แบบครัวปูนหลังบ้านของคนทำขนม ออกแบบครัวสไตล์ Zakka ถึงจะเล็กแต่ไอเดียจัดเก็บล้น

พาไปชม แบบครัวปูนหลังบ้านของคนทำขนม ออกแบบครัวสไตล์ Zakka ของคุณน้ำ-ศรินทร์ รังสิกรรพุฒ เจ้าของสตูดิโอทำขนม Porjai Home Baking Studio กับการต่อเติมพื้นที่สวนหลังบ้านให้กลายเป็นสตูดิโอเวิร์กช็อปขนาดกะทัดรัด แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชันจัดเก็บและไอเดียเล็กๆ ที่เห็นแล้วอยากนำไปทำตามกันเลยล่ะ

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณน้ำและแฟนซื้อไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะอยู่ใกล้บ้านของคุณแม่ รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบค่อนข้างสงบและร่มรื่นด้วยธรรมชาติ ซึ่งคุณน้ำเล่าใฟ้เราฟังว่าเมื่อก่อนทำขนมในบ้าน แต่พื้นที่ค่อนข้างจำกัด และด้วยความที่อุปกรณ์ทำขนมเยอะ จึงคิดต่อเติมห้องครัวใหม่เพื่อใช้เป็นที่สำหรับทำขนมและเปิดเวิร์กชอปโดยเฉพาะ

ส่วนครัวหลังใหม่นี้ถูกต่อเติมมาจากบริเวณหลังบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ว่างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่เนื่องจากถูกจำกัดด้วยพื้นที่เพราะติดกับรั้วด้านหลังบ้านพอดี จึงพยายามออกแบบให้มีฟังก์ชันใช้งานครอบคลุม และใช้พื้นที่ทุกตารางให้ออกมาครบครันที่สุด สไตล์การตกแต่งห้องคุมโทนด้วยสีขาวผสมกับการใช้สีน้ำตาลของไม้ไล่ระดับให้ความรู้สึกอบอุ่น กลมกลืนไปกับธรรมชาติด้านนอก ประตูและหน้าต่างเลือกใช้เป็นกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 ด้านเพื่อให้แสงธรรมชาติกระจายทั่วห้องในตอนกลางวัน เป็นมุมพักสายตาระหว่างนั่งทำขนมทั้งวันได้ดีทีเดียว

พื้นที่ในห้องครัวแบ่งสัดส่วนออกเป็น 2 ฝั่ง ด้านซ้ายเชื่อมกับประตูบ้านเป็นส่วนวางของและจัดเก็บอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้แช่ เตาอบขนม และเครื่องซักผ้า อีกฝั่งหนึ่งเป็นส่วนพื้นที่ใช้งานครัว วางโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่สำหรับนั่งทำกิจกรรมไว้กลางห้อง ด้านหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์ปูนก่อเป็นรูปตัว I ยาวไปตามผนังจนสุดทางเพื่อรองรับการใช้งานหนัก ทอปเคาน์เตอร์เลือกใช้เป็นหินเทียมสีขาวแทนหินธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานและไม่เป็นรอยง่าย ส่วนของหน้าบานตู้ครัว

เลือกใช้บานไม้เนื้ออ่อนสีน้ำตาล ผิวเคาน์เตอร์ด้านล่างกรุด้วยแผ่นกระเบื้องโมเสกสีขาวเล็กๆ เรียงต่อกันจนเกิดเป็นลวดลายเฉพาะตัว ด้านในออกแบบให้เป็นช่องเก็บอุปกรณ์สำหรับทำขนมไว้หลายช่อง นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีลิ้นชักขนาดพิเศษซึ่งเล็กกว่าไซส์ปกติ สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์ทำเบเกอรี่อย่าง แม่พิมพ์คุกกี้รูปสัตว์หลากหลายขนาด

“ถ้าจะให้ครัวเป็นพื้นสีขาวเรียบๆ ทั้งหมดเลยคิดว่าอาจธรรมดาเกินไป  อยากให้มีกิมมิกน่ารักๆ อย่างผนังบนเคาน์เตอร์เราเลือกเป็นกระเบื้องลายแปดเหลี่ยม วัสดุอื่นๆ ก็เช่นกัน อยากให้มันมีหลายเท็กซ์เจอร์ มีทั้งทาสี กระเบื้องแปดเหลี่ยม กระเบื้องโมเสก อย่างวัสดุไม้เราไม่อยากใช้ไม้สีเดียวกันทั้งหมด หน้าบานตู้เลือกเป็นสีอ่อน ประตูเป็นสีเข้ม แต่โดยรวมก็ออกมาเข้ากันดี”

