Vantage Point ร้านอาหารยุโรปฟีลกู้ด ได้ทั้งวิวเมือง สวน และทะเลสาบ

Vantage Point ร้านอาหารยุโรปฟีลกู้ด ได้ทั้งวิวเมือง สวน และทะเลสาบ

Vantage Point เป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรปที่อยู่ในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีจุดเด่นและเอกลักษณ์อยู่ตรงที่รวบรวมเอาอาหารยุโรปมาไว้ที่นี่ที่เดียว โดยคัดเมนูเด่นๆ ของแต่ละสัญชาติมานำเสนอ เป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคยแถมยังกินง่าย อย่างเช่น อาหารประเภทพาสต้า สเต็ก ทาปาส เรียกว่าเราไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปหาร้านอาหารสเปน อิตาลี อีกต่อไป แต่มาที่ Vantage Point ก็อิ่มอร่อยได้ในที่เดียว

ดึงต้นแบบมาจาก Mercato Centrale ประเทศอิตาลี

เมืองฟลอเรสซ์ ในประเทศอิตาลี มีสถานที่แห่งหนึ่งที่เรียกว่า Mercato Centrale (เมอคาโต เซนทราเล) เป็นตลาดที่รวบรวมร้านอาหารชั้นยอดของอิตาลีรวมไว้อยู่ในที่แห่งนี้ที่เดียว เรียกว่าเป็นที่แพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรป เหมาะสำหรับการนั่งกิน นั่งดื่ม และพักผ่อนในช่วงเย็นๆ ดังนั้นสไตล์การออกแบบของ Vantage Point ก็เลยได้ต้นแบบมาจากตลาดแห่งนี้ นำเอามาเป็นแนวคิดในการออกแบบและทำคอนเซ็ปต์ โดยดีไซน์เป็นลักษณะของหลังคาโครงสร้างเหล็ก มีลายเส้น และออกแบบเป็นที่โล่งอย่างที่เราเห็น

บรรยากาศฟีลกู้ดที่สุดแล้ว

ด้วยความที่ Vantage Point อยู่ในทำเลดีมากๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดกับสวนเบญกิติ สามารถมองเห็นได้ถึง 3 บรรยากาศ ตั้งแต่วิวเมือง เห็นความศิวิไลซ์ของกรุงเทพฯ ได้ชมความร่มรื่นสบายตาจากสวน และวิวทะเลสาบ ยิ่งในช่วงแดดร่มลมตก หรือช่วงเวลาแห่งค่ำคืนแนะนำให้นั่งโซนเอาท์ดอร์เลย เพราะเราจะได้ชมวิวแบบพาโนรามาที่ทั้งสวยและโรแมนติกมากๆ

โซน The Park

บรรยากาศการตกแต่งภายในจะแบ่งออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย โซน The Park ซึ่งได้แนวคิดมาจากสวนเบญจกิติที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ดังนั้นการตกแต่งบริเวณนี้จึงเน้นไปที่สีเขียว ดูแล้วสบายตา

โซน The Lake

โซนนี้ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของทะเลสาป ตกแต่งบริเวณนี้ให้ต่างจากโซนแรก เย็นสบาย เหมือนสายน้ำ เพิ่มกิมมิกและซ่อนความรู้สึกเหมือนเรากำลังนั่งชมพระจันทร์ตกน้ำ เห็นเงาสะท้อนอยู่บนเพดาน

โซน The Cities

โซนนี้จะอยู่ตรงกลาง ออกแบบเป็นครัวเปิด เราสามารถดูและเห็นกระบวนการทำอาหารจากเชฟได้อย่างชัดเจน เป็นการสร้างประสบการณ์อีกหนึ่งรูปแบบในระหว่างที่เรากำลังรออาหารได้อย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว

โดดเด่นด้วยวัตถุดิบและการแต่งจานเทียบเท่าระดับโรงแรม

อาหารแต่ละจานที่พนักงานยกมาเสิร์ฟทำให้เรารู้สึกตาวาว และสร้างความเซอร์ไพรส์มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูขนมหวานที่มองแป๊บเดียวก็เห็นถึงความตั้งใจทำ แถมยังมีไอเดียที่สร้างสรรค์ เหมือนเราได้นั่งกินอยู่ในห้องอาหารของโรงแรมสักแห่งหนึ่งเลยทีเดียว หรือแม้แต่อาหารคาวก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน ผ่านการคิดและพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ ที่สำคัญไม่ได้ดูดีและถ่ายรูปสวย รสชาติยังอร่อยอีกต่างหาก มีให้เลือกทั้งเมนูแบบอะลาคาร์ท และบุฟเฟต์

