สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เปิดตัวเครื่องดื่ม 2 รสชาติใหม่ที่ได้แรงบัลดาลใจมาจากชู ครีม ขนมสุดคลาสสิคจากฝรั่งเศส พร้อมส่งตรงถึงบ้าน กับช็อกโกแลต ชู ครีม แฟรบปูชิโน่ (Chocolate Choux Cream Frappuccino®)เครื่องดื่มปั่นรสวานิลลาและคัสตาร์ดเนียนนุ่ม ท็อปด้วยซอสช็อกโกแลตเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมวิปครีมรสรสวานิลลาคัสตาร์ดพิเศษ และโรยด้วยเกรแฮมแครกเกอร์กรอบ เครื่องดื่มสุดพิเศษนี้ยังมีให้เลือกในรส
สตรอเบอร์รี่ ให้ลูกค้าได้สดชื่นไปกับ สตรอเบอร์รี่ ชู ครีม แฟรบปูชิโน่ (Strawberry Choux Cream Frappuccino®) เครื่องดื่มสูตรครีมปั่นผสมวานิลลาและซอสตาร์ด ที่มาพร้อมซอสตรอเบอร์รี่หอมหวาน ท็อปด้วยวิปครีมวานิลลาคัสตาร์ดและเกรแฮมแครกเกอร์เช่นกัน โดยนอกจากสูตรปั่นแล้ว เมนูเครื่องดื่มชู ครีมยังมีให้เลือกทั้งแบบร้อนและเย็น ในรูปแบบของชู ครีม ลาเต้ โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ถึง 26 กรกฎาคมนี้ ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ
ซัมเมอร์นี้ สตาร์บัคส์พร้อมส่งมอบเมนูอาหารในธีม “Lunch” อิ่มอร่อยทุกมื้อกลางวันกับเมนูแซนด์วิชและขนมอบ ได้แก่ อาทิ ครัวซองท์ปารีสแฮมและบรีชีส (Parisian Ham Brie Croissant)แป้งครัวซองท์เนยสดนำเข้า สอดไส้ด้วยปารีสแฮมสไลด์และบรีชีสเข้มข้น เพิ่มรสชาติด้วยมัสตาร์ดและพาร์เมซานชีสด้านบน แซนด์วิชแฮมผักโขมและชีส 4 ชนิด (Ham Spinach 4 Cheeses) ขนมปังธัญพืชสอดไส้ปารีสแฮมและผักโขมผัดหอม และชีสเอ็มเมนทอล อีดัม เกาด้า และเชดดาร์ คีชลอเรน (Quiche Lorraine) พายสไตล์ฝรั่งเศส สอดไส้เบคอนที่ผัดกับชีสกูร์เยร์ ไข่ ครีม และหัวหอมใหญ่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเค้ก สตาร์บัคส์ขอแนะนำช็อกโกแลต พุดดิ้ง เค้ก (Chocolate Pudding Cake) ที่มอบความอร่อยอย่างลงตัวกับเนื้อเค้กช็อกโกแลต ที่ท็อปด้วยพุดดิ้งช็อกโกแลตและครีมมาสคาโปน
ลูกค้าทุกท่านสามารถรื่นรมย์กับเครื่องดื่มและขนมจากสตาร์บัคส์ได้ที่ร้าน หรือในรูปแบบของการซื้อกลับบ้าน และสะดวกยิ่งกว่ากับการสั่งผ่านบริการ Mobile Order & Pick up บนแอปฯ Starbucks Thailand ที่ให้ลูกค้าสามารถสั่งล่วงหน้าและเข้ามารับที่ร้านแบบไม่ต้องรอคิว หรือเลือกซื้อผ่านบริการไดร์ฟทรูว์ และเดลิเวอรี่ทาง Grab Foodpanda และ LINE MAN*
สตาร์บัคส์มุ่งมั่นส่งมอบกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากทั่วโลก เพื่อประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ดีที่สุดของลูกค้า เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี สตาร์บัคส์ขอแนะนำ สตาร์บัคส์ ไซเรนส์ เบลนด์ (Starbucks Siren’s Blend) เมล็ดกาแฟที่ผสมผสานเมล็ดกาแฟจากแอฟริกาและละตินอเมริกาเข้าด้วยกัน ให้กลิ่นหอมของดอกไม้และรสชาติของโกโก้ ส่วนการตั้งชื่อตามนางเงือกไซเรน ที่เป็นสัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์นั้น ถือเป็นการยกย่องกลุ่มผู้หญิงที่มีส่วนร่วมในการรังสรรกาแฟชนิดนี้ในทุกขั้นตอน
และในโอกาสครบรอบ 50 ปี สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นดริ๊งค์แวร์ “Bean to Cup” ที่สื่อถึงการรังสรรกาแฟทุกแก้วอย่างพิถีพิถันของสตาร์บัคส์ ตั้งแต่การเลือกสรรเมล็ดกาแฟ จนถึงการชง และส่งมอบถึงมือลูกค้า คอลเลคชั่นนี้มาในโทนสีชมพู แดง และครีม ในลวดลายของเมล็ดกาแฟ ต้นกาแฟ และผลเชอร์รี่ มีให้เลือกทั้งแก้วมัค แก้วที่มาพร้อมฝาปิด และพิเศษด้วยทัมเบลอร์ที่มีส่วนผสมของกากกาแฟ โดยคอลเลคชั่นนี้เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป