เพราะห้องครัวเสมือนเป็นหัวใจของบ้านที่ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและน่าใช้งานอยู่เสมอ เพื่อสุขลักษณะที่ดีและมีความปลอดภัยในการใช้งาน เราเลยมีวิธีทำความสะอาดครัวง่ายๆ มาฝาก กับ 14 จุดที่เราอาจจะละเลยหรือไม่ทันได้นึกถึง จะมีอะไรบ้างตามเราไปทำความสะอาดครัวให้หมดจดกันได้เลย
1. เตา หลังจากใช้งานทุกครั้งควรถอดหัวเตาและเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นหรือน้ำยาล้างจานชุบหมาดๆ เพื่อลดคราบมัน รวมไปถึงพื้นที่โดยรอบส่วนปรุงที่มักจะมีคราบเลอะกระเด็นจากการทำอาหาร เช่น หน้าเตา ผนังหลังเตา ปุ่มเปิด-ปิด เป็นต้น
2. เครื่องดูดควัน ส่วนที่มักจะเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน อย่าลืมหมั่นถอดส่วนกรองน้ำมันออกมาล้างทำความสะอาด ถ้าเกิดคราบฝังแน่นให้นำไปแช่น้ำอุ่นก่อนเพื่อให้ล้างออกได้ง่ายและลดคราบมัน ขัดด้วยแปรงและใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดส่วนอื่นๆ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
3. ซิงก์ มักจะเป็นจุดที่ถูกละเลยและมีคราบสกปรกตกค้าง หลังจากล้างจานหรือใช้งานเรียบร้อยแล้ว ควรนำเศษอาหารไปทิ้งให้หมด จากนั้นเช็ดทำความสะอาดโดยรอบอ่างด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้งแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า ถูด้วยผ้าแห้งหรือเปิดหน้าต่างไว้สักครู่เพื่อลดการเกิดความชื้น
4. ตู้และลิ้นชัก ควรจัดระเบียบภายในตู้และลิ้นชักโดยแบ่งของใช้และอุปกรณ์ไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ ที่สำคัญคืออย่าลืมเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าแห้งเพื่อลดความชื้นที่ก่อให้เกิดกลิ่นอับและเชื้อราได้
5. เคาน์เตอร์ครัว เป็นส่วนที่เราใช้งานและสัมผัสอยู่เสมอโดยเฉพาะวัตถุดิบและอาหารต่างๆ ดังนั้นควรเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำยาเฉพาะที่เหมาะสมกับวัสดุเคาน์เตอร์ครัวของเรา ถ้าไม่มีสามารถใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือน้ำยาล้างจานผสมน้ำเช็ดให้ทั่ว แล้วเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ อีกครั้ง ตามด้วยผ้าแห้ง **ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีค่ากรดสูงเพราะอาจจะทำให้เกิดคราบด่างและสร้างความเสียหายให้กับเคาน์เตอร์ครัวได้ หรือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Food Grade
6. โต๊ะทานข้าว ถึงแม้จะไม่ใช่จุดที่ใช้งานหนักมากนักแต่ก็มักจะมีคราบเลอะและคราบมันจากการทานอาหารเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหลังจากใช้งานจึงควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดและผ้าแห้ง หรือใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดที่เป็น Food Grade
7. เครื่องครัวต่างๆ เช่น หม้อ กระทะ ทัพพีหลังจากใช้งานแล้วควรทำความสะอาดทันที อย่าทิ้งไว้นานเกินไป นอกจากจะล้างคราบสกปรกออกได้ง่ายแล้ว ยังลดกลิ่นติดเครื่องครัวซึ่งอาจเป็นแหล่ง
หมักหมมของเชื้อโรค เมื่อล้างเสร็จแล้วควรเช็ดหรือตากให้แห้งก่อนจะเก็บเข้าตู้หรือลิ้นชักให้เรียบร้อย
8. เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อหุงข้าว เครื่องปั่น กระติกน้ำร้อน ควรใช้ผ้าชุบน้ำผสมน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดรอบตัวเครื่อง ในส่วนของไมโครเวฟ เครื่องปิ้งขนมปัง และเตาอบ ควรนำถาดหรือตะแกรงออกมาล้าง และใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดด้านใน แล้วเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดและผ้าแห้งอีกครั้ง
9. ตู้เย็น เพราะตู้เย็นเป็นส่วนเก็บสต๊อกวัตถุดิบในการทำอาหาร โดยเฉพาะของสดที่อาจจะทำให้เกิดคราบสกปรกได้ ทั้งยังเป็นจุดที่นานๆ ครั้งเราจะทำความสะอาดสักที (จริงไหมคะ) ดังนั้นเมื่อทำอาหารหกหรือคราบสกปรกจึงควรถอดชิ้นส่วนออกมาล้างและเช็ดทำความสะอาดทันทีด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือผสมน้ำยาล้างจานเล็กน้อย อย่าลืมหมั่นเคลียร์ของแช่ที่หมดอายุทิ้งเพื่อให้มีพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น
10. ขวดเครื่องปรุง แน่นอนว่าเมื่อใช้งานไปนานๆ ขวดเครื่องปรุงของเรามักจะเต็มไปด้วยคราบ หมั่นหยิบมาเช็ดทำความสะอาดฝาและข้างขวดอยู่เสมอ โดยเฉพาะขอบด้านในของขวดซอสต่างๆ อย่างซอสมะเขือเทศและซอสพริก เพื่อสุขลักษณะที่ดีและไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
11. ถาดรองจานและแก้ว นอกจากในตู้และลิ้นชักแล้ว ถาดรองจานเป็นอีกจุดหนึ่งที่เราละเลย เมื่อคว่ำจานและแก้วแล้วอาจจะเกิดเป็นคราบน้ำแห้งเกรอะ
12. เขียง โดยเฉพาะเขียงไม้ที่ควรดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เกิดคราบและกลิ่นติดค้าง วิธีทำความสะอาดอย่างง่ายคือใช้เกลือโรยบนหน้าเขียง จากนั้นนำมะนาวมาผ่าครึ่งแล้วขัดบนหน้าเขียงให้ทั่ว หรือใช้น้ำส้มสายชูเช็ดหมาดๆ ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างคราบสกปรกด้วยน้ำอุ่นและน้ำยาล้างจานให้สะอาดก่อนจะนำไปตากให้แห้ง
13. ผ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดมือ ผ้ากันเปื้อน ถุงมือกันความร้อน ผ้ารองจานและแก้ว ตลอดจนผ้าอเนกประสงค์ต่างๆ ที่ใช้ในครัว อย่าลืมหมั่นนำมาซักทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดคราบฝั่งแน่น กลิ่นอับ และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา
14. ขยะ จุดสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นเหม็นในห้องครัว หลังจากเช็ดทำความสะอาดและเก็บส่วนอื่นๆ ในครัวเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมปิดปากถุงขยะให้เรียบร้อยแล้วนำไปทิ้ง โดยเฉพาะขยะเปียกและเศษอาหารไม่ควรทิ้งไว้ในห้องครัวเป็นเวลานานๆ นะคะ เพราะเจ้าหนูและแมลงสาบน่าจะถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอนค่ะ
ซึ่งนอกจาก 14 จุดที่เรานำมาให้ทุกคนเช็กลิสต์และไม่หลงลืมที่จะทำความสะอาดกันแล้ว การเก็บของในครัวให้เป็นระเบียบไม่รกจนเกินไป หมั่นเช็ดถูพื้น ผนัง ประตู และหน้าต่าง และเปิดให้อากาศถ่ายเทอยู่เสมอ นอกจากประหยัดแรงในการทำความสะอาดครั้งใหญ่แล้ว ยังช่วยให้ครัวของเราสะอาดอยู่เสมอ และใช้งานได้สะดวกคล่องตัวมากขึ้นอีกด้วย