เมนูแซลมอนเค้ก สไปซี่มาโยซอส ออกแบบหน้าตาของอาหารคาวคล้ายกับเค้กยังไงยังงั้นเลย พอชิมแล้วได้สัมผัสและกลิ่นของเนื้อแซลมอนชัดเจน กินคู่กับซอสสไปซี่มาโยรสชาติจัดจ้าน

สลัดเบเบี้เคล อาหารจานสุขภาพที่รวมพืชผักมีสีสันและวัตถุดิบที่มีประโยชน์เอาไว้เพียบ กินแล้วรู้สึกสดชื่น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราอยากแนะนำให้ลอง

ซุปมะเขือเทศ เสิร์ฟคู่กับครัวซองต์ รสชาตินัวๆ กินได้เรื่อยๆ หรือจะบิครัวซองต์มาจุ่มกับซุปมะเขือเทศก็อร่อยเข้ากัน ส่วนอีกเมนู คือ พิซซ่าผักโขม เนื้อแป้งบางกรอบ รสชาติมีความครีมมี่ ไม่เลี่ยนมาก

สเต็กปลากะพงขาว เมนูสุขภาพอีกหนึ่งจานที่รสชาติอร่อยมากๆ เนื้อปลากะพงผ่านการย่างจนหนังกรอบ เนื้อข้างในสุกกำลังดี ชุ่มฉ่ำ กินคู่กับซัลซ่าซอสที่เข้ามาช่วยเพิ่มรสชาติและตัดเลี่ยนได้ดี เสิร์ฟพร้อมมันบดและพิวเร่ฟักทอง

มาต่อกันที่เมนู รีกาโตนี ซีฟู้ด เส้นรีกาโตนีนำมาผัดกับซีฟู้ดที่ประกอบไปด้วย กุ้ง หอยแมลงภู่ หอยตลับ

ค็อกเทลกุ้ง จัดเสิร์ฟมาในถังที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง เนื้อกุ้งสด เด้ง หวาน กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ

เครื่องดื่มจิงเจอร์ เอล มีส่วนผสมของชาเขียวโออิชิ รสออริจินัล ไซรัปพีช มะนาว และน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง ส่วนอีกหนึ่งเมนูคือเครื่องดื่ม ยูโรเปียน ม็อกเทล มีส่วนผสมของชาเขียวโออิชิรสออริจินัล มะนาว และไซรัปมิ้นต์ ให้ความรู้สึกสดชื่น

พานาคอตต้า อะโวคาโด เป็นพานาคอตต้าที่อร่อยมาก เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมที่เราอยากให้ทุกคนได้ลอง เนื้อเนียนนุ่ม ได้กลิ่นอะโวคาโดจางๆ จานนี้เป็นเมนูของหวานที่ได้หลายสัมผัส ทั้งความนุ่มและความกรุบกรอบจากครัมเบิ้ล และผลไม้

นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมหวานอีกหนึ่งตัวนั่นก็คือ แอปเปิ้ล มูส ครัมเบิ้ล สร้างสรรค์ออกมาได้สวยและชวนให้ถ่ายรูปมากๆ ด้านในเป็นไส้ถั่วแดงบด ตัดกับตัวแอปเปิ้ลด้านนอกที่เคลือบผิวด้วยเจลาตินมีความกรุบเด้ง

มีให้เลือกทั้งอะลาคาร์ทและบุฟเฟต์

เมนูอะลาคาร์ท เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 – 21.00 น.

แวนทิจ บุฟเฟต์ 998++
วันจันทร์ – ศุกร์ รอบเวลา 17.00 น. – 20.00 น.
วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ จำนวน 2 รอบเวลา ได้แก่ รอบเวลา 11.00 – 14.00 น. และรอบเวลา 17.00 – 20.00 น.

Vantage Point ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โทร. 06 3226 8798
facebook: https://www.facebook.com/VantagePointRestaurante
IG: Vantage Point Restaurant