“ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญของการทำงาน พอป้อได้ลงมือทำจริงๆ แล้ว การทำอาหารไม่ได้มีแค่หนึ่งแต่มันยังมีสอง สาม สี่ให้เราได้เรียนรู้ คุณแม่จะบอกเสมอว่าการปรุงรสชาติให้อร่อยต้องอยู่ที่เวลา จังหวะจะโคน เหมือนคนร้องเพลงเขาก็จะมีจังหวะในการร้อง อาหารก็เช่นกัน ถ้าเราทำอาหารแล้วสักแต่ใส่เกลือ พริกไทย ต้องเป๊ะเท่านั้นเท่านี้ มันไม่อร่อยอย่างที่เราต้องการ แต่ถ้าทำมาจากใจเมื่อไหร่ มันคือเซนส์ของเราข้างในที่อยากทำจานนี้ให้ออกมาอร่อย”
จุดเริ่มต้นในการเป็นเชฟ
ป้อ-สราภา เวชภัทรสิริ เกิดจากการชอบทานอาหาร และใช้เวลาว่างร่วมกับคุณแม่ในครัวบ่อยครั้ง เธอเล่าให้ฟังว่า “คุณแม่ชอบทำอาหาร ยิ่งอาหารไทยอร่อยมาก เราได้ทานฝีมือท่านบ่อยๆ จนมาวันหนึ่งอยากเรียนรู้ ไปยืนดูและขอคุณแม่ทำบ้าง พอทำได้เลยรู้สึกว่าอยากทำให้คุณแม่ทาน ทำไปทำมาก็เริ่มครีเอทเมนูใหม่ๆ พอเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับอาหาร เราจะเป็นคนไปทำเพราะคิดว่าน่าจะทำได้ดี มีช่วงหนึ่งไปทำงานอเมริกาที่ร้าน Pecos Bill Cafe ใน Walt Disney World เมือง Orlando รัฐ Florida เป็นอาหารสไตลอเมริกันแท้ๆ ได้ไปยืนอยู่ในตำแหน่งทำอาหาร ทำสลัด ทำเสต็ก แซนด์วิช ได้ทักทายลูกค้าด้วย ซึ่งก่อนจะทำตรงนี้จะมีการทดสอบว่าเด็กคนไหนสามารถทำได้ กลายเป็นเราที่เป็นคนไทยคนเดียวทำอยู่ท่ามกลางฝรั่ง เลยรู้สึกว่าเราทำได้
เริ่มสมัครงานตามที่ต่างๆ
หลังจากนั้นกลับมาเรียนจนจบปริญญาตรี มีความคิดที่อยากไปทำงานก่อนตัดสินใจจะไปเรียนอะไรต่อ ป้อเลยไปสมัครงานที่ Earl of Sandwich เพราะก่อนหน้านี้เราเคยมีลู่ทางแล้วจึงอยากกลับไปอีกรอบ ไปเรียนรู้สกิลเพิ่มเติม ตอนนั้นนอกจากเรียนรู้สูตร วิธีปฏิบัติแล้ว อยากเรียนรู้ระบบวิธีการจัดการร้านอาหารด้วยว่าทำอย่างไร คือรอบนี้ไปเต็มรูปแบบเลย เพราะตัดสินใจว่าถ้าเรียนจบกลับมาต้องมีร้านพาสต้าเล็กๆ ให้ได้ ซึ่งรายละเอียดในการทำร้านเยอะมาก ป้อมองว่าถ้าจะเปิดร้านอาจเสี่ยงไปหน่อย อายุยังน้อย หลังจากนั้นกลับเมืองไทยแล้วมาทำงานที่ Thai airway international ในตำแหน่ง Customer Service ใส่ชุดเหมือนแอร์ฯ แต่ทำงานอยู่ในห้องรับรองดูแลผู้โดยสารระดับ First class และ Business Class เพราะเราชอบ greeting และ Service mind ด้วย ป้อก็เลยได้เรื่องการดูแลลูกค้าจากการบินไทยและได้เรียนรู้ระบบการทำงานมาแล้ว เลยมองว่า 1 ปีที่เราอยู่การบินไทยเราพอแล้ว เราก้าวต่อไปข้างหน้าอีกดีกว่า จึงตัดสินใจไปเรียนเชฟเพิ่มเติมที่นิวยอร์คอีก 1 ปี แล้วป้อก็กลับมาเปิดร้าน Tastemate เราทำเป็นป๊อปอัพสโตร์สาขาแรกอยู่ที่เกตเวย์เอกมัย ผลตอบรับดีมาก แล้วก็เริ่มทำออนไลน์ดิลิเวอรี่ที่มีลูกค้าถามหาตลอด
