอศกรีมและเบเกอรี่ และ สาขาสินธร ทาวเวอร์ ภายใต้ชื่อ “KAMU Coffee Creation” จะเน้นการนำเสนอเมนูกาแฟสเปเชียลตี้เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าออฟฟิศ ใช้การตกแต่งโทนพรีเมียมและเมนูกาแฟที่แตกต่างจากสาขาอื่น แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ เครื่องดื่มคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ โดยมีแผนต่อยอดเพื่อผลักดันการเติบโตของไลน์กาแฟในอนาคต
นอกจากนี้ แบรนด์ยังได้เดินหน้าสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ผ่านแคมเปญการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ประเดิมด้วยอีเวนต์เปิดตัวสุดอบอุ่นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Spark Joy Everyday เสิร์ฟความฟินทุกวันได้ที่คามุ” โดยมีสองหนุ่มตัวแทนคนรุ่นใหม่ เพิร์ธ – ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร และ แซนต้า – พงศภัค อุดมโภชน์ มาร่วมสร้างสีสันในฐานะแขกคนพิเศษ พร้อมร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิดกับแฟนคลับ ณ คามุ คามุ แฟลกชิปสโตร์ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้โชคดีได้ลิ้มลองเครื่องดื่มเมนูใหม่ฝีมือสองหนุ่มแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ภายในงานยังเผยโฉมมาสคอต “น้องเลม่อน” เป็นครั้งแรก โดยปรากฏตัวร่วมกับ “น้องคามุ” ไอคอนประจำแบรนด์ เพื่อเพิ่มความสดใสและสร้างการจดจำในหมู่ผู้บริโภครุ่นใหม่ ตอกย้ำภาพลักษณ์ของ คามุ คามุ ในฐานะแบรนด์ที่อยู่ใกล้ชิดและเติบโตไปพร้อมกับคนทุกเจเนอเรชัน
พบกับสโตร์โฉมใหม่และเมนูใหม่จากคามุ คามุ ได้แล้ววันนี้ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ เมื่อซื้อ Camellia Flora Milk Tea (Size L) รับฟรีอีก 1 แก้ว ทั้งหน้าร้านกว่า 190 สาขาทั่วประเทศ และผ่านเดลิเวอรีแพลตฟอร์ม ได้แก่ GrabFood, LINE MAN และ ShopeeFood ถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
[1] เข้าใจ Generation 2025 พฤติกรรมผู้บริโภคหลากหลาย Gen ที่แบรนด์ต้องรู้จาก Wisesight Research (2025)





