Lifestyle & Cooking Place

Breadtory บ้านขนมปังกับความอร่อยที่ลงตัว


ในวันที่เหนื่อยล้าไม่มีอะไรเยียวยาเราได้ดีไปกว่าขนมและเครื่องดื่มแสนอร่อยแล้วล่ะค่ะ ครั้งนี้เราอาสาพาทุกคนเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ กันสักเล็กน้อย หมุดหมายของเราคือร้าน Breadtory คาเฟ่ในจังหวัดปทุมธานีที่บอกเลยว่าคนรักขนมปังและกาแฟไม่ควรพลาด หลังจากนัดแนะวันที่ลงตัวกับคุณอ้อและคุณแจ้เจ้าของร้านเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกันในช่วงเช้าของวันหนึ่ง เพราะคุณอ้อกระซิบบอกกับเราว่าถ้ามาช่วงเช้าแสงในร้านจะถ่ายรูปสวยนะคะ

Bread + Story บ้านหลังนี้มีเรื่องราว
คุณแจ้: ก่อนหน้านี้เราทำแบรนด์ขนมปังมีแฟรนไชส์ทั้งในและต่างประเทศ แต่ช่วงปลายปี 2019 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เราได้รับผลกระทบจนต้องทยอยปิดสาขาไปเรื่อยๆ จากนั้นพอมีเวลาได้อยู่บ้านมากขึ้นเลยคุยกับคุณอ้อว่าเราลองมาทำอะไรที่เริ่มต้นจากสิ่งที่เรามีดีไหม โดยเริ่มจากโจทย์ว่าตื่นเช้ามาเราอยากทำอะไร คุณอ้อบอกว่าเขาอยากทำขนมปังมากที่สุด คือต้องบอกก่อนว่าเราสองคนชอบทานขนมปังกันอยู่แล้ว ทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ แต่ว่าบางครั้งเราจะหาซื้อขนมปังในแบบที่อยากทานไม่ได้ เลยเริ่มต้นจากทำขนมปังที่เราชอบทานก่อน จนเกิดเป็นโปรเจ็กต์ Breadtory ขึ้นมา โดยใช้พื้นที่หน้าบ้านออกแบบเป็นร้านภายใต้คอนเซ็ปต์ “วะบิ-ซะบิ”             

ส่วนชื่อร้านมาจากคำว่า Bread + Story เป็นเรื่องราวของบ้านขนมปังที่เราเริ่มต้นจากความชอบ ทั้งชอบทำ ชอบทานขนมปัง ชอบดื่มกาแฟ พอรวมกันแล้วจึงกลายเป็น Breadtory เพื่อสื่อว่ากว่าจะมาเป็นร้านนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร แต่ละเมนูที่เราตั้งใจครีเอตขึ้นมานั้นเราคัดสรรวัตถุดิบอย่างไร มีที่มาจากไหน ทำ R&D ดีไซน์รสชาติและรูปแบบของขนมต่างๆ ว่าทุกอย่างในร้านเราล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวนะ

Nearly Round, Nearly Brown
คุณอ้อ: การทำขนมปังมันไม่มีอะไรที่ตายตัวหรือเพอร์เฟ็กต์เลย แต่ความไม่สมบูรณ์นั้นมันก็สวยงามในแบบของมัน เป็นความกลมที่ไม่กลม ต่อให้เราปั้นโดกลมแค่ไหนขนมปังที่ได้ก็ไม่กลมอยู่ดี หรือบางทีขนมปังที่อบก็ไม่สามารถควบคุมความเข้มความอ่อนของสีให้ได้เสมอกัน เลยกลายเป็นกลมที่ไม่กลม น้ำตาลที่ไม่น้ำตาล เป็นที่มาของสโลแกนร้านว่า Nearly Round, Nearly Brown ทั้งหมดนี้จึงกลายมาเป็นไอเดียในการออกแบบร้าน โดยเราแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนแยกกัน ดีไซน์เป็นอาคารทรงจั่วสีขาว 2 หลัง หลังใหญ่เป็นส่วนขนมปัง หลังเล็กเป็นกาแฟ เพราะเราไม่อยากให้กลิ่นของการอบขนมปังกับกลิ่นของกาแฟกลบกันเอง อยากให้คนที่มาได้สัมผัสกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้ง 2 สิ่งนี้อย่างเต็มที่

โดยอาคารหลังที่เป็นร้านกาแฟเราจะออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่าเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง ลูกค้าเข้ามาแล้วสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ แต่ภาพรวมคือเราออกแบบให้มีช่องแสงหรือหน้าต่างแบบฟรีฟอร์ม ส่วนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากฟองอากาศที่เกิดขึ้นจากการทำงานของยีสต์ ช่องแสงที่ไม่กลมก็คล้ายกับตัวเราที่ไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ 100% เป็นความไม่สมบูรณ์แบบที่สวยงาม เป็นความกลมที่ไม่กลมแต่ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะย้อนกลับไปที่ความเป็น Nearly Round, Nearly Brown และภาพรวมก็คือความสวยงามที่ไม่ต้องสมบูรณ์แบบก็ได้ (บอกเลยว่าทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในก้อนขนมปังเลยล่ะ)