พร้อมแล้วกับการเป็นเจ้าของร้าน
จนมาวันนี้เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว เราเปิดร้านมา 5-6 ปีคิดว่าไม่ลองทำร้านอีกสเกลหนึ่งหรอ ซึ่งมันน่าจะเป็นอะไรที่ทำให้เราสนุกมากขึ้นนะ เลยตัดสินใจว่าเราพร้อมแล้วแหละที่จะก้าวไปอีกสเต็ปหนึ่ง คือป้อค่อยๆ ก้าวมาจากเด็กฝึกงานไปเรียนร้านเล็ก ออกบูท แล้วตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่สเกลที่ใหญ่ขึ้น ณ วันนี้เราพร้อมที่จะดูแลลูกน้องอีก 20 คนแล้ว ก็เลยมาทำ goose cafe อาหารที่ป้อทำก็อยากจะทำที่ไม่เหมือนใคร เป็นสไตล์ Asian Twist พอเปิดมาได้ 2 เดือน ผลตอบรับจากลูกค้าบอกว่าเหมือนเขาได้ทานอาหารระดับไฟน์ไดนิงในโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งนั่นเราฟินแล้ว สิ่งที่เราทำมันใช่”
แจกสูตรเมนูดังจากร้านในนิวยอร์ก
ส่วนเมนูที่เชฟป้อนำมาฝากกันในครั้งนี้เป็นเมนูจากร้านอาหารในนิวยอร์ก เธอบอกว่าร้านนี้ทำไมคนต่อคิวเยอะมาก และด้วยความอยากรู้และอยากลองจึงไปลองชิมแล้วแกะสูตรเอง “ป้อทำหลายครั้งกว่าจะออกมาเป็นรสชาตินี้ มันเหมือนง่ายแต่จริงๆ แล้วมีความซับซ้อน เราใส่วอดก้าในอาหารซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเพราะพอไฟลุก อาหารข้างในจะมีความกลมกล่อมขึ้น”
ส่วนผสมเมนู Ocean Alla Vodka
- เบคอนรมควัน 35 กรัม
- หอมใหญ่สับละเอียด 20 กรัม
- กระเทียมหั่นแว่น 2 กลีบ
- พริกแห้งหั่นละเอียด 2 เม็ด
- เนยเค็ม 10 กรัม
- วอดก้า 40 กรัม
- มะเขือเทศเข้มข้น 30 กรัม
- ครีม 115 กรัม
- ใบโหระพา 1 ช่อ
- เส้นริกาโตนี่ (ตามชอบ)
- พาเมซานชีส
วิธีทำซอส
1.ผัดเบคอนให้หอมพร้อมใส่โหระพา (ผัดสักพักแล้วเอาโหระพาออก)
2.ใส่หอม กระเทียม และเนย
3.ใส่มะเขือเทศเข้มข้นและน้ำลงไปรอเดือด
4.ใส่วอดก้า (จุดไฟเพื่อเพิ่มความกลมกล่อม)
5.ใส่ครีมและพาเมซานชีส
6.ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
วิธีผัดเส้น
1.นำเส้นริกาโตนี่ที่ต้มแล้วจากนั้นหั่นครึ่งนำลงกระทะ
2.ใส่เนยเพื่อเพิ่มความหอม
3.ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยผัดให้ได้สีทองสวย
4.นำเส้นใส่ลงซอสที่เตรียมไว้ คลุกให้เข้ากัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