ในวงการวิศวกรรมระบบรักษาความปลอดภัยของอาคารระดับประเทศในสหรัฐอเมริกา ชื่อของ วาสนา ศรีสรินทร์ คือหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง แต่สิ่งที่น่าทึ่งมากไปกว่านั้น เธอคือหญิงไทยเพียงคนเดียวในสายงานนี้ ผู้ก่อตั้งและบริหารบริษัท Finish Hardware Technology บริษัทที่ปรึกษาด้านระบบรักษาความปลอดภัยระดับสากล ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่น เธอกลายเป็นคนไทยเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถสอบผ่านใบอนุญาตการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยในสหรัฐฯ ได้สำเร็จ เป็นบทพิสูจน์ว่า “หญิงไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” ไม่ใช่แค่คำกล่าว แต่คือความจริงที่จับต้องได้
“เขาว่าผู้หญิงไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ฉันเชื่ออย่างนั้นจริงๆ เพราะถ้าเราไม่กลัว ไม่หยุดพัฒนา เราก็จะไปได้ไกลกว่าที่คิด”
ความท้าทายและโอกาสของอาชีพ
กว่า 30 ปีของการสร้างบริษัทในต่างแดน คุณวาสนาเล่าว่าอาชีพนี้ต้องการคนที่มีความรู้รอบด้าน ทั้งทางสถาปัตย์ วิศวกรรม ความเข้าใจระบบ กฎหมาย และเทคโนโลยีใหม่ๆ “ต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจ ไม่กลัว และต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา งานนี้สนุกเพราะมันไม่เคยซ้ำเดิม มันมีชาเลนจ์ใหม่ๆ เข้ามาเสมอ”

ระบบที่มองไม่เห็น แต่จำเป็นที่สุด
ระบบความปลอดภัยที่คุณวาสนาออกแบบไม่ใช่เพียงการล็อกประตูหรือกล้องวงจรปิดเท่านั้น แต่ครอบคลุมตั้งแต่ระบบตรวจสอบทางเข้าออก ห้องกักตัว ระบบหนีไฟ ระบบป้องกันการลักพาตัวในโรงพยาบาล ไปจนถึงระบบควบคุมการเข้าถึงด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย“Security เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เวลามีเหตุการณ์ขึ้นมามันคือสิ่งแรกที่ทุกคนจะนึกถึง” คุณวาสนากล่าว
ตลอดชีวิตการทำงาน เธอใช้เวลากว่า 50 ปีในวงการความปลอดภัย และกว่า 30 ปีในอเมริกาเพื่อสร้างชื่อให้กับตัวเองและชาติไทย “อเมริกาให้เครดิตกับ Minority มาก เราเป็นผู้หญิงไทย คนเอเชีย ยิ่งดีใหญ่ เพราะเขาต้องการความหลากหลาย แต่สุดท้ายงานต้องดีจริง คนถึงจะจ้างซ้ำๆ”
จากประสบการณ์ที่ทำงานในสหรัฐฯ และได้เห็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับสูง คุณวาสนาเผยว่าหนึ่งในความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ “ความตระหนักรู้ของคนในสังคม”ต่อเรื่องระบบความปลอดภัย “ในอเมริกาแม้แต่ร้านค้าเล็กๆ หรือโรงเรียนในชุมชนยังมีการวางระบบควบคุมการเข้า-ออกอย่างมีแบบแผน แต่ในไทยระบบความปลอดภัยมักถูกมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือยหรือใส่ไว้ทีหลัง ทั้งที่จริงแล้วมันควรจะเป็นพื้นฐานตั้งแต่การออกแบบอาคาร” คุณวาสนาอธิบาย
เธอมองว่าประเทศไทยยังมีช่องว่างอีกมากในการพัฒนาความเข้าใจและความสำคัญของ “ความปลอดภัยเชิงระบบ” โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกล และความเสี่ยงในสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น “เราควรคิดเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่แรก ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุร้ายก่อนแล้วจึงจะหาทางป้องกัน”

