ความโดดเด่นของ Ginger Farm Kitchen แห่งนี้อยู่ที่การนำบ้านโบราณอายุร้อยกว่าปีมาเป็นโครงสร้างหลัก มีความสมบูรณ์ทั้งในเรื่องของวัสดุ นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการในส่วนของสไตล์บ้านซึ่งมีลักษณะและรูปแบบคล้ายกับบ้านทางเหนือในอดีตแล้ว อีกหนึ่งประเด็นหลักที่สมบูรณ์ไม่แพ้กันก็คือ เรื่องราวของวัตถุดิบที่เสิร์ฟอาหารจากฟาร์มสู่เมือง นำเสนออาหารพื้นบ้านจากแต่ละท้องถิ่นผ่านวัตถุดิบออร์แกนิกตั้งแต่ผัก เรื่อยไปจนถึงผลไม้ ข้าว และเนื้อสัตว์
หลายๆ คนอาจจะเคยลิ้มลองรสชาติอาหารของ Ginger Farm Kitchen กันมาบ้างแล้ว ด้วยรสชาติความอร่อยและวัตถุดิบที่มีคุณภาพทำให้ได้รับรางวัลมิชลินการันตีถึง 5 ปีซ้อน ซึ่งครั้งนี้เราอยากชวนทุกคนวางมือกับอาหารเหนือรสลำขนาด แล้วพาทุกคนเดินชมบ้านโบราณที่มีอายุกว่าร้อยปีกันแบบทุกซอกทุกมุม
การเดินทางของบ้านโบราณ
ด้วยลักษณะของบ้านเป็นบ้านไม้ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ดีอยู่แล้ว เราเลยไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมาก แต่สิ่งที่ทำให้เราถูกใจในตัวบ้านหลังนี้ก็คือ รูปแบบบ้านที่เป็นสไตล์กึ่งๆ แบบทางเหนือในสมัยก่อน นี่จึงเป็นตัวเลือกที่เราเลือกบ้านหลังนี้ครับ โดยเจ้าของเดิมเป็นคนเก็บพวกโครงไม้ซึ่งเป็นบ้านของคุณยายแล้วนำมาประกอบขึ้นใหม่
จากที่เปล่าสู่ Ginger Farm Kitchen Wooden House
จริงๆ แรกเริ่มพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่เปล่า ทางเจ้าของบ้านอยากจะพัฒนาพื้นที่ทำธุรกิจ โดยที่ในละแวกนี้เป็นที่ของเขา ไม่ว่าจะเป็นร้าน Take A Break และร้าน Discovery ซึ่งเจ้าของบ้านตั้งใจว่าจะใช้พื้นที่ทำเป็นร้านกาแฟ ประจวบเหมาะกับทางเรามาเจอพื้นที่บริเวณนี้เลยมีการพูดคุยเจรจาและตกลงกันให้เราเช่าที่ผืนนี้ แล้วเราได้เข้ามาทำการตกแต่งภายในบ้านนิดหน่อย รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งร้าน เช่น บริเวณภายในร้าน ด้านล่าง ด้านบน และด้านนอก
แต่ในส่วนของโครงสร้างหลักๆ ของตัวบ้าน เราไม่ได้เข้าไปปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย เพราะด้วยโครงสร้างบ้านเดิมมีความสวยอยู่แล้ว จริงๆ โจทย์หลักของเราคือ จะทำอย่างไรให้เก็บรักษาตัวบ้านให้ได้เยอะที่สุดโดยไม่ทำร้ายโครงสร้างเดิม เพราะในส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทางเจ้าของบ้านย้ำกับเราว่าอยากเก็บโครงสร้างเดิมเอาไว้
ปลุกชีวิตบ้านหลังเก่า