ในส่วนของฟังก์ชันการใช้งานเริ่มจากทางด้านซ้ายเป็นส่วนของเตาแก๊สและเครื่องดูดควัน ถัดมาเป็นอ่างล้างจานอะลูมิเนียมทรงสี่เหลี่ยม 2 หลุม ดูเข้ากับสไตล์ครัวเป็นอย่างดี ผนังเหนือเตาเลือกกรุกระเบื้องสีขาวลวดลายแปดเหลี่ยมเพื่อไม่ให้ผนังดูโล่งเกินไป กระเบื้องที่เหลือคุณน้ำบอกว่าสามารถเก็บไว้ใช้เป็นจานรองแก้วได้อีกด้วย บริเวณผนังเหนือเคาน์เตอร์ที่โล่งก็ยังดีไซน์ให้เป็นชั้นไม้วางของแบบโปร่งแบ่งเป็น 3 ชั้น สำหรับวางของกระจุกกระจิกและของตั้งโชว์น่ารักๆ “พยายามทำครัวนี้ให้มีพื้นที่เก็บของมากที่สุด อย่างลิ้นชักจะเป็นไซส์เล็กกว่าปกติเอาไว้เก็บพิมพ์ เพราะเราเคยใช้ตู้ลิ้นชักทั่วไปของมันซ้อนกันหยิบใช้ยาก จึงออกแบบลิ้นชักให้เล็กลง เป็นชั้นแคบๆ เลื่อนได้สะดวก”

หน้าต่างเหนือบริเวณอ่างล้างจานเลือกใช้เป็นกระจกบานเลื่อนกรอบไม้ เพื่อให้แสงแดดส่องถึงภาชนะที่คว่ำไว้ช่วยลดความอับชื้น ประตูด้านข้างเป็นกรอบหน้าต่างขนาดใหญ่สามารถเปิด-ปิดได้เพื่อระบายอากาศ และให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในตัวบ้านได้ตลอดวัน ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้ครัวดูกว้างขึ้นด้วย “ครัวนี้เหมือนถูกบังคับด้วยพื้นที่ที่จำกัด ความต้องการของเราคืออยากได้หน้าต่างด้วยเพื่อให้ได้แสงธรรมชาติ เพราะไม่ชอบแสงสีเหลืองจากไฟเวลาถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ค่อยสวย”

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตู้เก็บของขนาดยาว สำหรับจัดเก็บสิ่งของต่างๆ อาทิ จานชามลวดลายน่ารัก และแอกเซสเซอรี่ที่คุณน้ำสะสมไว้ ด้านบนมีตู้โชว์เก็บเหล่าตุ๊กตาตัวโปรดเรียงรายสวยงาม นอกจากนั้นบริเวณมุมผนังห้องยังซ่อนฟังก์ชันจัดเก็บ ด้วยการออกแบบให้เป็นตู้ไม้ขนาดใหญ่แบบซ่อน ด้านในเป็นชั้นวางของ สามารถเก็บวัตถุดิบทำขนมได้เต็มที่ “จริงๆ ครัวนี้ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีเพราะอยากได้ตู้วางของตรงมุมห้องอีก แต่ยังหาแบบที่ชอบไม่ได้ต้องค่อยๆ ดูไปเรื่อยๆ”

สิ่งสำคัญในการสรรค์สร้างครัวทำขนมนอกจากฟังก์ชันแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือเรื่องอุณหภูมิในห้อง “เมื่อก่อนเราทำขนมในห้องที่ไม่มีแอร์ มันไม่ค่อยสบายเท่าไร วัตถุดิบที่เป็นพวกครีมละลายเร็ว พอสร้างที่นี่ก็ติดแอร์ รู้สึกชีวิตดีขึ้น ทำขนมได้สบายใจขึ้น เปิดเพลงคลอๆ นั่งทำขนมไปเพลินๆ”

นับเป็นอีกหนึ่งสตูดิโอทำขนมที่ลงตัวทั้งดีไซน์และฟังก์ชันใช้งานที่ครบถ้วน เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญของครัวนี้เกิดมาจากการที่เจ้าของบ้านมีจุดประสงค์ในการทำครัวที่ชัดเจน ลงลึกและใส่ใจทุกรายละเอียด บ่งบอกว่าเจ้าของบ้านหลังนี้หลงรักธรรมชาติและความความเรียบง่าย พอใจในพื้นที่แบบที่ตัวเองชอบ เมื่อไรที่ได้ลงมือเข้าครัว ที่นี่ก็จะกลายเป็นสถานที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นความสุขที่สดใหม่คล้ายขนมที่เพิ่งออกจากเตาได้ทุกวัน

ขอขอบคุณ : Porjai Home Baking Studio