ผลงานระดับโลก
คุณวาสนาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังระบบรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานระดับใหญ่ในสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง ทั้งท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส (LAX) ท่าอากาศยานนานาชาติซานดิเอโก ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก ท่าอากาศยานนานาชาติรีโน-ทาโฮ “แต่ละสนามบินไม่เหมือนกันเลย อย่างสนามบินที่อยู่ใกล้ฮอลลีวูด คนดังมาใช้กันมาก มีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเยอะมาก ระบบความปลอดภัยก็ต้องออกแบบให้ละเอียดมาก”
นอกจากท่าอากาศยาน เธอยังรับผิดชอบโปรเจ็กต์ Land Port ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก จุดยุทธศาสตร์สำคัญทั้งในด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดระดับสูง มีทั้งประตูนิรภัยกันระเบิด (Blast Proof) และกันกระสุน (bulletproof) “Land Port ไม่ใช่แค่ประตูผ่านแดนธรรมดา แต่ภายในมีหลายตึก มีห้องขัง ห้องตรวจสุนัขดมกลิ่น ศุลกากร ประตูที่ต้องกันกระสุน กันระเบิด คือเราต้องทำให้ได้ตามมาตรฐาน GSA ทุกอย่างมีคู่มือหมด แต่ต้องเข้าใจลึกถึงแก่นถึงจะทำได้จริง”
และอีกหนึ่งผลงานสำคัญคือการออกแบบระบบความปลอดภัยให้กับโครงการระดับโลก เช่น ดิสนีย์แลนด์ทั่วโลก (ยุโรป โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง) House of Performing Arts (HOPA) ซึ่งออกแบบโดยแฟรงก์ เกห์รี ตำนานแห่งวงการสถาปนิก นอกจากนี้ยังเคยทำงานร่วมกับโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย โรงเรียน โรงแรมหรู และคาสิโนอีกมากมายในสหรัฐอเมริกา
ปั้นคนรุ่นใหม่เพื่ออนาคต
แม้จะประสบความสำเร็จระดับโลก แต่คุณวาสนายังคงมีเป้าหมายในการถ่ายทอดความรู้ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่สนใจ เธอมองว่าอาชีพนี้ไม่ได้วัดที่วุฒิการศึกษาอย่างเดียว แต่มาจากประสบการณ์ ความเข้าใจในงาน และต้องลงมือทำจริง “เด็กที่เราเทรนมา 10 กว่าปียังไม่ถึงจุดเลย เพราะเขาจับจุดไม่ได้ อาชีพนี้ต้องมีความเข้าใจจริง มองให้ออกว่าสิ่งที่มองไม่เห็นคืออะไร และต้องแก้ปัญหาก่อนที่มันจะเกิดให้ได้ อยากให้คนไทยลองเข้าสอบใบอนุญาตออกแบบระบบความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีใครสอบผ่านเลยทั้งที่เราอยากถ่ายทอดความรู้เต็มที่”
เมื่อถามว่าเหนื่อยไหมกับการทำงานที่ต้องรับผิดชอบมากขนาดนี้ เธอยิ้มและตอบว่า “เหนื่อย แต่สนุกมาก ทุกโปรเจ็กต์เหมือนได้ชาเลนจ์ตัวเองใหม่ ถ้าทำซ้ำๆ ไม่มีอะไรใหม่เราก็เบื่อเหมือนกัน ระบบความปลอดภัยมันต้องทั้งเข้มงวดและสวยงาม ทำอย่างไรให้ปลอดภัยแต่ไม่ดูน่ากลัว นี่แหละคือศิลปะของอาชีพนี้”
สุดท้ายเธอฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่า “ใครที่อยากเข้าวงการนี้ต้องรัก ต้องลุย อย่ากลัวล้ม เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ก็ต้องล้มกันบ้าง แต่ทุกครั้งที่ล้มมันคือการเรียนรู้ ไม่มีอะไรสูญเปล่า และถ้ารู้ตัวเองเร็ว มุ่งมั่นให้ถูกทาง วันหนึ่งคุณจะได้เป็น ‘เพชร’ ของวงการแน่นอน”