เราไม่ได้ยกบ้านนี้มาทั้งหลัง เดิมทีบ้านนี้เป็นของคุณยายซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเดิมที่เคยอาศัยมาก่อน สร้างอยู่บริเวณวัดตะล่อม หลังจากคุณยายเสีย ไม่มีใครอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านรุ่นถัดไปก็ปล่อยว่างอยู่ประมาณ 30 ปี จนกระทั่งมีแพลนจะทำธุรกิจร้านกาแฟ จึงปลุกชีวิตบ้านหลังนี้ขึ้นมาใหม่
แต่การจะพาบ้านหลังนี้เดินทางออกมายังพื้นที่ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตัวบ้านตั้งอยู่บนพื้นที่ตาบอด และไม่สามารถเดินทางสัญจรตามเส้นทางบนท้องถนนแบบปกติได้ ต้องสัญจรทางน้ำเท่านั้น เพราะฉะนั้นการรื้อบ้าน และนำชิ้นไม้ทุกชิ้นขนส่งทางเรือจึงค่อนข้างลำบากพอสมควร
หลังจากนำไม้แต่ละชิ้นส่วนขนออกมาครบแล้ว ทางเจ้าของบ้านใช้เวลาประมาณ 11 เดือนในการปลูกบ้านหลังนี้ขึ้นใหม่ แล้วทำระแนงและบานเฟี้ยมเพิ่มเติมจากบ้านหลังเดิม
บ้านไม้โบราณ
เราเห็นว่าคอนเซ็ปต์มันเชื่อมโยงกัน เนื่องจากเป็นบ้านไม้แบบโบราณ ซึ่งตอนนั้นเรากำลังมองหาพื้นที่สำหรับเปิดสาขาใหม่แบบ Stand-Alone เลยคิดว่าบ้านหลังนี้น่าจะเหมาะกับแบรนด์เราในความเป็นล้านนาออริจิน เราจึงตัดสินใจเลือกบ้านหลังนี้
การจัดสรรพื้นที่ภายใน
หลักๆ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันครับ ส่วนแรกเป็นพื้นที่ครัว ส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่รับรองลูกค้าบริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน ในส่วนของพื้นไม้บริเวณโซนด้านหลังชั้นล่างจะมีความคอนทราสต์กับบริเวณที่เป็นพื้นปูนเปลือยครับ เราออกแบบโดยให้มันล้อไปกับความเป็นกลาสเฮาส์ ตัวบ้านแบบสไตล์ยุโรปซึ่งเป็นพื้นที่เปิด ใช้กระจกให้แสงเข้ามาเยอะๆ ในธีมไทยผสมกับความเป็นยุโรป
ส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่รับรองลูกค้าด้านบนชั้น 2 ของตัวบ้าน และส่วนที่ 4 เป็นพื้นที่รับรองลูกค้าบริเวณด้านนอกตัวบ้านที่สามารถรับรองลูกค้าในกลุ่ม Pet Friendly ได้ด้วย แต่ยังอยู่ในองค์ประกอบสไตล์แบบ Ginger Farm Kitchen ที่มีความเป็น Urban Farm และรัสติกผสมผสานกัน รวมถึงมีกลิ่นอายของความเป็นสแกนดิเนเวียนผสมกับล้านนา เป็นสไตล์ Eclectic ที่ตกแต่งโดยหยิบเอาความหลากหลายของสิ่งของ และรูปแบบของการตกแต่งบ้านแต่ละสไตล์มารวมเข้าด้วยกันผ่านการใช้สี รูปทรง การจัดวางองค์ประกอบ ให้เกิดมุมมองที่สวยงามและเหมาะสม โดยมุ่งเน้นการผสมผสานมากกว่าการทำให้เข้ากัน (Matching) ทำให้แตกต่างจากการตกแต่งบ้านสไตล์ Mix and Match อยู่พอสมควร
โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์แยกเป็น 2 พาร์ต ในส่วนของชั้นล่างเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เราสั่งทำขึ้นเองโดยยึดคอนเซ็ปต์ การออกแบบให้เหมือนของเก่า เป็นสไตล์โมเดิร์นรัสติกฟาร์ม คือมีกลิ่นอายของความเป็นฟาร์มแนวยุโรป ส่วนด้านบนเราอยากให้มันมีความแตกต่างกับชั้นล่างเลยเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นแนวแอนทีก หรือของเก่ามาผสมเข้าด้วยกัน มันก็จะได้องค์ประกอบที่มีความเป็นเอเชียนผสมกับความเป็นยุโรป ซึ่งเป็นความตั้งใจของเรา เพราะเราชอบความรู้สึกในรูปแบบของการคอนทราสต์ในการตกแต่ง
ให้ความสำคัญกับพื้นที่ด้านนอก
พื้นที่ด้านนอกเรามีแพลนที่จะปรับโครงสร้างเพิ่มเติมครับ คืออยากจะเพิ่มพื้นที่ในร่มแต่จะเน้นให้เป็นที่นั่งโล่งๆ เหมือนนั่งริมระเบียง ที่นั่งสบายๆ อยู่ด้านนอก เน้นเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์วัสดุแบบสานที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ ในส่วนของเรื่องสวนเรามีสวนสมุนไพรเล็กๆ อยู่บริเวณด้านข้างของร้าน แต่ในอนาคตเราอาจจะขยายพื้นที่ให้เป็นสวนสมุนไพรเยอะมากขึ้นครับ ให้ล้อไปกับคอนเซ็ปต์ From Farm to City ของเราครับ
อาหารเหนือรสลำขนาด
ที่นี่นำเสนออาหารพื้นบ้านของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งอาหารแต่ละจานถูกคัดสรรและปรุงรสตามแบบฉบับของกับข้าวของคุณตาคุณยาย โดยทำรสชาติที่เป็นต้นตำรับผ่านวัตถุดิบที่ปลอดสารและมีคุณภาพ ตั้งแต่ผัก ผลไม้ออร์แกนิค เรื่อยไปจนถึงเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงแบบปล่อย
แกงผักหวานปลาสลิด เมนูนี้มีตามฤดูกาล รสชาติของแกงผักหวานถูกปรุงมาอย่างกลมกล่อมไปกันได้ดีกับผักหวานที่สุกกำลังดี ด้านบนโรยหน้าด้วยปลาสลิดทอดกรอบสีเหลืองทอง
สปาเก็ตตี้ครีมปูอ่องเบคอน เป็นการผสมผสานอาหารระหว่างสองสัญชาติไว้ด้วยกันอย่างลงตัว รสชาติครีมมี่เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกทอดและรสสัมผัสกรุบกรอบจากเบคอนทอด ด้านบนทอปด้วยปูอ่อง
น้ำพริกข่าเห็ดนึ่ง สำหรับใครชอบกินข้าวสวยร้อนๆ จับคู่กับน้ำพริกแนะนำเมนูนี้ เป็นน้ำพริกข่ารสชาติจัดจ้านเสิร์ฟคู่กับผักสดและเห็ดนึ่ง เป็นเมนูง่ายๆ ที่กินแล้วอร่อยเหลือเชื่อ
กุ้งแม่น้ำคั่วพริกเกลือ ถึงจะเป็นร้านอาหารเหนือ แต่ก็เอาใจคนชอบซีฟู้ด ด้วยการนำกุ้งแม่น้ำตัวเท่าฝ่ามือที่มีความสดเนื้อเด้ง ผ่านการปรุงสุกที่พอดีนำไปคั่วกับพริกเกลือรสชาติกลมกล่อม
ปิดท้ายด้วยเค้กแครอท เค้กเนื้อนุ่มรสชาติหวานน้อย กินคู่กับชาหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ของทางร้านที่มีให้เลือกตั้งแต่ กาแฟ ชาเย็น เครื่องดื่มสุขภาพ น้ำผลไม้ปั่น และซอฟท์ดริ้ง
Ginger Farm Kitchen at Wooden House
พุทธมณฑลสาย 1 ถนนบางเชือกหนัง แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-22.00 น.
โทร. 09 8565 2664
