ด้วยคอนเซ็ปต์ที่อยากให้ทุกวันเหมือนเป็นวันพักผ่อน บวกกับคุณแจน-ปาริชาต บุญเต็ม ชอบไปเที่ยวทะเลไปพักตามรีสอร์ตต่างๆ จึงอยากแต่งบ้านให้มีบรรยากาศแบบนั้นบ้าง โดยผสมผสานระหว่างสไตล์ทรอปิคอลและโบฮีเมียนเข้าไว้ด้วยกัน มู้ดแอนด์โทนของบ้านจะให้ความรู้สึกอบอุ่นๆ มีความเป็นธรรมชาติจากโทนสีที่เลือกใช้อย่างขาว เขียว น้ำตาล มองแล้วสบายตาอยู่แล้วสบายใจ อย่างที่คุณแจนบอกกับเราว่า “ถึงจะทำงานอยู่บ้านทุกวันก็ไม่เบื่อเลย”
ผสมผสานความเป็นทรอิคอลและโบฮีเมียนไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
“บ้านเดิมเราอยู่แถวเทพารักษ์ พออยากขยับขยายจึงเลือกโครงการที่ไม่ไกลจากละแวกเดิมมากนัก อยู่ใกล้กับเมกาบางนา และสามารถเดินทางออกนอกเมืองได้สะดวก ซึ่งทำเลของบ้านหลังนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 168 ตารางเมตร อาจจะไม่ใหญ่มากแต่กำลังพอดีกับสมาชิกที่อยู่กัน 3 คน มีเราคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็น้องหมาอีก 1 ตัว ชื่อชูครีม” คุณแจนเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของบ้านหลังนี้อย่างเป็นกันเอง
คุณแจน-ปาริชาต บุญเต็ม
หลังจากที่พูดคุยกันได้เล็กน้อยคุณแจนก็พาเรา Home Tour พร้อมทั้งเล่าถึงไอเดียแต่งบ้านในส่วนต่างๆ “เราคิดคอนเซ็ปต์เองทั้งหมด สไตล์ที่อยากได้จะเป็นทรอปิคอลกับโบฮีเมียนผสมผสานกัน ให้ความรู้สึกแบบบ้านในเขตป่าร้อนชื้น ดูไอเดียจากใน Pinterest แล้วให้ทางอินทีเรียช่วยออกแบบให้ ความยากคืออินทีเรียเขาอยู่ไกล เรากับพ่อต้องวัดขนาดพื้นที่แต่ละห้องและถ่ายภาพส่งไปให้ จากนั้นทางอินทีเรียจะทำแบบ 3D ส่งกลับมา ซึ่งโชคดีที่เราได้ช่างที่ทำบ้านตัวอย่างของโครงการมาบิลต์อินให้ทั้งหลัง เขาค่อนข้างมีฝีมือเราก็นำแบบที่ได้จากอินทีเรียให้เขาดู อาจจะมีปรับแบบหน้างานบ้างเพื่อให้ลงตัวกับพื้นที่”
มิกซ์แอนด์แมตช์เก้าอี้งานหวายเข้ากับชุดครัว
นอกจากคอนเซ็ปต์และสไตล์แล้วสิ่งที่คุณแจนให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือพื้นที่จัดเก็บต้องเพียงพอ “จริงๆ เราเพิ่งมารู้ตัวตอนทำบ้านหลังนี้ว่าเป็นคนเจ้าระเบียบ (หัวเราะ) ชอบให้บ้านดูเรียบร้อย
จะบอกอินทีเรียเลยว่าต้องการอะไร บิลต์อินส่วนไหนบ้าง เริ่มตั้งแต่หน้าบ้านออกแบบให้มีตู้เก็บรองเท้า เพราะปัญหาที่ทุกบ้านต้องเจอคือไม่มีที่เก็บรองเท้า ถัดมาด้านข้างตอนแรกจะเป็นสเปซโล่งๆ เราทำเป็นห้องทำงานไว้เตรียมของ แพ็กของส่งลูกค้า เราทำธุรกิจส่วนตัวขายแผ่นน้ำหอมปรับอากาศทางออนไลน์ (FB : MocherubBrand) ทำงานอยู่บ้านเป็นหลัก ถ้าไม่กั้นห้องเป็นสัดส่วนจะทำให้บ้านรก เพราะของเราเยอะมากจริงๆ”
