หลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับร้านกาแฟสุดเท่ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติกาแฟ และบรรยากาศการตกแต่งร้านสุดคลาสสิก ที่มีชื่อว่า BLUE DYE คาเฟ่ ซึ่งมีคุณตั้ม – กิตติพงษ์ ไพบูลย์สมบัติ ช่างภาพหนุ่มฟรีแลนซ์เป็นผู้ดูแล แต่ใครจะไปรู้ว่านอกจากความชอบในเรื่องของกาแฟแล้วนั้น คุณตั้มยังเป็นนักสะสมผ้ามัดย้อมตัวยงอีกด้วย

คุณตั้ม – กิตติพงษ์ ไพบูลย์สมบัติ
“ผมชอบเสน่ห์ของผ้ามัดย้อม เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงสีสัน และลวดลายที่สวยงาม คล้ายกับเป็นการบอกเล่าเรื่องราวในตัวของมันเอง”
ด้วยความที่ชอบสีน้ำเงิน และหลงใหลเสน่ห์ของผ้ามัดย้อมสีคราม ทั้งหมดจึงกลายเป็นที่มาของชื่อ BLUEDYE CAFÉ ( BLUE คือ สีน้ำเงิน และ DYE คือผ้ามัดย้อม ) “ ตอนแรกผมอยากจะเปิดชอปขายเสื้อผ้าอย่างเดียว เพราะว่าตัวเราเองก็เป็นคนชอบแต่งตัวแนววินเทจ และชอบใช้พวกของเก่า เสื้อผ้ามือสอง แต่ก็อยากจะทำอะไรควบไปด้วยจึงเปิดเป็นคาเฟ่ แต่ก็ยังมีพื้นที่เอาไว้สำหรับขายเสื้อผ้ามือสอง และโซนสำหรับนำพวกผ้ามัดย้อมที่เรามีมาโชว์ไว้ที่นี่ด้วย “
เริ่มต้นจากความชอบใส่กางเกงยีนส์เดนิม ทำให้คุณเริ่มหลงใหลกับเสน่ห์ของสีน้ำเงินเข้าอย่างจัง “ เริ่มจากเราชอบสะสมกางเกงยีนส์เดนิม เวลาเราใส่ไปนานๆ แล้วสีมันจะเริ่มซีด ผมรู้สึกว่ามันสวยดี แล้วก็ดูไม่เก่าเหมือนสีอื่นๆ แต่กลับมีเลเยอร์ที่สวยงาม แต่ผมไม่ค่อยชอบผ้ายีนส์ เพราะมันหนาและก็ร้อน ก็เลยอยากหาผ้าที่มันสวย ใส่แล้วสบายไว้ตัดใส่เอง หลังจากนั้นก็เริ่มสะสมพวกวัตถุดิบ พวกผ้าที่เป็นผืนมา เอาไว้ดูลายแปลกๆ พอเรามีไอเดีย ก็เอาไปทำพวกเสื้อผ้าไว้ใส่เองได้”
ผ้ามัดย้อมที่คุณตั้มนำมาให้เราได้ชมวันนี้ มาจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น แอฟริกา ญี่ปุ่น หรือของไทย ซึ่งแต่ละลายก็มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ซึ่งรวมๆ แล้วก็มีเกือบร้อยชิ้นเลยทีเดียว
“ ผมชอบผ้ามัดย้อมเพราะมันมีเสน่ห์ และมีกระบวนการทำที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะผ้าที่ผ่านการใช้แล้ว เพราะผมคิดว่ามันเหมือนมีเรื่องราวในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรอยต่อของผ้า หรือลวดลายที่ไม่สมบูรณ์แต่สวยงาม สิ่งนั้นมันคือเสน่ห์ของผ้ามัดย้อม ส่วนมากผ้าที่ได้มาจะฝากเพื่อนซื้อบ้าง หรือเวลาไปเที่ยวก็ซื้อเก็บไว้ ผมชอบผ้ามัดย้อมที่มาจากแอฟฟริกา เพราะมันมีลายแปลกๆ และมีเท็กเจอร์ดีที่สุด รองลงมาก็ผ้ามัดย้อมจากญี่ปุ่น เพราะเนื้อผ้ากับลายบนผ้าเค้าจะสวย ที่สำคัญคือเค้าใช้สีออร์แกนิคแบบย้อมธรรมชาติ ของญี่ปุ่นนั้นผ้ามันจะถูกล้างมาอย่างดีเพื่อให้มันนิ่มขึ้น แล้วค่อยนำมาผ่านกระบวนการ ซึ่งจะแตกต่างกับผ้าบ้านเราซึ่งหาผ้าที่ย้อมมาจากธรรมชาติจริงๆ ค่อนข้างน้อย และนิยมวิธีย้อม ที่เรียกว่า Tiedry ซึ่งจะทำให้สีมันไม่สม่ำเสมอ แต่ก็มีผ้าจากเชียงใหม่ที่ผมชอบ ซึ่งใช้เทคนิคเขียนเทียน ถือเป็นเอกลักษณ์ที่สวยทีเดียว ”

คอลเล็กชันผ้ามัดย้อมจากแอฟฟริกาที่คุณตั้มชื่นชอบ
เรียกได้ว่าจริงจังกับผ้ามัดย้อมมากๆ เพราะคุณตั้มยังเคยได้มีโอกาสไปเรียนทำผ้ามัดย้อมถึงแหล่งที่มีชื่อเสียงอย่างสกลนคร เพื่อเรียนรู้กระบวนการและขั้นตอนการทำอย่างละเอียด “ จริงๆแล้ว ผ้ามัดย้อม มันไม่ได้มีแค่ย้อมสีคราม มันยังมีย้อมโคลน ย้อมผลไม้ แต่สีที่เค้านิยมที่สุด ก็คือย้อมคราม เพราะสวยสุด เราก็ได้เรียนรู้ตั้งแต่ กระบวนการหมัก และเลี้ยงผ้าด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งแต่ละจังหวัดก็จะมีวิธีการแตกต่างกันไป พอเราได้ไปเรียนรู้เทคนิค เห็นลายผ้าสวยๆ จากหลายแหล่ง เราก็เลยอยากจะทำใช้เอง อย่างเช่น กางเกงกับเสื้อ หรือกระเป๋าถือ ซึ่งเราก็เอาผ้าแอฟฟริกา ลายที่เราชอบมาออกแบบ ใช้เทคนิคนำผ้ามาต่อๆ กัน แล้วให้เพื่อนที่เป็นช่างตัดเสื้อช่วยตัดให้”

ผ้ามัดย้อมสีครามฝีมือคนไทย สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ด้วยเทคนิคเขียนเทียน
นอกจากผ้ามัดย้อมสวยๆแล้ว ที่นี่ยังมีเครื่องประดับวินเทจ ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า กระเป๋าที่เป็นสินค้าจากผ้ามัดย้อมไว้ขายอีกหลากหลายคอลเล็คชั่นอีกด้วย ใครแวะมาชิมกาแฟที่ BLUEDYE CAFÉ แล้ว ก็สามารถแวะขึ้นไปชมผ้ามัดย้อมสวยๆ ของคุณตั้มกันได้เลย
เนื้อหาจากคอลัมน์ Decollector ฉบับที่ 134
ขอขอบคุณสถานที่ BLUE DYE CAFÉ สุขุมวิท 36
Facebook : BlueDyeCafe