Local to Global
คุณแจ้: เราเริ่มจากมองว่าสามารถนำวัตถุดิบพื้นถิ่นอะไรที่มีอยู่ในบ้านเรามาใช้ทำขนมและเครื่องดื่มได้บ้าง อย่างจังหวัดปทุมธานีมีตาลเยอะเราก็นำมาทำเป็นพายลูกตาล ใช้มะปี๊ดที่ปลูกไว้มาครีเอตเป็นเมนูเครื่องดื่ม เพราะก่อนหน้าตอนที่ทำแบรนด์แฟรนไชส์เราก็มีเมนูน้ำมะปี๊ดน้ำผึ้งโซดา เลือกใช้น้ำอ้อยออร์แกนิกจากกาญจนบุรีมาผสมผสานกับมัตฉะญี่ปุ่น ไส้คัสตาร์ดเก๊กฮวยเราเลือกใช้จากฟาร์มที่เชียงใหม่

คุณอ้อ: เราพยายามคัดสรรวัตถุดิบและนำความเป็นไทยเข้ามาผสมผสานในการครีเอตเมนูขนมกับเครื่องดื่มภายในร้าน อย่างญี่ปุ่นที่เขาส่งออกส้มยูซุและเราก็นิยมใช้กัน เราจึงพยายามนำวัตถุดิบพื้นถิ่นมาใช้โดยอาจจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หน้าร้อนก็จะมีเมนูมะม่วง เสาวรส มะยงชิด เราอยากดึงความเป็น Local to Global บ้าง ทั้งยังสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้รู้จักได้ลองชิมกันด้วย

โชกุปังและบริออช ซิกเนเจอร์ของร้าน
คุณอ้อ: ขนมปังของเราจะให้ความซับซ้อนในเรื่องของรสชาติและกลิ่น ทานคำแรกให้รสชาติหนึ่งพอเคี้ยวๆ ไปจะได้อีกรสชาติหนึ่ง คือเราอยากให้คนที่มาทานขนมร้านเราได้ประสบการณ์ที่ต่างออกไปในเรื่องมิติของรสชาติ โดยเราจะอบใหม่ทุกวัน ถ้าเข้ามาในร้านจะมองเห็นห้องอบขนมปังที่เราตั้งใจออกแบบให้มีหน้าต่างในส่วนนี้ด้วย เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นๆ โฮมเมดๆ

บริออช รสชาติต่างๆ ที่คุณอ้อนำมาดีไซน์ให้ถูกจริตคนไทย โดยใส่ไส้ต่างๆ เพื่อเพิ่มมิติให้กับการทานบริออชมากขึ้น

เราดีไซน์ขนมปังบริออชโดยผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและเทคนิคแบบฝรั่งเศส แต่ถ้าจะเสิร์ฟแบบเพลนๆ คิดว่าคงไม่ถูกจริตคนไทย จึงเพิ่มความจูซี่ด้วยการใส่ไส้ตรงกลางเป็นนามะช็อกโกแลต นามะมัตฉะ เวลาอุ่นร้อนจะเยิ้มๆ หอมนมหอมเนยของเนื้อขนมปัง นอกจากนี้ก็จะมีไส้คัสตาร์ดเก๊กฮวย แยมราสป์เบอร์รีโฮมเมดที่เราทำเองสำหรับคนที่ชอบรสเปรี้ยวๆ หวานๆ ทานแล้วไม่เลี่ยน

ส่วนจุดเด่นของโชกุปังของเราคือความนุ่มและแน่น ซึ่ง Set 4 Season จะค่อนข้างขายดีและเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน จะประกอบไปด้วยโชกุปังน้ำผึ้ง ช็อกโกแลต มัตฉะ และสตรอว์เบอร์รี เนื้อในจะมีไส้ของแต่ละรส เสิร์ฟคู่กับแยม Of the Day 4 รสชาติ โดยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามวัตถุดิบที่ได้มาในแต่ละวันแต่ละช่วง และในอนาคตเรามีแพลนว่าจะนำข้าวจากจังหวัดบ้านเกิดของทั้ง 2 คนมาทำเป็น “ยีสต์ข้าว 2 หอม” คือข้าวหอมมะลิขึ้นชื่อจากจังหวัดปทุมธานีและสุรินทร์ นอกจากเป็นการนำวัตถุดิบของบ้านเกิดตัวเองมาใช้แล้ว คิดว่าน่าจะสร้างความซับซ้อนในเรื่องรสชาติให้กับขนมปังของเราด้วย

Set 4 Season โชกุปังซิกเนเจอร์และขายดีที่สุดในร้าน

บอกเลยว่าสิ่งนี้ไม่ควรพลาด ซื้อกลับมาไม่ผิดหวังแน่นอน

Love at First Sight

นอกจากเมนูขนมปังต่างๆ แล้ว บอกเลยว่าเมนูเครื่องดื่มก็ดีงามไม่แพ้กัน เรียกว่าคุณแจ้และคุณอ้อครีเอตทุกอย่างมาได้อย่างลงตัวมากจริงๆ สำหรับกาแฟของทางร้านจะมีให้เลือกทั้งคั่วกลางและคั่วเข้ม ใครมาแล้วขอแนะนำให้สั่ง Love at First Sight กาแฟ Cold Brew ที่ผสมผสานกับน้ำผลไม้สูตรลับของทางร้าน สดชื่น กลมกล่อม และดื่มง่าย ส่วนที่มาของชื่อเมนูนี้คุณอ้อบอกว่าตั้งตามชื่อต้นรักแรกพบที่มีอยู่ในสวนของร้าน และอยากให้ทุกคนที่ได้ชิมตกหลุมรักเมนู Love at First Sight จนต้องกลับมาอีกยังไงล่ะ (เราโดนตกแล้ว 1)

พิกัด
ซ.วัดเสด็จ ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
โทร. 08 8991 9669
Facebook/ Breadtorycafe


You Might Also Like...