จัดของในครัวไว้อย่างเป็นระเบียบ
เมื่อเดินมาถึงส่วนลิฟวิงเรา (แอบ) มองสำรวจโดยรอบ บอกเลยว่าทุกอย่างในบ้านจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบอย่างที่คุณแจนบอกไว้เลย ทั้งยังออกแบบซ่อนฟังก์ชันสำหรับจัดเก็บไว้อีกด้วย “ฟังก์ชันส่วนใหญ่จะเน้นบิลต์อิน ขอตู้เก็บของเยอะๆ พื้นที่ข้างบันไดเดิมจะกว้างกว่านี้แต่เราทำเป็นตู้เก็บของต่อออกมาไว้จัดเก็บเครื่องมือของพ่อ อุปกรณ์ทำความสะอาด ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ติดที่แขวนกระเป๋าไว้ด้วย พอมีที่เก็บก็ไม่ต้องไปวางไว้ตามมุมต่างๆ ให้รกสายตา และทางอินทีเรียออกแบบเว้นช่องไว้ให้ใส่ตู้เย็นด้วย เพราะพื้นที่ในครัวไม่พอ”
บิลต์อินตู้จัดเก็บของและเว้นช่องไว้จัดวางตู้เย็น
สำหรับส่วนนั่งเล่น มุมทานข้าว และห้องครัว ออกแบบเปิดโล่งให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน โดยคุณแจนเลือกใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นวัสดุธรรมชาติอย่างงานไม้และงานหวาย “โทนสีหรือวัสดุต่างๆ เราเป็นคนเลือกเอง ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นสีขาว เขียว น้ำตาล แต่ห้องครัวจะเลือกใช้เป็นสีดำ ส่วนนี้เราให้บริษัททำครัวโดยเฉพาะมาออกแบบและบิลต์อินให้ ที่เราไม่ได้ต่อเติมครัวหลังบ้านเพราะกลัวเจอปัญหาบ้านทรุด จริงๆ เราแอบรู้สึกว่าบ้านในโครงการต่างๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับครัวเท่าไร ออกแบบพื้นที่ไว้ให้ค่อนข้างน้อยทำให้หลายคนต้องต่อเติมเพิ่มเอง อย่างเราเป็นคนชอบทำกับข้าว ทำขนม อยากติดตั้งเครื่องล้างจานกับเตาอบด้วย แต่อินทีเรียบอกพื้นที่ไม่พอแล้วจริงๆ เลยได้ประมาณนี้
“ธีมจะเป็นประมาณ Black Classic & Loft เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้เป็นผู้หญิงหวานๆ เท่าไร และสีดำเป็นสีที่เราชอบอยู่แล้วและดูแลรักษาง่ายด้วย ฟังก์ชันนอกจากจะเน้นที่จัดเก็บแล้วก็ออกแบบให้มีเคาน์เตอร์บาร์ไว้วางของ เตรียมของ เป็นมุมนั่งเล่นง่ายๆ ตอนแรกเราซื้อเก้าอี้สตูลที่เป็นงานเหล็กมาแต่ว่าขนาดความสูงไม่ได้เลยมาลงตัวที่เก้าอี้หวาย”
เลือกใช้เตียงแบบ Canopy Bed
ห้องนอนออกแบบให้มี Walk-in Closet ในตัวใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
Walk-in Closet ดีไซน์หน้าบานไม้สักอัดกับงานหงาย
