มาเพิ่มพลังบวกต้อนรับปีใหม่ด้วยกิจกรรมปลูกผักอยู่บ้านที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย แถมยังชื่นใจเมื่อได้เก็บผลิตผลมารับประทาน โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่เรายังต้องดูแลตนเองเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งนอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว การมีกิจกรรมที่ดีต่อจิตใจ รวมไปถึงการบริโภคพืชผักที่สดสะอาดปลอดภัยเพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ขอแนะนำผักใบเขียว 6 ชนิด ที่ปลูกเองได้ไม่ยาก ปลูกได้ตลอดทั้งปี ทั้งยังใช้พื้นที่น้อย เพียงแค่มีพื้นที่ข้างบ้านริมรั้ว หรือแม้แต่ระเบียงของคอนโดหรืออะพาร์ตเมนต์ก็สามารถปลูกผักรับประทานเองได้แล้ว ซึ่งผักใบทั้ง 6 ชนิด ได้แก่ ผักบุ้งจีน เขียวกวางตุ้ง คะน้ายอด ถั่วฝักยาว ผักชี และคื่นฉ่าย ที่ล้วนอุดมด้วยสารคลอโรฟิลด์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านการเกิดมะเร็ง ที่สำคัญคือปลูกง่ายและมีอายุเก็บเกี่ยวไว เพียง 1-2 เดือนก็สามารถเก็บนำมารับประทานได้แล้ว
เริ่มกันที่กลุ่มผักใบเขียวเก็บเกี่ยวไวที่ใช้เวลาปลูกเพียง 30-45 วัน ก็เก็บมาครีเอทเมนูง่ายๆ ได้ไม่ยุ่งยาก อร่อยแบบได้รับประโยชน์เต็มๆ ได้แก่
1. ผักบุ้งจีน เป็นผักที่ปลูกง่ายเพียง 25-30 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว โดยผักบุ้งจีน สายพันธุ์เรียวไผ่ จะมีลักษณะต้นแข็งแรง เติบโตดี ใบเรียวเล็กสวย สามารถปลูกได้ตลอดปี
2. เขียวกวางตุ้ง หรือผักกาดกวางตุ้ง สายพันธุ์ลูกผสมคุณภาพอย่างเขียวกวางตุ้ง ปทุมรัตน์ เป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวไวเพียง 30-35 วัน
3. คะน้ายอดต้นใหญ่ อย่างคะน้ายอดสายพันธุ์เจ้าคุณทิพย์ เป็นพืชที่ต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดี และต้องการแสงแดดที่เพียงพอ โดยมีระยะการเก็บเกี่ยว 45-50 วัน
4. ถั่วฝักยาวเนื้อแน่น สายพันธุ์สุดสาคร เป็นสายพันธุ์คัดพิเศษ ติดฝักดก ถั่วเนื้อแน่น ลดปัญหาหางหนูและฝักแคที่จะทำให้ปลายฝักลีบ ม้วนงอ และฝ่อ นอกจากนี้ ยังปรับตัวได้ดีในทุกพื้นที่ ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 55 วัน
ต่อกันด้วยกลุ่มผักใบที่อยู่ในทุกๆ จานโปรดไม่ว่าจะเป็น ต้ม ยำ ผัด แกง ได้แก่
5. ผักชี สายพันธุ์ยางโทน ยอดฮิตในทุกเมนูอาหาร ใช้ได้ทั้งรากและใบ รากยาวใหญ่ ใบใหญ่สีเขียวสด มีกลิ่นหอม ปลูกง่าย โตไว เพียง 40-45 วัน สำหรับการปลูกผักชีอาจจะแตกต่างจากพืชอื่นตรงที่ก่อนลงปลูกต้องนำเมล็ดผักชีมาบดให้เป็นสองซีกแล้วนำไปแช่น้ำก่อนนำไปผึ่งลม ซึ่งการบดเมล็ดผักชีจะทำให้ต้นผักชีเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น
6. คื่นฉ่าย สายพันธุ์ซุปเปอร์โพธิ์ทอง อีกหนึ่งผักยอดนิยมที่ใช้ได้ทั้งก้านและใบ คื่นฉ่ายต้นตรงใหญ่ โตเร็วแข็งแรง ทนทานต่อโรค เก็บเกี่ยวได้ภายใน 50-60 วัน
ซึ่งผักใบดังกล่าวล้วนมีเคล็ดลับง่ายๆ ในการปลูก ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ มือสมัครเล่น ก็สามารถปลูกได้ผลิตผลดีอย่างแน่นอน เช่น
· การเพาะกล้าในถาดเพาะก่อนการนำลงแปลง วิธีนี้จะช่วยให้เราดูแลต้นกล้าไม่ให้โดนฝนหรือแดดมากจนเกินไป ต้นกล้าจะสวยงามไม่ขึ้นแน่นและเบียดกัน ซึ่งทำให้ต้นกล้าเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อต้นกล้างอกเราสามารถคัดเลือกเฉพาะต้นกล้าที่แข็งแรงลงกระถางหรือลงแปลง เพื่อลดอัตราการตายของพืชได้
· วัสดุเพาะกล้าอย่าง ‘พีทมอส’ เป็นวัสดุเพาะกล้าที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากสำหรับการเพาะกล้า ซึ่งพีทมอสคืออินทรียวัตถุจากธรรมชาติ เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์และต้นมอสที่มีอายุนานกว่า 1,000 ปี ทำให้พีทมอสมีสารอาหารที่ดีและปราศจากเชื้อราซึ่งเป็นตัวหยุดยั้งการเจริญเติบโตของต้นกล้า โดยเราจะใช้พีทมอสในการเพาะกล้าแทนดินเพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตแข็งแรง
· สำหรับการรดน้ำ เนื่องจากพืชผักเหล่านี้ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้รดน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ให้ดินพอชุ่มโดยสังเกตได้จากหน้าดินที่เริ่มชุ่มน้ำ
· พืชผักควรได้รับแสงแดดในช่วงเช้าอย่างเพียงพอ เพื่อให้พืชได้สังเคราะห์แสงและเจริญเติบโตแข็งแรง
การปลูกผักให้ได้ผลิตผลที่สวยงามมีคุณภาพ รสชาติอร่อย ควรบำรุงด้วยการใส่ปุ๋ยสำหรับผักใบ สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ในส่วนของการป้องกันแมลง สามารถฉีดพ่นน้ำที่ใบ หรือใช้สารชีวภาพอย่าง สะเดา น้ำส้มควันไม้ หรือ ยาฉุน ซึ่งเป็นการไล่แมลงแบบปลอดภัยและทำให้ผักปลอดสารพิษ