ถัดไปในส่วนของห้องนอนคุณแจนบอกกับเราว่าที่เห็นคือเรียบร้อยอย่างนี้ทุกวันเลย “ห้องนอนเราจะเก็บแบบนี้ทุกวัน ผ้าห่มผ้าปูที่นอนต้องพับให้เรียบร้อย ส่วนฟังก์ชันเราออกแบบให้มี Walk-in Closet ด้วย ในตู้เราจะจัดเสื้อผ้าไว้เป็นหมวดหมู่ พับแยกประเภทไว้ มีกล่องใส่ของกระจุกกระจิกช่วยให้เราหยิบใช้งานได้สะดวกขึ้น ตอนที่ทำแบบช่วงแรกเรารู้แค่เรื่องตกแต่งบ้าน ส่วนเรื่องจัดระเบียบบ้านเรามาศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมช่วงหลังๆ ส่วนใหญ่จะดูคลิปของฝรั่ง กับ Marie Kondo อย่างการพับผ้าก็พับตามเขา
เพิ่มพื้นที่จัดเก็บในห้องนอนด้วยตู้แขวน
“เรานำประสบการณ์จากบ้านเดิมมาปรับใช้ ส่วนไหนที่เราเก็บของไม่พอจะลิสต์เป็นรายการไว้เลย เช่น โต๊ะเครื่องแป้งจะออกแบบให้ใหญ่กว่าขนาดมาตรฐานทั่วไป มีช่องใส่ของและลิ้นชักจัดเก็บเพียงพอจะได้ไม่ต้องวางเครื่องสำอางไว้บนโต๊ะให้ดูไม่เรียบร้อย พอเราจัดระเบียบไว้ตั้งแต่แรกบ้านก็จะเป็นระเบียบอย่างนี้ตลอดเวลา จะรกไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
จัดเก็บของในลิ้นชักไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ส่วนไอเดียการตกแต่งคุณแจนอธิบายเพิ่มเติมให้เราฟังว่า “ตู้เสื้อผ้ากับตู้แขวนในห้องนอนหน้าบานเราเลือกใช้เป็นไม้สักอัดกับงานหวายจริงดูอบอุ่นๆ แต่อีกด้านหนึ่งของตู้เสื้อผ้าเราเลือกใช้เป็นกระจกเต็มบาน เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกเลยตอนให้อินทีเรียออกแบบจะได้สะดวกเวลาแต่งตัว สำหรับห้องนอนก็ไม่มีอะไรมาก เน้นความเรียบง่าย มีตู้แขวนไว้เก็บของที่ไม่ค่อยใช้งาน ส่วนเตียงเราสั่งร้านที่เชียงใหม่ทำให้ ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเตียงแบบนี้เรียกว่าอะไรก็ไปหาข้อมูลจนเจอ ชื่อเฉพาะคือ Canopy Bed เราหารูปที่อยากได้แล้วส่งไปให้ทางร้านดู ดีไซน์แบบไม่มีหัวเตียง ความสูงไม่ลอยจากพื้น โคมไฟด้านข้างเราไปเดินเจอที่ตลาดนัดเจเจ ชิ้นละ 150 บาท แล้วซื้อสายจากอิเกียมาให้ช่างช่วยติดโดยบอกว่าอยากได้ระดับประมาณนี้นะ
ออกแบบให้มีตู้จัดเก็บรองเท้าดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
“หลังจากทำบ้านเสร็จภาพรวมก็ออกมาอย่างที่ตั้งใจไว้ ย้อนกลับไปช่วงเริ่มทำบ้านเราเองยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองชอบแนวไหนสไตล์อะไร แต่เวลาไปเที่ยวทะเลไปพักตามรีสอร์ตเราจะเห็นไอเดียการออกแบบตกแต่งตามที่ต่างๆ ก็นำมาปรับกับบ้านเราว่าอยากได้มู้ดแอนด์โทนประมาณไหน ด้วยความที่เราทำงานอยู่บ้านทุกวันไม่ค่อยได้ออกไปไหน เลยอยากให้เวลาอยู่บ้านแล้วบรรยากาศเหมือนรีสอร์ต ตื่นมาแล้วไม่รู้สึกเบื่อ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไม่ต้องไปเที่ยวก็ได้ เพราะรู้สึกว่าบ้านคือสถานที่พักผ่อนของเราแล้ว” คุณแจน กล่าวทิ้งท้าย
